บท
ตั้งค่า

ตอนที่ ๓ : ต่างคนต่างผูกพัน(2)

สามสัปดาห์ต่อมา...

ทอฝันไม่ได้ไปทำงานที่บ้านราชรัชตะตามที่ปราชญ์สั่งจนกระทั่งอรชรกลับมา หญิงสาวรู้สึกใจหายไม่น้อยที่วันนี้จะต้องย้ายออกจากคอนโดมิเนียมเพื่อกลับสู่สังคมเดิมของเธอ ไม่ใช่ว่าเธอเกิดความรู้สึกติดหรูหรือว่าลืมว่าตัวเองควรอยู่ที่ใด แต่เพียงแค่ไม่อยากให้วันเวลาดีๆ ที่มีร่วมกับชายหนุ่มผู้แสนดีต้องจบสิ้นลงเร็วนัก

หลายสัปดาห์ที่ผ่านมาปราชญ์มาขลุกอยู่กับทอฝันทุกวัน ไม่เคยปล่อยให้เดียวดายอ้างว้างเหมือนที่แม่ของเธอชอบทำ ชายหนุ่มให้ความสนใจเรื่องสุขภาพของเธอดียิ่งกว่าตัวของเธอเองเสียอีก อาหารทุกมื้อก็ได้รับความใส่ใจเสมอ ที่สำคัญทอฝันเชื่อว่าเขาจะต้องลำบากใจกับการตอบคำถามของคนเจ้าระเบียบอย่างบุษรามากแน่ แต่กระนั้นก็ยังมาหาเธอและใช้เวลาอยู่ด้วยกันจนเย็น

ภาพยนตร์ที่เธออยากดูเขาก็ซื้อมาดูด้วยกัน ขนมที่เธอพูดถึงเขาก็ซื้อติดมือมาฝาก เขาสอนให้เธอเรียนรู้ความทันสมัยของคอมพิวเตอร์ในระดับสูงมากกว่าที่เคยศึกษาจากโรงเรียน สอนให้ทำอาหารฝรั่งที่เขาชอบทำรับประทานเองเมื่อครั้งที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ในฐานะนักศึกษา แล้วก็ยังให้ข้อคิดเกี่ยวกับมุมมองชีวิตที่คุณยายของเขาเคยบอกสอนไว้ให้ฟังอีกมากมาย ทอฝันยอมรับโดยดุษฎีว่ามีความสุขมากเหลือเกิน

วันนี้ปราชญ์ต้องเตรียมเอกสารสำหรับเรียนต่อที่ต่างประเทศ จึงไม่มีเวลาไปรับทอฝันด้วยตัวเอง ชายหนุ่มให้นายถมเป็นคนขับรถมารับทอฝันที่คอนโดมิเนียมตั้งแต่เช้า โดยกำชับหนักแน่นว่าห้ามให้ใครรู้เด็ดขาด นายถมเองก็ไมใช่คนปากเบาชอบเล่าเรื่องส่วนตัวของเจ้านายนัก เรื่องที่ทอฝันพักอยู่ที่ไหนจึงยังคงเป็นความลับต่อไป

อรชรยิ้มกว้างเมื่อเห็นทอฝันดูมีน้ำมีนวลขึ้นมากกว่าเดิม เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็น่ารักสมวัยดูน่ามอง สองน้าหลานต่างสายเลือดโผเข้ากอดกันด้วยความคิดถึง อรชรหายไปนานเกินความจำเป็น เพราะต้องจัดการเรื่องอะไรอีกหลายอย่าง แต่เมื่อกลับมาแล้วพบว่าสุภายังไม่กลับบ้าน จึงนึกโมโหคนเป็นแม่ที่ไม่คิดจะกลับมาไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบของลูกสาวบ้างเลย

ทอฝันดูซึมลงถนัดตาเมื่อถูกถามถึงมารดา แต่ไม่รู้ว่าด้วยความบังเอิญหรือสิ่งใด ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีสุภาก็ปรากฏตัวขึ้นหน้าบ้าน รูปร่างที่เคยได้สัดส่วนดูผอมลงจนน่าใจหาย รอบดวงตาเขียวคล้ำเหมือนคนไม่ได้หลับไม่ได้นอนมานานหลายวัน สุภาหอบหายใจแรงและยกมือกดทับที่หน้าอกตัวเอง สีหน้าเหยเกคล้ายเจ็บปวดแสนสาหัส

“แม่!” ทอฝันลุกพรวดขึ้นจากโซฟาตัวเก่า ตรงเข้าไปประคองมารดาเอาไว้ได้ทันก่อนที่จะล้มกลิ้งไปบนพื้น

“ไปทำอะไรมาพี่สุ! ทำไมถึงดูแย่แบบนี้” อรชรเข้าไปช่วยอีกแรง “พาแม่ไปนอนบนโซฟาก่อนเถอะฝัน” ก่อนจะหันมาบอกหญิงสาวให้ช่วยกันพาสุภาไปล้มตัวนอนพัก ทอฝันปล่อยให้น้าสาวนั่งอยู่กับมารดา ส่วนตัวเองวิ่งหายไปหลังบ้านเพื่อเอากะละมังเล็กๆ กับผ้าขนหนูมาเช็ดเนื้อตัวให้

“แม่ตัวร้อนเหมือนไฟเลย แม่จะเป็นอะไรไหม น้าอ้อย” หญิงสาวถาม สีหน้าคล้ายจะร้องไห้

“น้าจะไปซื้อยาลดไข้มาให้เอง ฝันอยู่กับแม่สุไปก่อนนะ เดี๋ยวน้ามา” อรชรกำลังจะเดินออกไปนอกบ้าน แต่สวนกับปราชญ์ที่ตามมาหาทอฝันเข้าพอดี

“อ้าว จะไปไหนหรือครับ น้าอ้อย ดูรีบร้อนจัง” คนถามยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

“แม่ของฝันกลับบ้านมาด้วยท่าทางอิดโรยเหลือเกินค่ะ คุณปราชญ์ มีไข้สูงมากด้วย น้ากำลังจะออกไปซื้อยาค่ะ” เมื่อรู้เรื่องแม่ของทอฝันจากอรชร ชายหนุ่มก็เสนอว่าไม่ควรซื้อยาลดไข้มาให้เอง แต่น่าจะนำตัวส่งโรงพยาบาลเลยจะดีกว่า เพราะถ้าหากเป็นอะไรมากจะได้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

ทอฝันโล่งใจขึ้นอีกเปราะเมื่อปราชญ์ปรากฏตัวมาได้จังหวะ และช่วยนำร่างที่อ่อนแรงของสุภาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ชายหนุ่มกุมมือเธออย่างให้กำลังใจ หลังจากที่มารดาถูกพาตัวหายเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เพราะหมอประเมินว่าหัวใจกำลังทำงานผิดปกติ เสมือนว่าร่างกายกำลังเข้าสู่ภาวะอันตราย อีกทั้งความดันเลือดก็ผิดปกติเสียจนน่าเป็นห่วง

ยังไม่ทันได้รอฟังผลตรวจของสุภา เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตของปราชญ์ก็ดังลั่นขึ้น นวลเป็นคนโทรมาเพื่อบอกว่าตอนนี้ที่บ้านกำลังมีปัญหา เพราะคุณผู้ชายที่เพิ่งกลับมาจากดูงานต่างจังหวัดกำลังทะเลาะกับคุณผู้หญิงเสียจนบ้านแทบแตก ก่อนวางสายนวลได้เร่งเร้าชายหนุ่มซ้ำอีก แล้วยังขอร้องด้วยว่าห้ามบอกใครเรื่องที่เธอเป็นคนโทรศัพท์มารายงาน ไม่อย่างนั้นอาจถูกไล่ออกเอาได้

“ฝันอยู่กับน้าอ้อยไปก่อนนะ นวลโทรมาบอกว่าที่บ้านกำลังมีปัญหานิดหน่อย ฉันต้องรีบกลับไปจัดการ” ปราชญ์หันมาบอกกับคนข้างกายที่ตอนนี้นั่งน้ำตาไหลด้วยความทุกข์ใจ ทอฝันมองสบตากับเขาเหมือนไม่ต้องการให้จากไป ชายหนุ่มบีบมือเธอแน่นขึ้น เพราะรับรู้ได้ว่าเธอกำลังต้องการเขา

“ไปเถอะค่ะ คุณปราชญ์ น้าจะอยู่กับฝันเองค่ะ พี่สุคงไม่เป็นอะไรมากหรอก” อรชรโอบไหล่หญิงสาวไว้

“ฉันจะรีบมานะฝัน ไม่ต้องร้องไห้แล้วนะ เชื่อฉันสิว่าแม่เธอจะต้องปลอดภัย” ปราชญ์ยิ้มให้กำลังใจ ยกมือใหญ่ลูบศีรษะเล็กได้รูปอย่างปลอบประโลม อรชรมองออกว่านั่นไม่ใช่เพียงแค่ความเวทนา แต่มันคือสายใยบางเบาที่ถักทอขึ้นจากเหตุผลบางอย่างที่ทำให้คนสองคนได้มาพบเจอกัน

“ขอบคุณคุณปราชญ์มากนะคะที่มาช่วยฝันเอาไว้อีกแล้ว” ทอฝันมองเขาด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกมากมาย ชีวิตที่ผ่านมาอาจจะเลวร้ายจนแทบไม่อยากหันหลังกลับไปมอง แต่สวรรค์ก็ไม่ใจร้ายนักที่ยังให้โอกาสเธอได้พบเจอกับสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตอย่างเขา แม้จะรู้ดีว่าไม่คู่ควรเลยก็ตาม

“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นความเข้มแข็งได้ไหม ฉันไม่ชอบเวลาเธอร้องไห้เลยนะ” ชายหนุ่มถามพร้อมกับลุกขึ้นจากเก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉิน เปลี่ยนมานั่งคุกเข่าข้างหนึ่งลงตรงหน้าหญิงสาว ไล้ปลายนิ้วเรียวยาวเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มนุ่มนิ่ม สัมผัสเธออย่างทะนุถนอม แสดงให้เห็นถึงความห่วงใยไม่ใช่หวังจะเอาเปรียบในฐานะผู้ชาย คนที่มองมาต่างก็ประทับใจกับภาพที่เขาปฏิบัติต่อเธออย่างสุภาพบุรุษ

“ค่ะ ฝันจะเข้มแข็ง เพราะแม่จะต้องไม่เป็นอะไรมาก บางทีอาจจะแค่ทำงานหนักไปหน่อยก็ได้” หญิงสาวสูดน้ำมูกเหมือนเด็กน้อย แล้วยิ้มกว้างจนเห็นแนวฟันขาวเรียบเรียงเป็นระเบียบเหมือนว่าตัวเองสบายดี ด้วยไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นห่วงอีก อรชรเพิ่งกลับมาต่างจากจังหวัด ยังไม่ได้พักหายใจหายคอเลยด้วยซ้ำ ส่วนปราชญ์ก็ดีกับเธอสารพัดจนชาตินี้ก็ยังทดแทนได้ไม่หมด ตอนนี้เธอจึงอยากตอบแทนคนทั้งคู่ด้วยการเข้มแข็งเข้าไว้

“จริงสิ ฉันเกือบลืมไปเสียสนิทเลย” ชายหนุ่มทำตาโตเมื่อนึกถึงเหตุผลที่ทำให้เขาดิ่งไปหาทอฝันที่บ้านขึ้นมาได้

“มีอะไรหรือคะ” ทอฝันถาม

“ฉันมีของขวัญจะให้เธอ ตอบแทนที่เธอทำตัวน่ารักและเชื่อฟังฉันเสมอ” มือใหญ่ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบสร้อยเส้นบางที่ทำจากทองคำขาวและมีจี้เป็นรูปขลุ่ยสีเงินออกมาชูตรงหน้า

“ขลุ่ย”

“สร้อยกับจี้นี่เป็นสิ่งที่คุณป้าฉันให้ไว้ ฉันชอบมันมาก...แต่ไม่รู้ว่าเธอจะชอบหรือเปล่า”

“ชอบสิคะ ของที่มีค่ากับคุณปราชญ์ แล้วก็สวยขนาดนี้ ฝันต้องชอบอยู่แล้วค่ะ”

“เวลาที่ฉันรู้สึกไม่มีความสุข ฉันก็มักจะเล่นดนตรีเพื่อสร้างความสุขให้ตัวเองเสมอ สิ่งที่ฉันชอบและเล่นได้ดีที่สุดก็คือเปียโน เวลาไหนที่เธอไม่มีความสุข ลองนึกถึงเสียงเพลงกับเสียงดนตรีดูนะ ทอฝัน หาสิ่งที่เป็นตัวของตัวเองให้พบ แล้วเธอจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีก” พูดจบชายหนุ่มก็บรรจงสวมสร้อยลงบนลำคอเรียวระหง ทอฝันยกมือขึ้นลูบมันด้วยความตื้นตันใจ

“ขอบคุณมากนะคะ ฝันจะเก็บรักษามันเอาไว้อย่างดีที่สุดเลย”

“ดีมากสาวน้อย”

“ฝันว่าคุณปราชญ์รีบไปเถอะค่ะ แต่อย่าขับรถเร็วนักนะคะ”

“โอเค แล้วเดี๋ยวจะรีบกลับมาหานะ ฉันไม่หายไปไหนนานหรอก...สัญญาเลย” เจ้าของร่างสูงโปร่งให้สัญญาด้วยน้ำเสียงมั่นคง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จ้องมองดวงหน้าขาวเนียนงดงามไร้การแต่งแต้มแล้วยิ้มอบอุ่น หลังจากหญิงสาวพยักหน้ารับรู้อย่างว่าง่าย

ปราชญ์เดินหันหลังจากมาด้วยความรู้สึกประหลาดในหัวใจ การที่ต้องจากทอฝันไปในครั้งนี้มันคล้ายกับว่าความรู้สึกดีที่มีให้กันกำลังจะถูกบั่นให้ขาดลง มันเหมือนมีลางร้ายเตือนว่าความสัมพันธ์ที่สวยงามขึ้นทุกวันของเขากับสาวอาภัพคนนี้กำลังจะกลายเป็นแค่เพียงความว่างเปล่า

ชายหนุ่มใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มแล้วถอนหายใจ ยิ้มระอาให้กับความคิดของตัวเอง เขาคงเป็นห่วงสุภาแทนทอฝันถึงได้คิดวุ่นวายแบบนี้ เอาไว้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเขาจะสารภาพความรู้สึกที่มีให้หญิงสาวรู้เสียที ต่อให้เพิ่งจะพบกันได้ไม่นาน แต่สำหรับปราชญ์แล้ว ความรักที่มีให้ใครสักคนไม่จำเป็นต้องใช้เวลาหรือเหตุผล เพราะฉะนั้นรักแรกพบจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทุกกาลเวลา แม้จะต้องจากกันไปเรียนต่อปัญญาโทถึงต่างประเทศ แต่มันก็แค่สองปีเท่านั้น ดีเสียอีกที่ได้ให้โอกาสทอฝันโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกหน่อย ถ้าใครหน้าไหนกล้าดีมาแย่งเธอไป เขาก็จะตามทวงคืนให้ถึงที่สุดเลย

น่าเสียดายที่โชคชะตามักจะเล่นตลกกับชีวิตคนเราเสมอ...

..................................................................................................................................................................

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel