บทที่ 2 พี่สะใภ้ (4)
ไม่รู้ว่าดอกเตอร์ลืมเอาติดไปที่ทำงานด้วย หรือเป็นเพราะไม่ใช้งานเขาเลยไม่เอาไป แต่เธอก็ถือโอกาสใช้งานเพื่อหางานในอินเตอร์เน็ตซะ
พอโน้ตบุ๊กพร้อมใช้งาน กลิ่นจันทร์ก็เห็นคลิปไฟล์ภาพเคลื่อนไหวที่หน้าจอ เธอจะไม่สนใจเลยหากชื่อคลิปจะไม่เขียนว่า... กลิ่นจันทร์!
เลิกงานแล้วทรงกรดก็รีบมุ่งหน้ากลับมาบ้านทันที เพราะเขาเชื่อว่ายังไงทรงศักดิ์ต้องคุยกับเขาอย่างแน่นอน ทว่ากลับมาถึงบ้านเขาก็ไม่เจอผู้เป็นพี่ชายแต่อย่างใด บ้านค่อนข้างเงียบเหมือนไม่มีใครอยู่...
หรือทรงศักดิ์จะไล่กลิ่นจันทร์ออกจากบ้านไปแล้ว?
ทรงกรดกวาดสายตาดูความเปลี่ยนแปลงภายในบ้าน แล้วเขาก็พบว่ายังมีข้าวของของกลิ่นจันทร์วางอยู่ที่เดิม
พอไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ ความไม่สบายใจก็เกิดขึ้น คำถามก็คือ พี่ชายของเขาไม่รู้สึกอะไรกับคลิปที่เขาส่งให้ดูบ้างเลยเหรอ หรือทรงศักดิ์ยังไม่ได้เปิดคลิปดูเพราะมัวยุ่งอยู่กับงานก็อาจจะเป็นได้ ถ้าเป็นกรณีนี้เขาตั้งใจว่าจะคุยกับพี่ชายให้รู้เรื่องไปเลย พอมีความคิดนี้อยู่ในหัวทรงกรดก็โทรหาดร.ทรงศักดิ์ทันที
“ไงเจ้ากรด”
“พี่ยุ่งอยู่หรือเปล่า?”
“กำลังขับรถกลับบ้าน มีอะไร?”
“ผมมีเรื่องสำคัญอยากคุยกับพี่” ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน
“เรื่องคลิปที่นายส่งให้ฉันน่ะเหรอ?”
ทรงกรดนิ่งไป... ถ้าทรงศักดิ์ถามมาแบบนี้ ก็แสดงว่าเขาได้ดูคลิปนั่นแล้ว
“ครับ”
“ได้สิ ฉันก็อยากคุยกับนายเรื่องยัยกลิ่นอยู่พอดี แค่นี้แหละ” บอกจบดร.ทรงศักดิ์ก็วางสายไป
ทรงกรดโยนโทรศัพท์บนโซฟาตัวนุ่มแล้วเลยเดินไปหยิบเบียร์เย็น ๆ จากตู้เย็น จากนั้นเขาก็มาเปิดทีวีดูไปพลาง ๆ นั่งดูสารคดีสัตว์โลกได้ครู่เดียวกลิ่นจันทร์ก็กลับบ้านมาพอดี
ชายหนุ่มหรี่ตาลงเมื่อเห็นว่าพี่สะใภ้คนสวยสวมชุดนักศึกษา พอเห็นวงหน้าหวานที่แฝงความเซ็กซี่ ก็ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขวางหูขวางตาขึ้นมาอีก กลิ่นจันทร์ไม่สมควรใส่ชุดนักศึกษาเลยด้วยซ้ำ!!
“กลับเร็วนี่ วันนี้ไม่ไถลที่ไหนเหรอ?”
คนที่กำลังถอดรองเท้ารัดส้นออกจากข้อเท้าปรายตาไปยังคนพูด ก็ว่าจะทำเป็นไม่ได้ยินแล้วเชียว แต่เห็นสายตาของทรงกรด เธอก็อดไม่ได้
“ฉันจะกลับเมื่อไหร่ มันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยไม่ทราบ”
“นี่ชวนคุยดี ๆ อย่าเพิ่งหงุดหงิดใส่สิ”
กลิ่นจันทร์ทำหน้ายุ่ง มองอีกฝ่ายอย่างประเมิน “อย่างคุณชวนคุยดี ๆ เป็นด้วยเหรอ”
“เป็นสิ แล้วดูทำหน้าเข้า เดี๋ยวก็หน้าเหี่ยวก่อนวัยหรอก”
หญิงสาวค้อนคมใส่แล้วเดินหนี ทว่าทรงกรดก็ลุกจากโซฟามาขวางหน้าเธอไว้ก่อน
“จะหนีไปไหน อยู่คุยกันก่อนสิ”
“ถอยไป!” คนถูกขวางหน้าบอกเสียงเขียวไม่สบอารมณ์
“ขี้หงุดหงิดนะ ดื่มด้วยกันไหม?” คนชวนถามพลางยื่นกระป๋องเบียร์มาให้
“ไม่”
“ไม่ฉลองกันหน่อยเหรอ”
“ฉลองเนื่องในโอกาสอะไรไม่ทราบ?” กลิ่นจันทร์นิ่วหน้าถาม
“ก็เนื่องในโอกาสที่เธอกำลังจะกระเด็นออกจากบ้านหลังนี้น่ะสิ”
หญิงสาวลอบถอนหายใจ เธออยู่เฉย ๆ แล้วเชียว แล้วดูเถอะ ทรงกรดก็ยังไม่วายหาเรื่องเธออีก
“คุณไม่ใช่เจ้าของบ้าน คุณไล่ฉันออกจากบ้านไม่ได้หรอก”
“มันก็ไม่แน่ พี่ศักดิ์เห็นคลิปของเธอแล้ว”
กลิ่นจันทร์ชะงักไปพลางเม้มปากเป็นเส้นตรง แล้วจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยความไม่พอใจ
“ไง ช็อกหรือไง”
“เปล่า” หญิงสาวไหวไหล่ “ฉันประเมินคุณผิดไป”
“เธอเป็นคนท้าฉันเองไม่ใช่เหรอ”
“มันก็ใช่ ฉันท้าคุณ แต่ถ้าเกิดดอกเตอร์เป็นอะไรขึ้นมา ฉันจะโทษว่าเป็นความผิดของคุณ” บอกจบกลิ่นจันทร์ก็เดินหนี แต่ชายหนุ่มก็คว้าต้นแขนของเธอเอาไว้
“เอ๊ะ!”
“คุยกันยังไม่จบ จะไปไหน”
“ฉันไม่มีอะไรต้องคุยกับคุณ” กลิ่นจันทร์บอกเสียงขึ้นจมูกด้วยความไม่พอใจ พร้อมขืนตัวออกจากมือหนา แต่ก็ไม่สำเร็จ
“ก็ดีแล้วที่ไม่มีอะไรต้องพูดกัน รีบ ๆ เก็บกระเป๋าเสื้อผ้าเตรียมตัวล่ะ เดี๋ยวฉันจะอนุเคราะห์พาเธอไปส่งปลายทางให้”
“ไม่สตาร์ทรถรอเลยล่ะ” หญิงสาวประชด
“ฉันอุ้มเธอไปใส่รถยังได้ ให้เห็นว่าเธอโดนไล่ก่อนเถอะ” ชายหนุ่มยิ้มเย้ย
“อย่าฝันหวานให้มากนักเลย เคยบอกแล้วไงว่าคุณทำให้ฉันหย่ากับดอกเตอร์ไม่ได้หรอก” กลิ่นจันทร์เชิดหน้าขึ้น มองอีกฝ่ายอย่างท้าทาย
“เธอกำลังท้าทายฉันนะ กลิ่นจันทร์!” ทรงกรดบดฟันกราม เผลอออกแรงบีบต้นแขนหญิงสาว
“โอ๊ย เจ็บนะ อีตาบ้า!” ไม่โวยวายอย่างเดียวคนถูกบีบต้นแขนยังขืนตัวอีกครั้ง แต่ทรงกรดไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ เธอจึงเอาตำราเรียนฟาดใส่เขา
เป็นผล... ทรงกรดยอมปล่อยเธอโดยดี ทว่าสายตาที่จ้องมองมาก็ทำเอากลิ่นจันทร์เสียวสันหลังวาบ
“กลิ่นจันทร์”
