บทที่ 7 ถนัดในการประจาน
“คุณภีมจะลงโทษฉันอย่างไรคะ” ดวงตากลมแป๋วเอ่ยถาม ก่อนชายหนุ่มจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ พลันทอดสายตาไปยังหญิงสาว
“ถ้าผมจะหักเงินเดือนคุณ คุณก็คงไม่เหลือเงินเดือนให้ผมหัก”
“แล้วคุณภีมจะให้ฉันทำยังไง” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ก่อนหน้าคุณทำงานเป็นพนักงานในห้างสรรพสินค้า รายได้น้อยนิดแทบไม่พอกิน ลำพังพ่อคุณไม่ป่วยก็แทบจะชนเดือนอยู่แล้ว นี่ผมหวังดีขนาดไหนที่ยื่นมือเข้าไปช่วย หากไม่ใช่เพราะผม ป่านนี้พ่อคุณก็คงไม่ได้ยาดี ๆ มารักษา อาจจะตายไปแล้วก็ได้” ปณิดายืนมองเขาอย่างเงียบ ๆ เก็บความเจ็บปวดไว้ภายในโดยไม่พูดอะไรออกมา สองเท้าของภีมวัจน์เดินเข้ามาใกล้หญิงสาว จนเธอต้องถอยหลังออกจากเขา พลันหวนนึกถึงเรื่องราวในอดีต
“ก็ถ้าพี่ภีมไม่ทำเลว ๆ แบบนั้น ณิดาก็คงไม่จบเพียงแค่ ม.ปลายหรอกค่ะ ณิดาคงเรียนจบปริญญามีตัวเลือกมากมายในการทำงาน”
“ผมทำอะไร” เขาเลิกคิ้วพร้อมแสยะยิ้ม ก่อนหญิงสาวจะพูดบางอย่างออกมาด้วยความอัดอั้น
“ในตอนนั้นณิดาไม่รู้ว่าทำไมพี่ภีมคนดี ถึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ณิดาเฝ้าถามตัวเองซ้ำ ๆ แต่ก็หาสาเหตุไม่ได้ ณิดาพยายามเกาะติดและทำดีกับพี่ เพื่อให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม ทั้งที่ณิดาไม่รู้ว่าณิดาผิดอะไร และพี่ไม่เคยอธิบายอะไรให้ณิดาเข้าใจ จนกระทั่งอยู่ ๆ พี่ประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าณิดากำลังคิดแย่งพี่ไปจากเพื่อนสนิทตัวเอง พี่ไปแอบคบกับหวานตอนไหนณิดาไม่รู้ แต่พี่ไม่เคยอธิบายอะไรให้ณิดาฟังเลย พี่รู้ไหมคะ ว่าการที่พี่ประกาศต่อหน้าทุกคน ว่าณิดาต้องการแย่งพี่ไปจากหวาน คำประกาศของพี่ในวันนั้นทำให้ณิดาเดินไปไหนก็มีแต่คนตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงหน้าไม่อายแย่งแฟนเพื่อน รู้ตัวอีกทีก็โดนพี่ประจานจนทนเรียนต่อไปไม่ได้ ณิดาถึงได้รู้ว่าที่พี่เปลี่ยนไปไม่ใช่สาเหตุใด แต่เพราะพี่มีคนอื่น และโยนความผิดทั้งหมดมาที่ณิดา” ปณิดาต่อว่าเขาพร้อมน้ำตารินไหลลงมาเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต ขณะที่อีกฝ่ายทำได้เพียงแสยะยิ้มมุมปาก พลันดันร่างของเธอมายังมุมห้อง จับจ้องใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างมีความหมาย
“ซื่อบื้อยังไงก็อย่างนั้น เรื่องมันนานมาแล้วผมลืมไปหมดแล้ว” คำตอบของเขายิ่งทำให้หญิงสาวคับแค้นใจ เธอดันกายเขาออก แล้วเตรียมจะเบี่ยงตัวเดินจากไป ก่อนชายหนุ่มจะรั้งตัวเธอกลับมาในอ้อมกอด
“จะไปไหน ผมพูดไม่จบ”
“ปล่อยค่ะ อย่าเข้าใกล้ฉันแบบนี้” ใบหน้าสวยเงยขึ้นสบตาเขาอย่างมีความหมาย ก่อนประตูห้องของภีมวัจน์จะเปิด ร่างของพนักงานทำความสะอาดสองคนถึงกับเบิกตากว้างเมื่อเห็นเขาโอบรัดอยู่กับปณิดา
“คะ คุณภีม..คือ..” ชายหนุ่มขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถามอีกฝ่ายทั้งที่ยังคงโอบรัดปณิดาแนบแน่น
“มีอะไร”
“คือว่าพวกเรา เอาของว่างกับกาแฟมาให้ค่ะ” ปณิดาพยายามดันร่างของภีมวัจน์ออก พร้อมสายตาเลิ่กลั่กอีกฝ่ายมองทุกอย่างด้วยความตกใจอย่างถึงที่สุด
“อ่อ ขอโทษที พอดีปณิดาเขาอยากให้ผมกอด ผมก็เลยสนองความต้องการของเขา” ภายใต้อ้อมกอดเขา ปณิดาเบิกตากว้าง ก่อนสองสาวจะตอบรับอย่างตะกุกตะกัก
“ค่ะ ค่ะ” แล้วพากันเดินออกไป สิ้นเสียงประตูปิดลงเท่านั้น เขาหันกลับมายิ้มให้กับหญิงสาว
“ถ้าคุณไม่เตือนความจำ ผมก็ลืมไปแล้วนะว่าเคยใช้วิธีนี้กับคุณมาก่อน”
“ทำแบบนี้ทำไมคะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขาไม่ตอบเพียงแต่ค่อย ๆ ปล่อยเธอเป็นอิสระช้า ๆ
“ก่อนหน้าฉันเข้าใจว่าที่คุณทำร้ายฉัน เพียงเพราะคุณมีคนอื่น แต่หลังจากฉันเข้ามาทำงานที่โรงแรมของคุณ คุณก็ถนัดในการประจานให้ฉันได้รับความอับอาย จนกระทั่งถึงตอนนี้คุณยังทำให้คนอื่นเข้าใจฉันผิด มันสนุกมากเหรอคะที่ย่ำยีให้ฉันเป็นคนไม่ดีในสายตาคนอื่น”
“ไม่พอใจคุณก็ลาออกไปสิ แต่เรื่องค่ารักษาพยาบาลพ่อคุณ ผมไม่จ่ายให้นะ” ปณิดากำมือแน่น แล้วถามเขาเป็นครั้งสุดท้าย
“ฉันทำอะไรให้คุณเจ็บช้ำน้ำใจเหรอคะ ฉันไม่น่ารักกับคุณเวลาไหน คุณถึงต้องแบบนี้กับฉันซ้ำ ๆ ไม่จบไม่สิ้น พี่ภีมที่น่ารัก ที่แสนดีในอดีตมันหายไปไหนแล้วคะ ทำไมเหลือแต่ซาตานร้ายนิสัยไม่ดีอย่างคุณด้วย” ปณิดาหลับตาตะโกนด่าเขาด้วยความเจ็บปวด ก่อนชายหนุ่มจะชะงักนิ่ง
“แต่..คุณไม่ต้องห่วงนะคะ ว่าฉันจะลาออก ฉันไม่รู้หรอกค่ะ ว่าจุดประสงค์ที่ช่วยพวกเรา คุณต้องการอะไร แต่ไม่ว่าคุณต้องการอะไรจากพวกเรา ฉันจะอดทนจนกว่าพ่อจะหาย คุณอยากประจานให้คนอื่นมองฉันว่าเลวทรามยังไง ก็ทำไปเถอะค่ะ ฉันจะพยายามอยู่ให้ชิน” ว่าแล้วปณิดาก็หันหลังเดินจากไป ปล่อยให้ชายหนุ่มทอดสายตามองเธอจนลับสายตา
ข่าวเรื่องการพลอดรักกันระหว่างปณิดาและภีมวัจน์หลุดลอดออกไป จนทำให้สายตาของพนักงานคนอื่นมองเธอด้วยท่าทีแปลก ๆ
“ได้มาเท่าไหร่เหรอ”
“เธอพูดอะไร ฉันไม่เข้าใจ” ปณิดาถามกลับ
“ค่าตัวที่คุณภีมให้เธอไง ได้มาเท่าไหร่ ถึงแสนไหม” คำถามพร้อมสายตาเหยียดหยันของเพื่อนร่วมงานทำให้ปณิดาชะงัก แล้วเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายด้วยสายตาแน่นิ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นกอดอก มองไปยังเพื่อนร่วมงานทั้งสอง ที่คอยหาเรื่องไม่จบสิ้น
“เธอหมายความว่าไง ก็พูดออกมาตรง ๆ เลยดีกว่า ฉันไม่อยากเดาความหมายของพวกเธอ”
