ตอนที่5
นิสรมาทำงานด้วยสภาพหน้าที่เพิ่งผ่านการร้องไห้มาตลอดทั้งคืน ดวงตาปูนโปน ใบหน้าไร้สีสัน แต่เธอก็แสร้งบอกว่าไม่เป็นอะไร พร้อมกับฝืนยิ้มและหัวเราะไปกับทุกคน
กองถ่ายละครที่วุ่นวายทำให้เธอได้ทำงานไม่ได้หยุดคิดฟุ้งซ่าน ถึงจะเสียใจแค่ไหนแต่หน้าที่ก็สำคัญที่สุด เธอจึงเลือกที่จะลืมเรื่องที่เจอเมื่อคืนออกไปจากหัวแล้วตั้งใจทำงานให้เต็มที่ อีกไม่ถึงเดือนเธอก็จะผ่านช่วงฝึกงานแล้ว
"หนูนิดๆ จัดชุดให้นักแสดงที" รุ่นพี่ในกองถ่ายตะโกนเรียกนักศึกษาฝึกงานที่เป็นงานที่สุดให้มาช่วย
"ได้ค่ะ"
"หนูนิด..หยิบโบว์สีขาวให้พี่หน่อย" นิสรวิ่งวุ่นตามเสียงที่เรียกชื่อเธอไม่หยุด ทุกคนในกองมักจะเรียนเธอว่าหนูนิดอาจเป็นเพราะเธอตัวเล็กแถมนิสัยยังดูเหมือนเด็กอีกด้วย
เตชินมองคนตัวเล็กที่วิ่งไปรอบกองถ่ายแล้วได้แต่ส่ายหน้าเอ็นดู ขาสั้นๆ ของเธอก้าวฉับๆ มองแล้วเหมือนหนูกำลังถีบจักรไม่มีผิด
"มองอะไรครับพี่" นักแสดงหนุ่มนั่งแต่งหน้าอยู่ข้างๆ เอ่ยถามนักแสดงรุ่นพี่ที่นั่งจ้องบางอย่างตาไม่กะพริบ
"เปล่า แค่มองไปเรื่อย"
"ฉากต่อไปพี่ชินต้องถ่ายเลิฟซีนกับน้ำขิงใช่ไหมครับ"
"ใช่" เตชินตอบสั้นๆ ไม่ได้ตื่นเต้นแต่อย่างใด สำหรับเขาฉากเลิฟซีนในละครก็เป็นแค่การจัดฉากเท่านั้น ชีวิตจริงต่างหากที่น่าตื่นเต้น
"อิจฉาจัง อยากมีเลิฟซีนสักฉากบ้าง" นักแสดงหนุ่มทำหน้าเสียดาย เพราะได้เล่นเป็นตัวร้ายไม่มีบทหวานหรือเลิฟซีนกับใครในเรื่อง
"ไร้สาระจริงๆ ไอ้นี่" เตชินส่ายหน้าเหนื่อนใจกับนักแสดงรุ่นน้องที่สนิทกัน เตชินรู้จักกับรุ่นน้องคนนี้เพราะเคยร่วมงานกันบ่อยๆ ทั้งงานละคร โฆษณา เรียกได้ว่าถ้ามีพระเอกอย่างเตชิน ต้องมีตัวร้ายอย่างพชรอยู่ด้วย
พฤกษ์ หรือพชร ดาราหนุ่มอายุน้อยที่แจ้งเกิดมากับบทตัวร้ายที่ใครๆ ต่างรู้จัก ถึงในจอจะได้เป็นตัวร้าย แต่ที่จริงเขาเป็นคนที่ขี้เล่น เข้ากับคนง่ายผิดกับเตชินอย่างสิ้นเชิง
"รอบตัวพี่มีแต่ผู้หญิงสวยๆ น่าอิจฉาจะตายไป" พชรทำแซวอิจฉาที่เตชินมีผู้หญิงอยู่รอบกายจนแทบจำหน้าไม่ได้ แถมแต่ละคนยังดีกรีนางแบบ พริตตี้หลักล้านกันทั้งนั้น
"พี่ชิน..วันนี้พี่ว่าหนูนิดดูแปลกๆ ไปไหม"
"แกจะสนใจอะไรเด็กนั่นนักหนา" เตชินสังเกตเห็นพชรชอบพูดถึงนิสรอยู่บ่อยครั้ง
"ก็หนูนิดน่ารักออก พี่ไม่คิดแบบนั้นเหรอพี่ชิน" ใครๆ ก็ต่างมองว่านิสรน่ารัก น่าเอ็นดู แต่เตชินเขาดูไม่ค่อยชอบนิสรเสียเท่าไร
"เฉยๆ หน้าตาเหมือนจะร้องไห้ตลอดเวลา"
"เขาเรียกน่าเอ็นดู พี่ไม่เข้าใจหรอกเพราะพี่ชอบนางแบบ อกตูมๆ ใช่ไหมล่ะ" พชรรู้ว่าอย่างเตชินไม่ชอบผู้หญิงสไตล์นิวรแน่นอน
"คุณพฤกษ์ คุณชิน อีกสิบนาทีเตรียมเข้าฉากนะคะ" ทีมงานหน้ากล้องเดินมาตามสองหนุ่มที่กำลังพูดคุยกันอย่างออกรส
"พี่ข้าวให้เด็กมาดูชุดนักแสดงอีกรอบทีค่ะ" ทีมงานตะโกนเรียกทีมเสื้อผ้าให้ดูความเรียบร้อยก่อนเริ่มถ่ายจริง
"หนูนิดไปดูให้พี่ที พี่ขอแก้ชุดตรงนี้ก่อน"
"ได้ค่ะพี่ข้าว" นิสรรับคำสั่งแล้วรีบวิ่งไปทางสองดาราหนุ่มที่ยืนรอเข้าฉากอยู่ไม่ไกล
"ขออนุญาตนะคะ" หญิงสาวร่างเล็กเขย่งปลายเท้าเพื่อจับคอปกให้พชร ชายหนุ่มได้แต่ยืนอมยิ้มน้อยๆ จนอีกคนเริ่มเกิดอาการหมั่นไส้
"หนูนิดใช้น้ำหอมอะไร หอมจัง" พชรเอ่ยถามคนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังง่วนอยู่กับการจัดเสื้อให้เขา
"นิดใช้.."
"ไอ้พฤกษ์ผู้กำกับเรียก" ยังไม่ทันที่นิสรจะได้ตอบเสียงเข้มของเตชินก็ดังแทรกเข้ามา
"คุณพฤกษ์เข้าฉากค่ะ!!" เสียงทีมงานตะโกนทำให้พชรรีบวิ่งไปทั้งที่ยังไม่ได้คำตอบจากนิสร
"จะไม่ดูชุดให้ฉันหรือไง" เตชินกางแขนออกเพื่อให้เธอจัดการกับชุดของตนเอง
"คุณชินคะ..คือ.." นิสรอาศัยจังหวะที่อยู่ใกล้เขาส่งเสียงกระซิบเบาๆ ให้ได้ยินแค่สองคน
"ฉันไม่บอกใครหรอกน่า ฉันไม่ใช่คนปากไม่มีหูรูด" เตชินรู้ได้ทันทีว่าเธอมีจุดประสงค์อะไรถึงได้ทำกระซิบกระซาบเสียงเบาๆ
"ขอบคุณนะคะ" หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณเขาที่ช่วยเก็บเรื่องที่เจอเธอตอนร้องไห้สภาพย่ำแย่เมื่อคืน
"มันไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องสนใจซะหน่อย" ปากบอกไม่สนใจแต่สายตากลับหลุบมองคนตัวเล็กความสูงเพียงแค่อกของเขา
"ค่ะ..ชุดเรียบร้อยดีค่ะ"
"เธอก็ควรแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวให้ออกล่ะ" เตชินเน้นย้ำกับเธอก่อนจะหันหลังเดินไปเตรียมถ่ายละครต่อ
พองานลุล่วงความเศร้าก็เริ่มเข้าปกคลุม เธอเผลอคิดถึงเรื่องที่เจอเมื่อคืน แต่คำพูดของเตชินเมื่อสักครู่ก็ทำให้เธอคิดได้ เธอต้องแยกเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องงาน ถึงจะเป็นแค่การฝึกงานแต่ทุกหน้าที่ในกองถ่ายสำคัญ เธอจะเป็นตัวถ่วงให้ทีมไม่ได้
