บทที่ 2 พี่สะใภ้ (1)
พอกลับเข้ามาในบ้านกลิ่นจันทร์ก็รีบจัดการอาบน้ำสระผมแล้วไดร์ผมให้แห้งทันทีเพราะไม่อยากเป็นหวัด เธอเลือกเสื้อผ้าเนื้อหนามาสวมเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น พอรู้สึกสบายตัวขึ้น อบอุ่นขึ้นเธอก็กลับลงมาชั้นล่างเพื่อหายากินดักไว้ก่อน
พอมาถึงตู้ยาหญิงสาวก็เห็นดวงไฟเปิดอยู่ที่ห้องรับแขก มองเข้าไปก็เห็นดร.ทรงศักดิ์ยังนั่งอยู่หน้าจอโน้ตบุ๊ก โดยมีแก้วกาแฟตั้งอยู่ข้าง ๆ และนี่ก็เป็นภาพที่เธอเห็นเป็นประจำ มันเกิดขึ้นทุกครั้งที่ดอกเตอร์กลับมาพักที่บ้าน เห็นเขานั่งทำงานอยู่คนเดียวเธอเลยเดินเข้าไปหา
“ยังไม่เลิกงานอีกเหรอคะดอกเตอร์?” กลิ่นจันทร์ถาม พลางทิ้งตัวนั่งบนโซฟาตัวนุ่ม
“พอดีมีงานด่วนเข้ามา โทษทีนะที่ไม่ได้ออกไปรับ” ทรงศักดิ์เงยหน้ามองหญิงสาวแวบหนึ่ง
“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้ารู้ว่าดอกเตอร์ยุ่งมาก กลิ่นไม่รบกวนหรอก”
คนที่รัวนิ้วบนแป้นพิมพ์ละสายตาจากหน้าจอ “อย่าคิดแบบนั้นสิ รบกวนที่ไหนกัน ฉันต้องดูแลเธออยู่แล้ว อย่าลืมสิว่ามันเป็นหน้าที่ของฉัน”
กลิ่นจันทร์ยิ้มบาง ดร.ทรงศักดิ์น่ารักเสมอ เขาดีกับเธอมาก มากเสียจนไม่รู้ว่าเธอจะตอบแทนบุญคุณเขาได้หมดหรือเปล่า
“เอานมอุ่นสักแก้วมั้ยคะ?” หญิงสาวถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายยกแก้วกาแฟขึ้นมา แต่ก็ต้องวางลงเพราะกาแฟหมด
“ขอเป็นกาแฟดีกว่า”
“ดอกเตอร์คะ นี่มันจะเที่ยงคืนแล้วนะ” หญิงสาวอดเตือนด้วยความห่วงใยไม่ได้ “อย่าว่ากลิ่นจุกจิกเลยนะ เปลี่ยนเป็นนมอุ่น ๆ สักแก้วน่าจะดีกว่านะ”
“เอานมก็ได้ แต่เธอต้องมาดื่มเป็นเพื่อนฉันนะ” คนบ้างานบอกยิ้ม ๆ
“ค่ะ ได้” หญิงสาวยิ้มหวานให้แล้วลุกเดินไปที่ครัว อึดใจเดียวเธอก็ยกแก้วนมมาตั้งไว้ข้าง ๆ ผู้เป็นสามีโดยนิตินัย
“ขอบใจ เออ ว่าจะถามอยู่ รถเสียเหรอ?”
“ไม่ค่ะ”
คนถามนิ่วหน้า “อ้าว แล้วทำไมถึงให้ไปรับล่ะ?”
“พอดีคุณกรดต้องใช้รถน่ะค่ะ กลิ่นก็เลยให้เขาเอาไปขับ” กลิ่นจันทร์ตอบแบบเลี่ยง ๆ
คนตั้งคำถามเลยพยักหน้า แล้วเปรยขึ้น “สงสัยต้องซื้อรถมาเพิ่มซะแล้วสิ อยากได้มั้ย?”
หญิงสาวส่ายหน้า “ไม่ค่ะ กลิ่นไม่ค่อยมีธุระ ติดรถของดอกเตอร์ไปมหา’ลัยน่ะดีแล้ว อีกอย่างอีกไม่กี่วันกลิ่นก็เรียนจบแล้ว”
“ผมว่ากลิ่นน่ามีไว้ใช้สักคันนะ อีกสัปดาห์เดียวก็เรียนจบแล้ว เอาไว้ขับไปทำงาน น่าจะดีนะ”
“ดอกเตอร์คะ แค่นี้กลิ่นก็รบกวนดอกเตอร์มากแล้ว”
“อย่าคิดมากสิ”
หญิงสาวยิ้มบาง ไม่พูดอะไร พอนมอุ่นหมดแก้วเธอก็อ้าปากหาวหวอด
“ง่วงก็ไปนอนเถอะ”
“แล้วดอกเตอร์ล่ะ?”
“ว่าจะทำงานอีกสักหน่อย”
“งั้นกลิ่นอยู่เป็นเพื่อนดีกว่า” กลิ่นจันทร์บอกยิ้ม ๆ
“ถ้าไม่ง่วงก็ตามใจ”
“แล้วดอกเตอร์ไม่ง่วงเหรอ?”
คนถูกถามอ้าปากกว้างหาวหวอดทันที “ง่วงสิ ตาจะหลับอยู่แล้ว”
หญิงสาวหัวเราะ “ถ้างั้นเข้านอนพร้อมกันดีกว่ามั้ยคะ”
ทรงศักดิ์อมยิ้มพลางวางมือบนศีรษะของหญิงสาวแล้วโยกเบา ๆ “นอนก็นอน พรุ่งนี้ค่อยทำต่อ”
กลิ่นจันทร์ยิ้มกว้าง เธอรอให้อีกฝ่ายปิดโน้ตบุ๊ก เรียบร้อยแล้วเธอก็เดินไปดับไฟ เหลือทิ้งไว้แต่ไฟตามดวงเล็ก จากนั้นก็กลับขึ้นห้องนอนพร้อมเจ้าของบ้าน ซึ่งกลิ่นจันทร์ไม่รู้เลยว่าทุกความเคลื่อนไหวของเธอนั้น ตกอยู่ในสายตาของทรงกรดแทบจะตลอดเวลา...
พอคู่รักต่างวัยพากันเข้าห้องนอนไปแล้ว ทรงกรดที่ยืนพิงกำแพงอยู่ในความมืดก็เดินกลับเข้าห้องนอนของตัวเองไปด้วย ชายหนุ่มไม่ได้ล้มตัวลงบนเตียงอย่างที่ตั้งใจ แต่เขาเดินมาทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้ริมหน้าต่าง ในหัวยังคงเต็มไปด้วยเรื่องของพี่สะใภ้วัยละอ่อน
บอกได้เลยว่าเขาไม่ชอบภาพที่เห็น และไม่พอใจกับการกระทำอันเสแสร้งของกลิ่นจันทร์เป็นอย่างมาก
ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อว่าผู้หญิงหน้าใส สวยสะดุดตาแต่แรกเห็นนั้นจะเป็นพวกสิบแปดมงกุฎที่หลอกพี่ชายเขาได้อย่างเลือดเย็น
อาจเป็นเพราะกลิ่นจันทร์ยังสาวแถมสวยจัด อีกทั้งพี่ชายของเขาเคยผิดหวังจากความรัก พอมาเจอกลิ่นจันทร์ที่ค่อนข้างแพรวพราวเรื่องผู้ชาย คนที่อ่อนหัดเรื่องผู้หญิงและไม่เคยทันเล่ห์เหลี่ยมใครอย่างทรงศักดิ์ ก็เลยตกเป็นเหยื่อของผู้หญิงคนนี้
ทรงกรดกระดิกนิ้วมืออย่างใช้ความคิด ในหัวของเขาเต็มไปด้วยสารพัดวิธีเพื่อใช้เล่นงานกลิ่นจันทร์ ยังไงเขาต้องกระชากหน้ากากของยัยจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างกลิ่นจันทร์ออกมาให้ได้
ยังไงเขาต้องทำให้ทรงศักดิ์พ้นมนตร์เสน่ห์ของกลิ่นจันทร์ เพราะเท่าที่เห็นพี่ชายของเขาดูจะรักผู้หญิงคนนี้มาก
ไม่สิ ต้องบอกว่าหลงจนโงหัวไม่ขึ้นถึงจะถูก...
