บทที่ 6 ทำงานพลาด
“ในเมื่อพวกเราต่างดีกับเขา แต่ทำไมมันถึงทำกับครอบครัวเราแบบนี้ด้วย ผมสัญญาว่าจะไม่มีวันปล่อยมันลอยนวลอย่างเด็ดขาด” ภีมวัจน์พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแฝงความเจ็บแค้นเอาไว้ ขณะสายตาของมารดายังคงเลื่อนลอย ไม่อาจเข้าใจความหมายของลูกชาย
หลังจากนั้นชายหนุ่มคอยจับตามองนายอาทิตย์ อยู่หลายวัน เฝ้าดูเวลาเข้าออกห้องเช่า และสำรวจสถานที่ในการลงมือแก้แค้น วันสุดท้ายเขาดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปจำนวนหนึ่ง ก่อนตัดสินใจหยิบปืนออกจากบ้าน มุ่งตรงไปยังห้องเช่าของนายอาทิตย์ทันที
ชายหนุ่มในชุดสีดำ คลุมหมวกใส่แว่น ปิดหน้าปิดตา ยืนคอยเหยื่ออยู่ไม่นานนัก ร่างของนายอาทิตย์ก็เดินกลับมาเพื่อเข้าไปยังห้องเช่า นาทีนั้นภีมวัจน์เตรียมควักปืนขึ้นเล็ง พร้อมสายตาโกรธแค้นอย่างถึงที่สุด ภาพบิดาที่คอยดูแลสองพ่อลูกอย่างดีเสมอมา แต่อีกฝ่ายกลับทำให้บ้านอันแสนสุขแตกสลาย ความสุขและรอยยิ้มหายไป หลังจากลมหายใจบิดาสูญสิ้น มืออันแข็งแรงค่อย ๆ เล็งปืนตรงไปยังชายกลางคนพร้อมจะเหนี่ยวไกสังหาร ก่อนร่างเล็กของปณิดาจะวิ่งเข้ามาหานายอาทิตย์ สวมกอดเขาพร้อมรอยยิ้มกว้าง
“พ่อเหนื่อยไหมคะ วันนี้ณิดาเลิกเรียนเร็ว ก็เลยมีเวลาทำกับข้าวไว้รอ” เสียงใสของหญิงสาวทำให้ภีมวัจน์ชะงัก แล้วค่อย ๆ ลดปืนลงช้า ๆ พร้อมหัวใจร่วงหล่น เริ่มลังเลที่จะลั่นไกใส่อีกฝ่าย หญิงสาวตัวเล็ก ผมยาวใบหน้าสวยสดยังคงส่งยิ้มหวานให้บิดาของเธอ อย่างไม่รู้ตัว ว่ากำลังมีใครคิดพรากร่มไทรใหญ่จากเธอ เขาค่อย ๆ เก็บปืนแล้วทอดสายตาไปยังเบื้องหน้าด้วยลังเล ปณิดาใช้มือโอบกอดบิดาแล้วทำเสียงอ้อนตามนิสัย
“ณิดาตั้งใจทำสุดฝีมือเลยค่ะ พ่อรีบไปอาบน้ำแล้วมากินข้าวนะคะ แต่ห้ามบ่นว่าไม่อร่อยเด็ดขาด”
“ไม่ต้องชิมก็รู้ ว่าลูกสาวของพ่อฝีมือดีสุดในโลก” ชายกลางคนใช้มือยีศีรษะลูกสาวด้วยความรัก ท่ามกลางสายตาสับสนของภีมวัจน์ ก่อนจะมีชาวบ้านเดินผ่านไปมาผ่านมาแล้วหันมองเขาอย่างสงสัย ด้วยกลัวจะมีใครสังเกตเห็นพิรุธ ภีมวัจน์จำต้องเดินจากไปในที่สุด ทิ้งความแค้นไว้เพียงเท่านั้น
เช้าวันรุ่งขึ้นปณิดาแต่งตัวด้วยชุดแม่บ้านดังเดิม มุ่งตรงไปยังโรงแรมเฌอมาริน เพื่อทำหน้าที่ตามเดิม หากแต่เวลานี้กำลังใจของเธอมีมากขึ้น เมื่อเห็นว่าภีมวัจน์จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายในส่วนต่าง ๆ ให้ ไม่ว่าจะถูกเขารังแกอีกเท่าใด เธอก็จะยอมสู้เพื่อบิดาที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาล เพียงสองเท้าของหญิงสาวก้าวเข้าไปเท่านั้น ก็ถูกหัวหน้าแม่บ้านเรียกพบทันที
“ปณิดา เมื่อวานเธอทำความสะอาดยังไง วันนี้ลูกค้ารายงานว่าผ้าเช็ดตัวเป็นผืนเก่า มีคราบเครื่องสำอางติดเต็มไปหมด กว่าพี่จะเคลียร์ได้ก็ต้องยอมคืนเงินลูกค้าไปครึ่งหนึ่ง” เสียงไม่พอใจของวันวิสา ทำให้ปณิดาขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ
“แต่ว่าณิดาดูอย่างละเอียดแล้วนะคะ ไม่น่าจะเป็นไปได้”
“แต่เป็นไปแล้วไง ลูกค้าไม่พอใจเอามาก ๆ ตอนนี้คุณภีมรับรู้เรื่องแล้ว รอเธออยู่ในห้อง ดูท่าทางเขาจะโกรธมากด้วย แต่พี่ก็แปลกใจจริง ๆ เธอทำงานพลาดได้ทุกวัน ทำไมคุณภีมไม่ไล่เธอออก หรือทำไมเธอไม่ลาออกเอง พี่บอกเธอหลายครั้งแล้วหากเธออยากลาออก พี่เซ็นให้เอง เธอไม่เหมาะกับงานแบบนี้หรอก ยิ่งอยู่เธอเองก็มีแต่เสียใจและกดดัน ถ้าพี่เป็นเธอพี่ลาออกไปนานแล้ว” วันวิสาหัวหน้าแม่บ้านพูดต่อว่า หากแต่แววตายังแฝงด้วยความเห็นใจอยู่บ้าง
“ถ้างั้นเดี๋ยวณิดาไปพบคุณภีมที่ห้องค่ะ” หญิงสาวเบี่ยงตัวเดินเข้าไปหาภีมวัจน์ ขณะพนักงานทำความสะอาดสองคนที่แอบมองเหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ พากันหัวเราะคิกคักด้วยความสะใจ
“เดี๋ยวมันก็ลาออกไปเองล่ะ เธอนี่ฉลาดจริง ๆ ที่ใช้วิธีนี้”
“ฉันล่ะหมั่นไส้มันนัก มั่นหน้ามั่นตา คิดว่าตัวเองสวยมาก เป็นไงล่ะ เจอด่าไปทุกวัน มันยังจะทนได้อยู่ไหม”
“หัวเราะอะไรกัน” เสียงของวันวิสาดังเข้ามาทำให้ทั้งสองสะดุ้งตัวเล็กน้อย แล้วหันไปยังหัวหน้าแม่บ้าน
“ปะ เปล่าค่ะ” ทั้งสองตอบปฏิเสธพร้อมกัน
“เห็นคนอื่นล้ม แล้วพากันหัวเราะสะใจ ต้องเป็นคนแบบไหนกัน พวกเธอเองก็อย่าลืมว่าเคยทำงานพลาดบ่อย ๆ เหมือนกัน ณิดาเพิ่งเข้ามาทำงานไม่นาน จะพลาดบ้างก็เป็นเรื่องปกติ...แยกย้ายไปทำงานได้ละ” สิ้นเสียงของหัวหน้าแม่บ้าน พนักงานทั้งสองก็พากันมุ่ยหน้าเดินแยกย้ายจากไป ปล่อยให้วันวิสาส่ายศีรษะไปมาด้วยความหน่ายใจ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนร่างของหญิงสาวในชุดแม่บ้านจะเดินเข้ามาน้อมตัวลงเล็กน้อยด้วยสายตาสั่นไหว
“พี่วิสาบอกว่าคุณภีมรออยู่ค่ะ”
“ทำไมทำงานพลาดอีกแล้ว คุณจะให้โรงแรมผมเสียชื่อเสียงไปถึงไหน”
“เรื่องนั้นฉันมั่นใจว่าฉันดูแลตรวจทานดีหมดแล้ว”
“แล้วทำไมยังเกิดขึ้น” เขาสวน ก่อนปณิดาจะนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วส่ายศีรษะไปมา
“ไม่ทราบค่ะ” ภีมวัจน์ได้ยินดังนั้นหันมองอีกฝ่ายอย่างเงียบ ๆ หลายปีมานี้ เขาปล่อยให้สองพ่อลูกลอยนวลมานาน จวบจนรู้ข่าวว่านายอาทิตย์กำลังป่วยหนัก ก่อนชายกลางคนจะตายด้วยโรคร้าย ภีมวัจน์ตัดสินใจก้าวเข้ามาให้ชีวิตสองพ่อลูกอีกครั้ง เพื่อทำให้นายอาทิตย์ระลึกถึงสิ่งที่เคยทำกับครอบครัวไว้ และก่อนตาย เขาต้องได้รับกรรมที่ก่อ สายตาของภีมวัจน์จับจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ เธอเป็นคนนิสัยอ่อนโยนมาตั้งแต่เด็ก มีความเมตตาและแคร์ความรู้สึกผู้อื่นเสมอ จนเขาเคยมอบใจให้เธอ หากไม่ใช่เพราะนายอาทิตย์ ป่านนี้เขาคงขอเธอแต่งงานไปเรียบร้อยแล้ว
