บท
ตั้งค่า

บทที่ 1-2

คืนนี้แล้วหรือที่ชมหวายจะต้องเข้าหอกับผู้ชายที่เธอไม่ปรารถนา ภายในห้องสีครีมมีบานกระจกใสกั้นระหว่างโซนนั่งเล่นกับเตียงนอน ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างถูกเด็กรับใช้ในบ้านเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย เสื้อผ้าอาภรณ์ทุกชุดแขวนอย่างเป็นระเบียบในตู้เสื้อผ้า แต่ว่าเจ้าของต่างหากที่ไม่ได้ให้ความสนใจกับมันเลย

ห้าทุ่มกว่าแล้วแต่ชมหวายยังนั่งกอดรูปภาพที่ธาราให้มาอยู่บนเตียง กวินเดินออกมาจากห้องน้ำและพบว่าเจ้าสาวยังอยู่ในชุดวิวาห์ดังเดิม

“วางลงก่อนก็ได้ ไม่มีใครขโมยหรอก” เขาแนะพลางไล่ฝ่ายหญิงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า กวินอยู่ในชุดคลุมสีเทาพร้อมกางเกงแพรตัวโปรด

ชมหวายเห็นและได้ยินคำพูดของเขาทุกคำแต่ทำนิ่งเฉย ตลอดเวลาเพียรลอบมองว่าเขาจะเดินไปไหนหรือทำอะไร ด้วยความที่ไม่ชินกับการอยู่ร่วมห้องเดียวกันกับคนแปลกหน้า

“ผมรู้ว่าคุณอึดอัด หวาดระแวง ผมเองก็รู้สึกไม่คุ้นเหมือนกัน แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เดี๋ยวคุณก็จะชินไปเอง” เขาพูดอย่างไม่ยี่หระ

ชมหวายหันมองหน้าแล้วทำเมินเฉย ผ่านไปหลายนาทีก็ยังไม่ขยับ กระทั่งคนเป็นสามีเริ่มหงุดหงิด

“ตกลงคุณจะนอนทั้งชุดนี้ใช่มั้ย?” กวินถามเสียงดุ แต่จริงๆ ก็รู้ว่าหญิงสาวเหนื่อยและไม่มีอารมณ์จะเสวนาด้วย

ชายหนุ่มเดินตรงมานั่งที่เตียงแล้วเอื้อมมือจะไปสัมผัสแขน ปรากฏว่าหญิงสาวเบี่ยงตัวหลบ ครั้นจะยื่นมือไปแตะที่ขาเธอก็ชักเท้ากลับเหมือนรังเกียจ

“เอาล่ะๆ ผมจะไม่แตะต้องตัวคุณเลย ผมรับปาก” เขารู้ว่าชมหวายไม่มีทางยอมร่วมเตียงกับเขาแน่นอน

กวินตัดสินใจออกไปนอนที่โซฟาและให้เธอนอนตรงนี้ โดยแนะให้วางรูปนั่นเสียก่อนแล้วไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สบายเนื้อสบายตัว รับประกันได้ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นในคืนนี้ ทว่าฝ่ายหญิงมองเหมือนลังเล กระทั่งเห็นกวินหอบหมอนและผ้าห่มออกไปกองที่โซฟา

สุดท้ายชมหวายก็ยอมลุกจากเตียงนอน สร้อยเพชรที่เป็นสมบัติของชมมาสถูกถอดวางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง ตลอดเวลาก็หันรีหันขวางเหมือนติดขัดไปเสียหมด นั่นเป็นเพราะว่าเธอยังแปลกที่

ของที่ระลึกจากธาราถูกวางไว้ยังโต๊ะกระจก กวินหยุดมองนิดหนึ่งแล้วเดินจากไป ระหว่างที่ชมหวายเดินเข้าไปอาบน้ำ ร่างสูงเปิดประตูออกไปยืนตากลมที่ระเบียง ด้านหลังเป็นสวนสวยแนวโมเดิร์น เห็นรูปปั้นทรงเลขาคณิตสลัวอยู่ท่ามกลางแสงไฟสนาม

เสียงฝักบัวดังขึ้นเอื่อยๆ ประกอบกับลมที่พัดพาเอาสติของเขาคล้ายจะดับวูบลง กวินรู้สึกว่าตัวเองแปลกไปอาจจะเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเมื่อหัวค่ำ แต่แล้วดวงตาโตก็เบิกโพลงเมื่อเห็นเงาของใครบางคนยืนอยู่ด้านล่าง

“คุณพ่อ!” กวินเอ่ยขึ้นเบาๆ ด้วยความตกใจ ทวีเงยหน้ามองมาที่เขาแล้วยิ้มให้ กวินอยากจะร้องเรียกแต่กลัวชมหวายได้ยินเข้า

“คุณพ่อมาแสดงความยินดีกับผมใช่มั้ยครับ” เขายิ้ม สำนึกทันทีว่าเวลาแห่งการเริ่มต้นได้มาถึงแล้ว

กวินบอกกับบิดาว่าตนทำสำเร็จไปแล้วขั้นหนึ่ง เขาใช้แผนหลอกล่อชมหวายให้แต่งงานด้วยได้สำเร็จ เวลานี้ทุกคนเชื่อสนิทใจว่าเขาเจตนาดี ทั้งที่ลึกๆ เขาไม่เคยลืมหรือล้มเลิกที่จะเอาคืนเลย ไม่ว่าอย่างไร คนที่ทำให้ครอบครัวของเขาระส่ำจะต้องระส่ำกว่าเป็นหลายเท่า

“คุณพ่อรู้มั้ยครับว่าผมอึดอัดแค่ไหนที่ต้องทำดีกับคนพวกนั้น ผมต้องเอาใจเขาทั้งที่รู้ว่าเขาทรยศพ่อ เขาทำให้พ่อต้องตาย” กวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงชิงชัง แววตาไหวระริกแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวราวกับเหล็กกล้า

“ผมจะทำทุกอย่างเพื่อแก้แค้นในสิ่งที่หิรัณยรัศมิ์ทำไว้กับธนวรรธน์และอดุลย์อดิศัย”

สิ้นคำพูด ร่างของทวีก็เลือนหายไปเหลือแต่ความว่างเปล่า ทว่าคนที่ยืนสงบนิ่งอยู่เบื้องหลังกลับเย็นวาบราวกับถูกฉาบด้วยน้ำแข็ง

“ชมหวาย!” เขาหันมาเพราะได้ยินเสียงกระแทกกระจก ร่างระหงถึงขั้นทรุดลงกับพื้นหลังได้ยินประโยคเมื่อครู่

“ที่แท้คุณก็ต้องการจะแก้แค้น” หญิงสาวแทบประคองตัวไม่ขึ้น

กวินชะงักไม่คิดว่าเรื่องจะเฉลยเร็วขนาดนี้

“งั้นผมคงไม่ต้องสร้างภาพแล้วสินะ” ร่างสูงเหยียดยิ้ม ในเมื่อทุกอย่างเปิดเผยแล้วก็ไม่จำเป็นต้องปิดบัง

ทุกอย่างกลับตาลปัตรโดยสิ้นเชิง กวินแสดงออกถึงท่าทีขึงขังเต็มที่อย่างไม่เกรงใจ และนี่คือความรู้สึกแท้จริงที่เขามีต่อหิรัณยรัศมิ์

“คุณมันเลวจริงๆ เลวอย่างไม่น่าให้อภัย” ชมหวายตราหน้าเขาด้วยแววตาที่แสดงถึงความเกลียดชัง

“ความเลวของผมมันไม่เท่าครึ่งของสิ่งที่พ่อคุณทำหรอก” กวินถึงเดินดิ่งมาถึงตัว ย้อนด้วยน้ำเสียงกระด้างจนชมหวายตกใจถอยเท้าหนีไปจนสุดขอบผนัง

“ฉันจะบอกความจริงให้ทุกคนรู้”

“ไม่มีวัน! คนอย่างกวินจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำลายแผนการได้ทั้งนั้น แม้แต่คุณ!” เขาเน้นเสียง ขวางทางไม่ให้เธอวิ่งออกนอกประตู และขู่ว่าจะล่ามโซ่หากเธอขืนก้าวเท้าออกไปจากห้อง

ชมหวายยั้งเท้าเหมือนลังเล แต่สุดท้ายก็หาจังหวะที่เขาเผลอพุ่งพรวดไปที่ประตู ไม่ว่ายังไง ชรินจะต้องได้รู้ความจริง ก่อนที่คนเป็นพ่อจะเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ในวันรุ่งขึ้น ทว่ากวินคว้าตัวเธอไว้ได้ก่อน

“อย่าทำอะไรพ่อฉัน อย่ายุ่งกับครอบครัวฉัน” หญิงสาวประกาศกร้าว สายตาของชมหวายคล้ายกับนกน้อยที่กำลังถูกเหยี่ยวตัวใหญ่เล่นงาน

กวินถึงกระชากแขนเธอเข้ามาราวกับเชือกเส้นหนา แววตาของชายหนุ่มไม่ต่างกับพยัคฆ์ร้ายที่จับจ้องหมายจะปลิดชีพเหยื่อ

“งั้นคุณก็รับผิดชอบแทนแล้วกัน” ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีจับชมหวายมัดมือมัดเท้าและผลักให้นอนไปกับเตียง เธอทั้งร้องทั้งถีบจนผ้าปูที่นอนร่นลงมากองกับพื้น หนักเข้ากวินจึงเดินไปนั่งข้างๆ แล้วขู่ว่าจะหาผ้ามามัดปากด้วยหากหญิงสาวยังไม่หยุดโวยวาย

“เลิกบ้าได้แล้ว!” เขากัดฟันอย่างเหลืออด ชมหวายดันตัวขึ้นและกัดไปที่แขนของเขาเต็มแรง

ชายหนุ่มร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ มองหน้าเจ้าของคมเขี้ยวอย่างเดือดดาล

“ชมหวาย!!” เขาโกรธมาก สีหน้าแววตาของกวินบ่งบอกว่าเธอตายแน่หากยังไม่หยุดอาละวาด

“มานี่!” มือใหญ่จับใบหน้างามหันมาแล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่คาดไปที่ปาก หมดสิทธิ์ที่จะบริภาษสาดด่าใดๆ ทั้งสิ้น

“อื้อออ...” ร่างระหงถูกลิดรอนอิสรภาพแต่ก็ยังพยายามจะขัดขืน

กวินเดินหัวเสียกลับไปที่โซฟา ยกแขนซ้ายที่ยังเห็นรอยฟันฝังลงเป็นจ้ำขึ้นดูอย่างนึกโมโห เขานั่งมองเธอแผลงฤทธิ์ไปเรื่อยๆ ทั้งที่ปากถูกมัดด้วยผ้า อยากดูน้ำหน้านักว่าจะเก่งได้อีกนานสักแค่ไหน

“อวดดีไปเถอะ เดี๋ยวได้สิ้นฤทธิ์แน่” เขาคาดโทษ พร้อมกันนั้นก็ไม่วายหันมามองหน้าคนอวดดี

“คุณรู้มั้ยว่าก่อนหน้าทำไมผมถึงช่วยพวกคุณ...ก็เพราะผมไม่อยากให้พวกคุณเป็นอะไรไปก่อนได้ชดใช้กรรมไง หิรัณยรัศมิ์จะต้องย่อยยับด้วยน้ำมือของนายกวินคนนี้เท่านั้น!” เขาประกาศกร้าว

ชมหวายได้แต่มองหน้าคนใจยักษ์ด้วยแววตาเกรี้ยวกราด ด้วยแม้แต่จะเอื้อนเอ่ยหรือขยับตัวยังแทบจะทำไม่ได้

ชมหวายดิ้นสุดกำลังก่อนจะทะลึ่งพรวดลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง และพบว่าตัวเองยังนอนแนบอยู่กับพื้นไม้ตามเดิม ทว่าบรรยากาศรอบๆ เริ่มเปลี่ยนไป เสมือนแสงสว่างจากภายนอกจะเล็ดลอดเข้ามา

“นี่เราเผลอหลับไปตอนไหน” ร่างระหงไม่รู้เลยว่าน้ำตาแห้งไปเมื่อไหร่

ถึงตอนนี้ความกลัวจับใจยังแล่นอวลอยู่จากเมื่อคืน เธอฝันถึงเรื่องราวเมื่อสองวันก่อน จิตใจยังคงประหวั่นกับเหตุการณ์เหล่านั้นประหนึ่งเพิ่งประสพพบเจอมา

“ธารา...กรอบรูป” เธอนึกได้ถึงของขวัญที่อดีตคนรักเคยให้ในคืนนั้น

จำได้ว่ากวินลากเอากระเป๋าเดินทางเธอมาทิ้งไว้บริเวณใกล้ๆ กับเก้าอี้ที่เขานั่ง ร่างแบบบางปรี่เข้าไปรื้อเอาเสื้อผ้าและของใช้ออกจนหมด แต่ว่ามันไม่มีสิ่งที่เธอกำลังหา แววตาลุกลนควานสำรวจไปทั่วทุกซอกกระเป๋า กวินไม่ได้หยิบมันมาด้วย หรือเขาอาจจะเขวี้ยงทิ้งไปแล้วระหว่างทาง

“โธ่...” คนท้อแท้ได้แต่ถอนหายใจ เวลานั้นเดินไปดับตะเกียงและเปิดม่านรับแสงจากพระอาทิตย์ตอนเช้า แต่สิ่งที่เห็นคือความเขียวของแมกไม้ด้านนอก ที่ซึ่งเมื่อคืนเธอก็ออกไปยืนอยู่ตรงนั้นแต่กลับไม่เห็นถึงความงดงามเหล่านี้

ในยามเช้าอากาศของที่นี่ดีมากๆ ทว่าเมื่อแหงนมองเหนือยอดสูงของแนวไร่อ้อยก็มองไม่เห็นอะไรอื่นอีก ด้านหลังเป็นเทือกเขาทอดตัวยาวสลับซับซ้อน นอกจากเสียงนกร้องแล้วก็มีแต่ความเงียบ เงียบแล้วก็วังเวง

‘ตกลงที่นี่มันคือที่ไหนกันแน่?’ กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้

กวินพาเธอมาทิ้งไว้ที่ไหน เขาหายไปตั้งแต่เมื่อคืนและก็ไม่รู้จะติดต่อชายหนุ่มได้อย่างไร มือถือหรือแม้แต่กระเป๋าสตางค์ก็ไม่มี ตอนนี้หญิงสาวมีแต่ตัว และถ้ากวินไม่กลับมาเธอจะอยู่ได้ยังไงคนเดียว

“เฮ้อ!” มือน้อยยกขึ้นปาดหน้าผากมน ปัดปอยผมสีน้ำตาลที่หลุดกระเซิงไปด้านข้าง หันมาพิจารณาบ้านไม้สักชั้นเดียวนี้อีกครั้งอย่างอ่อนใจ

เพิ่งเห็นถึงความสวยงามร่วมสมัยของเรือนหลังดังกล่าว พอมองในตอนเช้าบานกระจกใสและหน้าต่างสูงโดยรอบให้ความรู้สึกโปร่งสบายอย่างบอกไม่ถูก แม้เมื่อคืนจะรู้แต่ว่ามันช่างน่ากลัวจับจิตจับใจ

ร่างอิดโรยเดินกลับเข้ามาในบ้านอีกครั้งพร้อมกับสำรวจพื้นที่ภายในบ้าน หลังจากกวินกลับไปเธอไม่ได้เยื้องกรายออกไปห่างจากห้องโถงตรงนี้เลย

ด้านในลึกเข้าไปยังมีห้องอื่นๆ อีกหลายห้อง เอาเข้าจริงๆ บ้านหลังนี้ไม่ได้เหมือนถูกทิ้งร้างว่างเปล่า สังเกตจากการที่ใช้มือลูบไปตามเฟอร์นิเจอร์ไม้ ปรากฏว่ามันสะอาดแทบจะไม่มีคราบฝุ่น ประหนึ่งว่ามีคนคอยมาปัดกวาดเช็ดถูเป็นประจำ แต่น่าเสียดาย ที่นี่ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว

ชมหวายเดินไปหยุดที่ไซต์บอร์ดไม้สักตัวหนึ่ง รู้สึกเหมือนกับว่าตรงนี้มันต้องเคยมีโทรทัศน์ตั้งอยู่แต่ถูกโยกย้ายออกไป คนอยากรู้อยากเห็นเดินตรงไปยังห้องแรกซึ่งอยู่ถัดจากห้องรับแขก ทว่ามันล็อคกุญแจไว้ ถัดมาอีกฝั่งก็มีอีกห้องหนึ่ง มือเล็กดันบานประตูเข้าไปก็เห็นเตียงนอนขนาดคิงส์ไซส์ตั้งอยู่เกือบจะกลางห้อง แถมด้านในยังถูกตกแต่งไว้อย่างพิถีพิถัน

หญิงสาวตรงไปตรวจตราทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในห้องนั้นโดยทันที ทั้งเตียงและผ้าปูที่นอนเรียบสนิทเหมือนเพิ่งจัดไว้ ตู้เสื้อผ้าที่มีแต่เสื้อเชิ้ตและชุดผู้ชาย ที่สำคัญ กลิ่นนี้เป็นกลิ่นน้ำหอมของกวินเธอจำได้ เมื่อเปิดประตูทะลุไปยังห้องน้ำก็เห็นมีข้าวของเครื่องใช้ของผู้ชายบางส่วน

เดาว่าชายหนุ่มต้องเคยพักที่นี่ แต่อาจจะแค่ครั้งคราวเพราะสังเกตจากข้าวของที่มีอยู่ ชมหวายใช้เวลาที่เหลือคลายความเศร้าด้วยการสำรวจในตัวบ้าน มือเล็กลากกระเป๋าเดินทางเข้ามาในห้องนอนและเอามือดันเสื้อผ้าของกวินไปชิดมุมตู้ ทยอยหยิบเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นมาแขวน ขัดใจหลายเรื่องเพราะกวินโกยมาให้เธอเพียงแค่ไม่กี่ชุด ซ้ำแทบจะไม่มีเครื่องประทินโฉมเลยด้วยซ้ำ

ใครจะเชื่อว่าภรรยาของนักธุรกิจอสังหาฯ จะมานั่งคอตกอยู่กลางบ้าน ใครจะคิดว่าเจ้าของรีสอร์ตชื่อดังในจังหวัดสระบุรีจะจับภรรยาขังไว้ในไร่อ้อย

เวลานี้ท้องกิ่วเริ่มคำรามเพราะต้องการอาหารประทังชีวิต แต่สภาวการณ์เช่นนี้เธอจะเอาอะไรมายาไส้ ในครัวไม่มีแม้แต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหรือไข่สักฟอง ตู้เย็นโล่งโจ้งมีแต่น้ำเปล่าแช่ไว้ให้ ในตู้เหนือเคาน์เตอร์หรือเตาแก๊สมีแต่น้ำมันพืชกับเครื่องปรุงรส

ชีวิตทำไมถึงได้รันทดขนาดนี้ มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาบ้างในบ้างครั้ง อดน้อยใจในโชคชะตาไม่ได้ที่ต้องมาเจอแต่เรื่องช้ำอกช้ำใจไม่เว้นแต่ละวัน ป่านนี้หลวงพ่อท่านคงจะกำลังประกอบกิจของสงฆ์ คนเป็นลูกไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้กราบไหว้ผู้เป็นพ่อในวันที่ท่านครองสมณเพศ ทำได้แต่ยกมือขึ้นอนุโมทนาสาธุอย่างเงียบๆ อยู่ที่นี่

“ไม่ต้องห่วงนะคะ หวายจะเข้มแข็ง เขาทำอะไรหวายไม่ได้หรอกค่ะ” เธอกลืนก้อนสะอื้นเบาๆ ข่มสติและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

แววตาม่นเงยหน้ามองขื่อบ้านอย่างรันทดใจ หมดเวลาแล้วที่จะนั่งจมจ่อมอยู่ในห้วงน้ำตา ป่านนี้ธาราคงจะมีความสุขอยู่กับครอบครัวที่อบอุ่นของเขา เธอเองเป็นฝ่ายเลือกที่จะแต่งงานกับกวิน ฉะนั้นผลของมันเธอจำต้องรับเอาไว้เอง

“คุณจะไม่มีวันสมหวัง คุณกวิน” เธอประกาศกร้าวให้ความว่างเปล่าเป็นพยาน

สิ่งเดียวที่ยังคงอยู่คือความทะนงในศักดิ์ศรี ถึงวันนี้เธอก็จะไม่มีวันยอมแพ้ เขาจะแก้แค้นหรือทรมานเธอยังไงก็ตาม แต่หญิงสาวจะสู้และทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ชมธารารีสอร์ตกลับคืนมา

“คุณอยากแก้แค้นก็เชิญ แต่จำไว้ ฉันไม่ใช่เชลยของคุณ!” ร่างระหงยืนกำมือแน่น เธอจะไม่ยอมนอนร้องไห้เพื่อให้ชายหนุ่มรังแกได้อยู่ฝ่ายเดียว และหนทางไหนที่จะทำให้เขาเจ็บปวดได้เธอจะทำ ยิ่งแค้นยิ่งดี เธอจะยืนมองกวินถูกไฟแค้นที่สุมไว้เผาตัวเองจนมอดไหม้ในกองเพลิง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel