บทที่ 1-1
หนึ่งปีก่อน...
การปรากฏตัวของกวิน อดุลย์อดิศัยสร้างความตื่นเต้นฮือฮาให้กับคนในชมธารารีสอร์ต ด้วยความหล่อเหลาและมีเสน่ห์เป็นที่พูดถึงในบรรดาพนักงานสาวทั้งหลาย แต่ที่เจ้าของกิจการอย่างชมหวาย หิรัณยรัศมิ์ให้ความสนใจคือวัตถุประสงค์ของเขา
ร่างระหงพยายามสืบจนทราบว่ากวินเป็นใครมาจากไหน เขาเพียรพยายามเข้ามาตีสนิทกับชรินผู้เป็นบิดา กระทั่งรายนั้นไว้วางใจ ทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เป็นที่ระแคะระคายของคนในรีสอร์ต แต่เจตนาที่ซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้าคมสันนั้นคือผลประโยชน์
กวินทราบถึงปัญหาทางการเงินของรีสอร์ตเป็นอย่างดี เพราะชรินป่วยหนักและต้องเข้ารับการรักษาอาการอยู่บ่อยครั้งทำให้ชมหวายตัดสินใจจำนองที่ดินบางส่วนของรีสอร์ตไว้กับธนาคาร แต่ปัญหาคือเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจากทั้งคู่แข่งและอุบัติภัยธรรมชาติทำให้การชำระหนี้ต้องสะดุด
รีสอร์ตกำลังจะถูกยึดและชมหวายก็ไม่มีทางหาเงินมาชำระหนี้ในส่วนที่เหลือได้ทันตามกำหนด กวินเสนอซื้อกิจการจากเธอแต่ชมหวายปฏิเสธ เธอให้สัจจะกับผู้เป็นพ่อไว้ตั้งแต่ครั้งที่ได้รับสืบทอดงานว่าจะรักษาที่ดินและกิจการนี้ไว้ให้ดีที่สุด จะไม่ยอมให้สมบัติชิ้นสุดท้ายที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของบิดาต้องตกไปเป็นของคนอื่น
แต่แล้ววันหนึ่งเรื่องเหลือเชื่อก็เกิดขึ้น เมื่อประวัติของกวินถูกเปิดเผย จริงๆ แล้วเขาคือบุตรชายคนเดียวของทวี นามว่า ธีร์วินท์ ธนวรรธน์ ซ้ำยังเป็นคนที่ซื้อที่ดินหลุดจำนองด้านทิศเหนือของชมธารารีสอร์ตไว้ และเวลานี้เขากำลังจะสร้างมันเป็นโรงแรมหรูระดับห้าดาว
ปมการตายของทวีทำให้ชรินอดวิตกไม่ได้ว่าตระกูลธนวรรธน์จะคาดโทษ ในคืนที่ทวีเสียชีวิตไม่มีใครล่วงรู้ถึงเหตุการณ์นอกจากถกลซึ่งเสียชีวิตหลังจากนั้นเพียงแค่วันเดียว
กัญญาซึ่งสนิทสนมกับชรินมาเนิ่นนานเชื่อว่าทุกอย่างคืออุบัติเหตุ นางพยายามย้ำกวินหลานชายเสมอถึงเรื่องนี้ กัญญาเป็นญาติผู้ใหญ่ที่กวินเคารพและเชื่อฟัง หากคำพูดของนางก็ยังไม่สามารถลบเลือนความแค้นภายในจิตใจของชายหนุ่มได้ เขาทำในสิ่งที่กัญญาและใครหลายคนก็คาดไม่ถึง นั่นคือการวางแผนแก้แค้นครอบครัวหิรัณยรัศมิ์
ชื่อ ธีร์วินท์ ถูกเปลี่ยนมาเป็นกวินเนื่องจากเหตุผลบางอย่าง ชายหนุ่มเปลี่ยนมาใช้นามสกุลอดุลย์อดิศัยตามมยุรามารดาซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่เขาอายุได้เก้าขวบ ทำให้ที่ผ่านมาทั้งชรินหรือแม้แต่ชมมาสซึ่งบวชเป็นชีอยู่นั้นก็ไม่ทราบว่าชายหนุ่มเป็นคนคนเดียวกัน ความมาแตกเมื่อชมหวายให้แม่บ้านไปค้นเจอนามบัตรในห้องพักของเขา
ในฐานะบุตรชายของทวีทำให้ชรินเอ็นดูกวินเป็นพิเศษ และเจ้าตัวก็ใช้สิทธิพิเศษนี้ทำให้ทุกคนเชื่อว่าเขามีเจตนาดี แม้ชมหวายจะเล็งเห็นถึงความร้ายกาจของเขามาตลอด แต่ผู้เป็นพ่อไม่คิดเช่นนั้น เขาไว้ใจกวินเกินกว่าจะระแวงชายหนุ่ม
ชรินเชื่อตามที่กวินต้องการจะให้เป็นว่าครอบครัวเขาไม่มีความคิดที่จะแก้แค้น ต่อเมื่อหิรัณยรัศมิ์ตกลงใจจำนองที่ดินกับเขาโดยมีเงื่อนไขบางอย่าง หนึ่งในนั้นคือขอสิทธิ์ในการบริหารชมธารารีสอร์ตเพื่อแลกกับความเสี่ยง
กวินยกเรื่องการแต่งงานเพื่อเป็นหลักประกันมาอ้างให้ชรินทบทวน ซึ่งขณะนั้นชมหวายกับธาราเกิดปัญหากันพอดี หญิงสาวจึงตัดสินใจตกลงแต่งงานกับเขาเพื่อยุติปัญหา โดยไม่ทันฉุกคิดว่าการประชดรักในครั้งนั้นมันจะเข้าแผนของกวิน
ปัจจุบันนี้แม้รีสอร์ตจะถูกปลดหนี้จากธนาคารแล้ว แต่ที่ดินด้านทิศเหนือของชมธาราได้ติดจำนองอยู่กับกวินแทน กับสัญญาอีกฉบับที่ทำขึ้นระหว่างบุคคลทั้งสองฝ่าย ว่าชมหวายจะต้องไม่หย่าร้างกับกวินภายในระยะเวลาหนึ่งปีหลังจากนี้ ถ้าฝ่ายหญิงผิดสัญญาที่ดินจะตกเป็นของฝ่ายชายทันที แต่หากชมหวายนำเงินมาใช้หนี้เต็มตามจำนวนเมื่อไหร่ หญิงสาวจะมีสิทธิ์ได้ที่ดินของเธอคืนมาดังเดิม
...ทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามครรลองของมัน และชมหวายคิดว่าปัญหาทุกอย่างมันกำลังจะยุติลงแล้ว เพราะก่อนแต่งงานเธอรวบรวมทรัพย์สินทั้งหมดใช้หนี้กวินไปกว่าเจ็ดสิบล้าน เงินที่ได้จากสินสอดเธอคืนให้ชายหนุ่มตามที่ตกลงกัน หลังจากนี้ชมหวายเหลือใช้หนี้กวินแค่สามสิบล้าน และทุกอย่างก็ดูไม่ติดขัดกระทั่งเมื่อวันวิวาห์มาถึง หญิงสาวถึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วการแก้แค้นมันเพิ่งจะแค่เริ่มต้นเท่านั้น
ณ คลองบางโฉลง...
เสียงแห่ขันหมากดังกึกก้องคุ้งน้ำ พร้อมขบวนเรือนับสิบลำกินบริเวณกว้างเกือบจะเต็มลำคลอง ชาวบ้านต่างฮือฮาและร่วมแสดงความยินดีไปกับงานมงคลนี้ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่มีการยกขันหมากทางน้ำและจัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการ
ฝ่ายเจ้าบ่าวมาพร้อมกับกัญญาผู้เป็นอาหญิงและขบวนสินสอดทองหมั้น มูลค่าทั้งหมดเมื่อรวมกันแล้วสมราคากับว่าที่เจ้าสาวแสนสวย ชรินอดปลื้มใจไม่ได้ที่เห็นบุตรสาวเป็นฝั่งเป็นฝา แม้ลึกๆ เขาตระหนักดีว่านั่นคือนัยทางธุรกิจ แต่ชายสูงวัยเชื่อว่าถ้ากวินได้อยู่ใกล้ชิดกับบุตรสาวของตน ไม่มีทางเลยที่เขาจะไม่รักใคร่เอ็นดูเธอ
“ไม่เจอกันนานนะกัญญา” ชรินกล่าวทักทาย เป็นครั้งแรกในรอบสิบปีที่ได้มีโอกาสเจอกัน
นางดูมีอาวุโสขึ้นแต่ยังสวยสะพรั่งเหมือนเมื่อครั้งยังสาว แน่นอนว่าคนรุ่นน้องก็ดีใจ แม่ชีชมมาสเองก็มาร่วมงานด้วยแต่อยู่ด้านในประรำพิธี ชรินพูดคุยกับกัญญาด้วยรอยยิ้มและฝากฝังบุตรสาวไว้กับนาง
“พี่ชรินไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ หนูหวายก็เหมือนกับหลานแท้ๆ ของกัญญา” หญิงกลางคนรับปากว่าจะดูแลชมหวายเป็นอย่างดี
คนโอบอ้อมอารีรับไหว้หลานสะใภ้ อดแสดงความเห็นไม่ได้ว่าเธอช่างละม้ายคล้ายชมมาสเมื่อครั้งยังสาว แต่ไม่ว่าใครที่มาร่วมงานต่างก็สังเกตได้ว่าเจ้าสาวที่แต่งตัวสะสวยนั้นคอยแต่จะหน้าเศร้าตลอดเวลา
“มานี่!” พอสบโอกาสคนเป็นเจ้าบ่าวก็ดึงแขนเจ้าสาวเข้าไปหลบมุม ร่างระหงในชุดไทยสีทองเกือบเซเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว
“ปล่อย!” หญิงสาวพยายามจะแข็งขืนแต่ไม่มีแรง กวินสีหน้าหงุดหงิดเหมือนไม่สบอารมณ์
“รบกวนสร้างภาพหน่อยได้มั้ย นี่มันงานแต่ง!” เขาเอ็ดเพราะได้ยินเด็กในรีสอร์ตซุบซิบกันว่าเห็นเจ้าสาวแอบไปยืนร้องไห้ในห้องน้ำ
“รู้แล้ว!” ชมหวายสวนอย่างขัดใจ
“ทำหน้าที่ของคุณให้ดีหน่อย เรื่องอื่นค่อยคิดทีหลัง ธาราของคุณเขาเป็นอดีตไปแล้ว แต่ผมนี่สิคือปัจจุบัน” เขาย้ำ
ชมหวายมองหน้าเขาอย่างเคืองขุ่น บอกว่าไม่ต้องห่วง เธอไม่ทำให้งานแต่งกำมะลอนี้ล่มอย่างแน่นอน
“กำมะลอเหรอ? แต่เราจดทะเบียนกันจริงๆ และถ้าคุณขืนยังเป็นอย่างนี้เราได้เห็นดีกันแน่” เขาขู่ ก่อนเดินจากไปด้วยความเบื่อหน่าย
ครั้นได้ฤกษ์ส่งตัวเข้าหอ สนามหญ้าของรีสอร์ตมีพนักงานมากมายมาคอยส่งบ่าวสาวกลับไปยังเรือนหอราคาร่วมหลายสิบล้าน แต่ชมหวายกลับทำหน้าเหมือนจะถูกพาไปลงนรก กวินเห็นแล้วชักหงุดหงิด
หลังจากนี้ชมธารารีสอร์ตจะถูกปิดปรับปรุง ชมหวายกอดชรินแล้วร้องห่มร้องไห้ ต่อไปนี้ทุกคนต่างก็มีหน้าที่ของตัวเอง ชรินก็มีสิ่งที่อยากทำนั่นคือดำเนินตามรอยธรรมและรับใช้พระพุทธศาสนา
ก่อนจาก ผู้เป็นพ่อกล่าวคำอวยพรก่อนจะส่งต่อให้เสน่ห์ซึ่งยืนข้างๆ กัน ชายกลางคนสัญญาจะทำหน้าที่ของตนต่อไปในการดูแลที่นี่ให้ดีที่สุด กวินให้คำมั่นกับชรินและตนไว้แล้วว่าจะไม่ทอดทิ้งชมธารารีสอร์ต
“ผมรับปาก ระหว่างนี้จะไม่มีการไล่ใครออก ผมจะดูแลทุกคนให้เหมือนกับที่ผ่านมา” เขาย้ำให้ทุกคนได้ยินทั่วกัน
และกระทั่งถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครแจ้งเจตจำนงที่จะลาออก ทุกคนยังเชื่อมั่นในกวินและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้กลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้งที่รีสอร์ตแห่งนี้
ชมหวายไล่กล่าวคำอำลากับพนักงานทุกคน เธอจะต้องไปอยู่กับกวินและช่วยงานเขาชั่วคราวระหว่างที่ดำเนินการปรับปรุงชมธารา หญิงสาวให้สัญญาว่าจะไม่ทอดทิ้งและจะกลับมาดูแลที่นี่อีกครั้งเมื่อทุกอย่างลงตัว
“หวายจะคอยแวะมาตรวจตราและดูความเป็นอยู่ของพวกเราทุกคนนะคะ”
ตลอดเวลาร่างระหงเอาแต่ร้องไห้ คนสนิททั้งเกนหลงและเบญญาต่างก็ยืนเช็ดน้ำตากันป้อยๆ แม้แต่ทินกรเองก็ยังน้ำตาคลอด้วยความใจหาย สองแม่บ้านสาวชาวกะเหรี่ยงยิ่งแล้วใหญ่ ยืนกอดคอกันร้องห่มร้องไห้หน้าละห้อย
“หวายไปนะคะ ระหว่างนี้ถ้าไม่ติดอะไรหวายจะหมั่นกลับมา” เธอให้คำมั่นพร้อมโบกมือลา
รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆ ทว่าเจ้าสาวที่นั่งอยู่ในรถก็ยังไม่หยุดสะอื้นไห้ สร้างความหนักใจให้กับเจ้าบ่าวมือใหม่อย่างกวินเป็นที่สุด
ชมหวายจับจ้องภาพทุกคนรวมถึงบรรยากาศผ่านกระจกมองข้าง จะจดจำมันไว้ก่อนที่ทุกอย่างจะแปรเปลี่ยนไป
ทิวทัศน์ของรีสอร์ตค่อยๆ ไกลออกไปทีละน้อย เจ้าบ่าวเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะเลี้ยวพ้นซุ้มประตูทางออก กวินขับมาเรื่อยๆ กระทั่งถึงกลางซอยที่ค่อนข้างเปลี่ยว เจ้าตัวเบี่ยงเข้าข้างทางและจอดกะทันหันกระทั่งชมหวายหน้าทิ่ม เจ้าสาวหันมองหน้าคนขับด้วยความข้องใจ หรือฝ่ายชายจะรำคาญเสียงสะอื้นไห้จนหมดความอดทน
“ฉันขอโทษที่ทำให้คุณหงุดหงิด” ร่างระหงใช้ทิชชูซับคราบน้ำตาเบาๆ กวินถอนใจหนักก่อนปลดเบลล์และเอี้ยวตัวไปหยิบบางสิ่งบางอย่างด้านหลังเบาะ
“ของคุณ” เขาส่งให้ มันเป็นกล่องของขวัญแบนๆ ขนาดใหญ่ที่ห่อด้วยกระดาษสวยงาม
ชมหวายรับไว้ด้วยความแปลกใจระคนสงสัย ชายหนุ่มไม่พูดอะไรต่อนอกจากเปิดไฟให้สว่าง พร้อมแนะนำหญิงสาวให้เปิดอ่านข้อความในการ์ดที่แนบมา
“ขอให้คุณมีความสุขตลอดไป...รักเสมอ จาก...” ชมหวายมองหน้ากวินทันที ข้อความลงท้ายระบุว่าของสิ่งนี้ส่งมาจากผู้ชายที่ชื่อว่าธารา
“คุณไปเจอเขา?” ฝ่ายหญิงชะงัก
กวินปฏิเสธ บอกว่าฝ่ายนั้นโทรเรียกเขาออกมาพบที่หน้ารีสอร์ต พร้อมกับฝากของขวัญชิ้นนี้มาให้ แถมกำชับด้วยว่าต้องส่งให้ถึงมือชมหวายให้ได้
“ไม่ลองเปิดดูล่ะ” เขาแนะ สังเกตเห็นชมหวายน้ำตารื้น
เสียงน้ำตาหยดแหมะลงบนกล่องตอนเธอบรรจงแกะกระดาษห่อ ท่ามกลางความเงียบ กวินก็อยากรู้เหมือนกันว่าชายหนุ่มส่งอะไรให้เจ้าสาวของเขา
ชมหวายสะอื้นออกมาเสียงดังทันทีที่กล่องถูกเปิดออก มันคือภาพของชายหญิงคู่หนึ่งนั่งพิงกันบนหอคอยสูง ท่ามกลางบรรยากาศใต้แสงจันทร์ที่เปล่งรัศมียามค่ำคืน และพิเศษกว่านั้นคือเมื่อกดเปิดสวิตช์ด้านข้างกรอบโครเมียม ภาพของดอกไม้ไฟก็ค่อยๆ พุ่งซ้อนขึ้นมาที่บานกระจก มันกระจายออกเป็นมิติสวยงามเสมือนจริง
“ธารา” ทีนี้ชมหวายร้องไห้หนัก ภาพนี้ทำให้นึกถึงค่ำคืนที่เธอกับเขานั่งชมดอกไม้ไฟด้วยกันบนหอคอย ท่ามกลางแสงสีรื่นเริงของงานวัดฝั่งตรงข้าม ผู้จัดการหนุ่มบอกรักชมหวายครั้งแรกในคืนนั้น
กวินถอนใจพรืดตอนเห็นของขวัญชิ้นดังกล่าว สำนึกบางอย่างบอกว่าธาราไม่เคยลืมผู้หญิงคนนี้เลย
และขณะที่ชมหวายนั่งพิจารณาประกอบกับเอามือสัมผัสบานกระจกเบาๆ ชายหนุ่มก็ตัดสินใจออกรถ
คนเป็นเจ้าสาวไม่สนแล้วว่าเขาจะขับพาเธอไปไหน เป้าหมายคือมองตรงไปยังเบื้องหน้า แต่ทว่าหัวใจอยู่กับรูปภาพในอ้อมกอด ไม่นานนักก็ถึงบ้านหลังใหญ่ที่ใช้เป็นเรือนหอ ภายในหรูหราและตกแต่งอย่างสวยงาม ที่สำคัญคือพื้นที่ภายในโอ่อ่ากว้างขวาง แน่นอนว่าชมหวายเคยมาที่นี่แล้วถึงสองครั้ง
แม่บ้านทุกคนออกมาต้อนรับนายหญิงกันอย่างพร้อมเพรียง ชมหวายซับน้ำตาจนแห้งเหือดหมดแล้วระหว่างเดินทาง ทว่าในใจยังโศกเศร้าเกินกว่าจะเช็ดให้แห้งได้
