บทที่ 2 พี่สะใภ้ (5)
“อย่ามาโกรธฉันนะ คุณเป็นคนหาเรื่องฉันก่อน”
“ก็เธอมันแพศยา!”
“คุณกรด!” หญิงสาวกำมือแน่น ดวงตาเป็นประกายระยับ “มันจะมากไปแล้วนะ”
“สำหรับเธอ แค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ!”
เพี้ยะ!!
กลิ่นจันทร์ตวัดฝ่ามือใส่ใบหน้าของอีกฝ่ายเต็มแรงจนทรงกรดหน้าหัน ความเงียบงันที่ชวนสะท้านเยือกแทรกตัวเข้ามาเมื่อชายหนุ่มหันหน้ากลับมามองเธอ
“กลิ่นจันทร์” ชายหนุ่มเค้นเสียงเย็นลอดไรฟัน จ้องหน้าหญิงสาวตาเขม็ง
“ก็คุณปากเสีย ช่วยไม่ได้ ว้าย!” หญิงสาวอุทานด้วยความตกใจเมื่อถูกอีกฝ่ายรวบตัวเข้าไปกอดดื้อ ๆ
พอตั้งหลักได้เธอก็ตะกุยหน้าเขาทันที แต่ทรงกรดก็รวบมือเอาไว้แล้วจุมพิตเธอทันที!
กลิ่นจันทร์เบิ่งตากว้างด้วยความตกใจกับการกระทำอุกอาจ เธอขัดขืนเต็มกำลัง ทว่าแรงอันน้อยนิดก็ไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้ แค่มือใหญ่รั้งท้ายทอยเธอไว้ เธอก็ไม่สามารถเบือนหน้าหลบริมฝีปากร้อนที่บดขยี้จุมพิตบนริมฝีปากได้ แล้วลิ้นอุ่นชื้นก็แทรกเข้ามา
ความอุ่นซ่านชื้นแฉะกระตุ้นประสาทการรับรู้ให้ตื่นตัว ซ่านรัญจวน ไม่เพียงลิ้นชื้นที่กวาดไปทั่วและพันพัวกับลิ้นของเธอ แต่ทรงกรดยังกอดกระชับเธอไว้แน่น จนทรวงอกแนบชิดกับอกแกร่ง แต่ที่ทำให้กลิ่นจันทร์สั่นสะท้าน เห็นจะเป็นการได้สัมผัสส่วนคึกแข็งที่เบียดชิดอยู่ที่ต้นขา!
มันสร้างอารมณ์รัญจวนและกระตุ้นเร้าเธอได้อย่างดีเยี่ยม ความเร่าร้อนจากปลายลิ้นแผดเผาเธอแทบมอดไหม้
ยิ่งทรงกรดเบียดสะโพกเข้าหาชนิดแนบสนิท กลิ่นจันทร์ที่ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนถึงกับอ่อนระทวย จุมพิตเร่าร้อนของเขาราวกับสูบเอาลมหายใจของเธอไป
กลิ่นจันทร์รู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยคว้างอยู่กลางทะเลลึกที่ไม่มีอากาศหายใจ ท้องน้อยปวดหนึบบิดเกลียว และร้อนผ่าวที่กลางกายเมื่อถูกกระตุ้นเร้าด้วยสัมผัสที่เธอไม่เคยพานพบ
ทรวงอกของเธอคัดตึงเมื่อเสียดสีกับแผงอกกว้าง กระไอตัวอุ่นนำความซาบซ่านมาสู่ ยิ่งได้สูดเอากลิ่นเหงื่อของเขาซึ่งเป็นกลิ่นเฉพาะ ก็ยิ่งทำให้เธอกระเจิดกระเจิงไปกับอารมณ์พิศวาสวาบหวามได้ไม่ยาก
แต่อยู่ ๆ ทรงกรดก็หยุด แล้วผลักเธอออก กลิ่นจันทร์ที่เซน้อย ๆ ดึงสติกลับมา แต่เหมือนเธอยังตั้งหลักไม่ได้
“เธอนี่ไฟแรงดีจริง ๆ”
กลิ่นจันทร์ยืนนิ่งมองหน้า ทรงกรดเลยพูดขึ้นอีก
“แต่เสียใจด้วยนะ ฉันไม่ให้เธอถึงหรอก”
“เลว!!” หญิงสาวบริภาษหน้าแดงซ่าน ด้วยทั้งโกรธและอายในเวลาเดียวกัน
บ้าสิ เขาพูดออกมาได้ไง มันไม่กระดากปากเลยหรือไง แต่ที่น่าเจ็บใจกว่าคือตัวเธอเองที่เคลิ้มไปกับสัมผัสของเขา ให้ตายเถอะ! คิดแล้วโมโห เธอเผลอไปหลงใหลได้ปลื้มกับจุมพิตของเขาได้ยังไง
“ยังไงฉันก็เลวสู้เธอไม่ได้หรอก”
กลิ่นจันทร์จ้องหน้าชายหนุ่มตาเขม็ง “เราก็ไม่ต่างกันหรอก”
“อย่ามาเหมา ฉันไม่เหมือนเธอหรอก”
“ก็ถ้าคุณกล้าแตะต้องผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่สะใภ้ได้ ต่อมคุณธรรมของคุณก็เน่าเฟะแล้วล่ะ”
“ปากเก่งดีนี่”
หญิงสาวเหยียดยิ้มที่ทำให้อีกฝ่ายอารมณ์เสียได้
“ก็เก่งพอตัวล่ะน่า ไม่งั้นจะทำให้คุณตกหลุมรักฉันได้เหรอ” กลิ่นจันทร์ยักคิ้วให้อย่างกวน ๆ
“นี่เธอ!”
“หรือจะเถียงว่าไม่จริงล่ะ?”
ทรงกรดคำรามในลำคอ พูดอะไรไม่ออก กลิ่นจันทร์เลยยิ้มเยาะที่เอาคืนเขากลับไปได้บ้าง แต่แล้วบทสนทนาเผ็ดร้อนก็ยุติลงเมื่อเสียงเปิดประตูบ้านดังขึ้น ทั้งสองที่ยืนจ้องหน้ากันชนิดไม่มีใครยอมใครถึงกับสะดุ้ง กลิ่นจันทร์รีบก้มเก็บตำราเรียนแล้วกลับขึ้นห้องไปเลย
“มีอะไรกันเหรอ เสียงดังไปถึงข้างนอกเลย” ทรงศักดิ์ถามขึ้นพร้อมกับถอดรองเท้าใส่ตู้
“ไม่มีอะไรครับ” บอกเสร็จทรงกรดก็รับของจากมือพี่ชายเข้าไปเก็บ...
##### บทที่ 3
จำเลย
พอวิ่งกลับขึ้นมาบนห้องของตัวเอง กลิ่นจันทร์ถึงกับเข่าอ่อนทรุดตัวนั่งพิงประตู หัวใจยังเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ มือชื้นไปด้วยเหงื่อและเย็นเฉียบ เธอไม่รู้ว่าเกิดเรื่องบ้า ๆ แบบนี้ขึ้นได้ยังไง มันน่าตกใจที่ทรงกรดกล้าทำแบบนั้น ทั้งที่เธอคือพี่สะใภ้ของเขา!!
หญิงสาวกัดริมฝีปากที่ยังสั่นระริกไว้แน่นกับอารมณ์หลากหลายที่ประดังเข้ามาในตอนนี้
โกรธ... ใช่เธอโกรธ ไม่เพียงทรงกรดจะสบประมาทเธอ ยัดเยียดข้อกล่าวหาให้ เขายังลวนลามเธอด้วย แต่ที่กลิ่นจันทร์โกรธมากกว่าก็คือ ตัวเธอเอง
