ตอนที่7
หลังจากวันนั้นที่ตัดสินใจเลิกกับธนาไป นิสรก็กลายเป็นคนไม่ร่าเริงแจ่มใสเหมือนก่อนหน้านี้ แววตาของเธอเศร้าหมองเหมือนจะร้องไห้ตลอดเวลา เธอกลายเป็นคนที่กลัวการมีความรักไปโดยปริยาย
ทุกครั้งที่อยู่คนเดียวนิสรก็จะร้องไห้จนหลับไป เธอรักธนามาก ให้ใจเขาไปจนไม่เหลือให้ตนเอง ยิ่งรักมากก็ยิ่งเจ็บมากเป็นเรื่องธรรมดา แต่ต่อให้รักเขามากแค่ไหนเธอก็ไม่สามารถคบกับคนที่นอกใจเธอได้
"พ่อจ๋า..ฮึก..แม่จ๋า นิดขอโทษที่ลืมรักตัวเอง..ฮือ" นิสรร้องไห้ต่อหน้ารูปถ่ายของพ่อแม่ที่จากไป เธอผิดเองที่ให้ใจเขาไปจนหมด
"ฮือ..นิดเจ็บ..ฮึก" เป็นอีกหนึ่งคืนที่เธอร้องไห้จนหลับไป
ตอนเช้านิสรมาถึงกองถ่ายละครก่อนเวลาเริ่มงาน เธอทำตัวปกติไม่ให้คนอื่นเป็นห่วง ถึงสีหน้าและแววตาของเธอจะเปลี่ยนไปจากเดิมก็ตาม
"สัปดาห์หน้ากองเราจะมีเลี้ยงฉลองก่อนปิดกล้อง นักศึกษาฝึกงานก็ต้องไปนะจ๊ะ ถือเป็นการฉลองให้เด็กฝึกงานไปด้วยเลย" รุ่นพี่ในกองถ่ายบอกกับนักศึกษาฝึกงานทุกคนรวมถึงนิสรที่เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
"เย้ๆ ฉลองๆ" คนอื่นๆ อาจจะดีใจแต่กับคนที่เพิ่งอกหักมานั้นไม่อยากจะไปไหนด้วยซ้ำ เธออยากจะปฎิเสธแล้วกลับไปนอนร้องไห้เหมือนทุกคืนที่ผ่านมา
เตชินมองกลุ่มนักศึกษาฝึกงานที่กำลังดีใจที่จะได้ฉลองก่อนปิดกล้อง แต่มีคนหนึ่งที่ทำหน้าอมทุกข์ไม่ยิ้มไม่หัวเราะ
"ทำหน้าซังกะตาย" เสียงทุ้มบ่นอุบอิบเบาๆ ที่ได้เห็นสีหน้าไร้ความสุขของนิสร
ถึงทุกคนจะสงสัยว่าทำไมช่วงนี้นิสรเปลี่ยนไปรวมถึงแฟนหนุ่มแสนดีของเธอที่จู่ๆ ก็ไม่มารับอีกเลย ถึงจะอยากรู้แค่ไหนก็ไม่มีใครถามเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ
"ผมเหลืออีกฉากเดียวก็จบแล้ว" พชรยิ้มร่ามาแต่ไกลที่ถ่ายอีกแค่ฉากเดียวเขาก็หมดคิวแล้ว แต่ฉากสุดท้ายที่ต้องเล่นก็หนักหนาพอสมควร
"ดีละ ฉันได้ไม่เจอหน้าแกอีก" เตชินทำพูดทีเล่นทีจริง เขาทำงานร่วมกับพชรมาแล้วสามเรื่อง เจอหน้ากันแทบจะทุกวันจนเบื่อหน้า
"ใครว่าล่ะครับ ผู้กำกับบอกมีเพิ่มอีกสองฉากที่จะเป็นสเปเชียลให้คนดู เรายังต้องเจอกันอีกครับ ฮ่าๆ" พชรหัวเราะเสียงดัง อย่างไรเตชินก็หนีเขาไม่พ้นเพราะงานถ่ายแบบครั้งหน้าก็ยังต้องเจอกันอีกอยู่ดี
"แล้วพวกนักศึกษาฝึกงานล่ะ อยู่จนเราถ่ายจบเลยหไหม" จู่ๆ คนที่ดูไม่ค่อยสนใจใครกลับถามถึงกลุ่มนักศึกษาฝึกงานเข้า
"ไม่รู้เหมือนกัน แต่คงไม่น่าจะอยู่จนเราถ่ายจบนะครับว่าแต่..พี่ชินถามทำไม"
"เปล่า แค่อยากรู้เฉยๆ ไม่มีอะไร" เตชินส่ายหน้าน้อยๆ แล้วเดินหนีนักแสดงรุ่นน้องไปก่อนที่จะถูกถามต่อ
"คุณชินเตรียมเข้าฉากค่ะ" เสียงทีมงานตะโกนทำให้เตชินเลิกจดจ่อไปที่นักศึกษาฝึกงานตัวเล็กที่กำลังนั่งเหม่อลอยใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
การถ่ายทำของกองละครผ่านไปได้ด้วยดี อีกไม่นานก็ถึงเวลาปิดกล้อง และด้วยความที่ร่วมงานกันมาหลายเดือนจึงต้องมีการฉลองให้กับความเหน็ดเหนื่อยตลอดการทำงาน ส่วนนักศึกษาฝึกงานที่มาฝึกงานเพียงไม่กี่เดือนก็ถือโอกาสฉลองจบการฝึกงานไปในตัว
กองถ่ายละครถูกเปลี่ยนที่จัดงานฉลองของทุกครั้ง ตั้งแต่ผู้จัดละคร สปอนต์เซอร์กองถ่าย ผู้กำกับ และทีมงานทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมทุกคน
"ขอบคุณที่เหนื่อยกันมาหลายเดือนนะครับ กว่าจะผ่านการถ่ายทำเรื่องนี้ไปได้ผมค่อนข้างที่จะกดดันมากๆ เพราะอย่างที่หลายๆ คนรู้ว่าละครเรื่องนี้เป็นที่คาดหวังกับคนดูมากๆ"
ผู้กำกับและทีมเขียนบทขึ้นกล่าวบนเวทีขนาดย่อมที่สร้างขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ นิสรที่นั่งอยู่กับกลุ่มนักศึกษาฝึกงานก็พลอยปรบมือไปกับทุกคนที่ขึ้นพูดขอบคุณให้กับการถ่ายทำครั้งนี้
"เออใช่ ฉันลืมบอกพี่ข้าวบอกว่าให้พวกเราหาตัวแทนขึ้นกล่าวสักคนน่ะ" เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางสีหน้าของทุกคนที่ไม่ค่อยสู้ดี เพราะไม่มีใครเตรียมตัวมาก่อน
"นิดแกแล้วกัน"
"ทำไมเป็นฉันล่ะ?" นิสรชี้นิ้วเข้าหาตัวเองทำหน้ามึนงงที่จู่ๆ เพื่อนทุกคนก็มาที่เธอเป็นตาเดียวราวกับเธอคือความหวังของกลุ่ม
"แกพูดรู้เรื่องที่สุดแล้ว จะให้นังริชชี่ไปพูดเดี๋ยวก็ติดอ่าง"
"แต่ฉันไม่ได้เตรียมคำพูดมา" นิสรทำหน้ากังวลเพราะอีกไม่นานก็จะถึงคิวของกลุ่มนักศึกษาฝึกงานแล้ว
"แกทำได้นิด แกคือความหวังของหมู่บ้าน สู้!" เพื่อนอีกห้าคนร่วมส่งกำลังใจให้นิสร และด้วยความปฏิเสธคนไม่เป็นเธอจึงต้องรับหน้าที่นี้ไปแทน
นิสรรู้สึกประหม่าเพราะวันนี้ทุกฝ่ายในกองมารวมตัวกันอยู่ที่เดียวกันหมด บางคนเธอก็ยังไม่เคยเห็นหน้าด้วยซ้ำเพราะนิสรทำฝ่ายเสื้อผ้า คนที่เธอได้เจอบ่อยๆ จึงมีแค่ไม่กี่คน แต่สุดท้ายเธอก็สามารถพูดออกไปได้อย่างราบรื่นและเรียกเสียงปรบมือของทุกคนได้
"วันนี้เรามาดื่มกันให้เต็มที่ไปเลยครับให้คุ้มค่ากับที่ลงแรงไป" ผู้กำกับที่เริ่มถูกพิษแอลกอฮอล์เข้าครอบงำตะโกนเสียงดังใส่ไมค์ที่วางอยู่ ทุกคนก็ยิ่งคึกครื้นเข้าไปใหญ่
