บทที่ 11 ถ้าลาออกจากยุติการรักษา
“ณิดาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ณิดาไม่เชื่อเด็ดขาดว่าพ่อจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ พ่อรักคุณชวกรมาก ยังไงซะเขาก็ไม่มีทาง..” หญิงสาวยังไม่ทันพูดจบ
“ไม่เชื่อแล้วยังไง จะให้ผมเชื่อคุณงั้นสิ” ปณิดาค่อย ๆ เลื่อนสายตาไปยังชายหนุ่มที่เธอเคยหลงรัก ทั้งคำพูดและการกระทำของเขาลบล้างภาพชายหนุ่มที่เคยอ่อนโยนไปจนหมด
“ณิดาไม่รู้หรอกนะคะ ว่าสิ่งที่พี่ภีมพูดกับพ่อ มันเป็นมายังไง แต่ณิดาเชื่อมั่นว่าพ่อไม่มีส่วนเกี่ยวข้องการเสียชีวิตของคุณชวกร”
“เธอไม่รู้อะไรก็หุบปากไป”
“ไม่ค่ะ พี่ภีมนั่นแหละต้องขอโทษคุณพ่อกับณิดา” ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นจึงเหยียบเบรก แล้วหันดวงตาแดงก่ำกลับมายังหญิงสาวที่ตนเคยรัก
“เธอจำไว้นะ ที่เธอเรียนไม่จบ ต้องเปลี่ยนงานไปเรื่อย ๆ มันยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งที่พ่อเธอทำกับพี่ พ่อตายแม่เป็นบ้า เธอคิดว่าชีวิตของพี่มันมีความสุขมากหรือไง ฮะ” เขากัดฟันแล้วถามหญิงสาวพร้อมน้ำตาร่วงหล่นลงมา ก่อนมือบางจะค่อย ๆ เอื้อมไปเช็ดให้อย่างอ่อนโยน
“ณิดารู้ว่าพี่เจ็บปวด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝีมือพ่อณิดา ตำรวจปิดคดีไปแล้วนะคะ” เขาคว้ามือหญิงสาวออกจากใบหน้า แล้วกำมือเธอแน่น
“ถ้าคุณเชื่อแบบนั้นก็ตามใจ แต่ไม่ว่ายังไง ผมก็จะทำให้พ่อของคุณทุกข์ทรมานอย่างถึงที่สุด”
“พี่ภีมจะทำอะไร” ดวงตากลมแป๋วสัดส่ายจับจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความไม่ไว้ใจ ก่อนเขาจะแสยะยิ้มน่ากลัวออกมาดังเดิม
“ผมจะทำให้พ่อคุณเจ็บปวดเจียนตาย ด้วยการมองลูกสาวเพียงคนเดียวของเขา จมอยู่ในนรกกับคนอย่างผม เขาจะได้เข้าใจความรู้สึกของคนที่สูญเสีย และต้องทนมองคนในครอบครัวอยู่อย่างทุกข์ทรมาน ผมจะทำให้พ่อคุณตายทั้งเป็นเหมือนผม!” ปณิดาส่ายศีรษะไปมาช้า ๆ ด้วยความผิดหวังอย่างถึงที่สุด
“ทุกอย่างผ่านมาแล้ว ไม่มีใครกลับไปแก้ไขอะไรได้ ทำไมพี่ภีมจึงไม่ยอมรับความจริงคะ คดีของคุณชวกรจบสิ้นไปนานแล้ว” น้ำตาของปณิดาไหลรินออกมา ก่อนเขาจะดึงร่างเล็กเข้าหากาย แล้วจับจ้องมองใบหน้าพร้อมกลิ่นหอมคุ้นเคยลอยเข้ามาเตะจมูก
“ถ้าคุณลาออกจากโรงแรม ผมจะยุติการรักษาพ่อคุณทั้งหมด คุณรู้ใช่ไหม ว่าถ้าพ่อคุณไม่ได้ยาจากต่างประเทศ เขาจะเป็นยังไง” ปณิดาดวงตาสั่นไหว รับรู้ทุกอย่างว่าอีกฝ่ายพยายามบีบให้เป็นไปตามเกมของเขา
“พี่ภีมรู้ ว่าพ่อคือทุกอย่างของณิดา พี่รู้ว่าณิดาจะไม่ยอมให้พ่อเป็นอะไร พี่กำลังใช้ณิดาทำร้ายพ่อใช่ไหมคะ ตกลงพี่ทำทุกอย่างเพราะแบบนี้เหรอคะ” สายตาผิดหวังของเธอกล่าวขึ้นพร้อมน้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนเขาจะยิ้มออกมาบางเบา
“ช่วยไม่ได้ เธอเกิดเป็นลูกสาวเขาเอง เธอก็ต้องรับผิดชอบ” คำพูดของชายหนุ่มทำให้ปณิดาหัวใจหล่นวูบ ไม่มีทาง ที่คนดีของเธอในอดีตจะหวนกลับมาได้อีก ก่อนเธอจะพูดบางอย่างออกมาด้วยความเสียใจ
“ที่ผ่านมา พี่ชอบประจานณิดาให้คนรุมเกลียด ไม่ว่าจะเป็นตอนเรียนหรือตอนทำงาน พี่มักจะทำแบบนี้กับณิดาเสมอ พี่ภีมมีความสุขมากใช่ไหม” เธอถามด้วยน้ำเสียงอ่อนล้าเต็มที ก่อนเขาจะตอบอย่างเย็นชา
“แน่นอน”
“ดีค่ะ ต่อไปนี้พี่จะทำอะไรก็เชิญ ณิดาขอเพียงอย่างเดียวให้พี่ทำตามสัญญา ว่าจะรักษาคุณพ่อของณิดา การกระทำของพี่อาจทำให้ณิดาเลิกรักพี่ เลิกคิดถึงพี่ และลืมพี่ออกจากใจได้สักที” เธอพูดจบจึงเปิดประตูเดินลงรถไปพร้อมน้ำตารินไหลอาบแก้มด้วยความผิดหวัง ก่อนชายหนุ่มจะเอนกายพิงเบาะ คำพูดตัดขาดของเธอทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก ก่อนสายตาจะเลื่อนมองเธอในกระจกมองข้าง เห็นเพียงร่างเล็กเดินปาดน้ำตาแล้วหายกลืนไปกลับความมืดมิด
ในบ้านหลังใหญ่ชายหนุ่มเดินเข้ามาอย่างคนหมดแรง ก่อนจะฝืนยิ้มให้กับมารดาที่นั่งเล่นอยู่หน้าทีวี ขณะที่มีพยาบาลประจำตัวคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
“แม่ครับ ทานข้าวหรือยัง”
“กินแล้ว”
“กินกับอะไรจำได้หรือเปล่า” หญิงกลางคนครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะปล่อยยิ้มกว้างออกมา
“กินกับต้มจืด” เขาหันไปยังพยาบาลสาวในทันที ก่อนเธอจะปล่อยยิ้ม
“เก่งมากค่ะ คุณหทัยรัตน์ทานต้มจืดไปจริง ๆ ค่ะ” ได้ยินเพียงเท่านั้นเขาก็หันกลับมายังมารดาทันทีด้วยความดีใจ
“วันนี้คุณแม่เก่งมากนะครับ ผมอยากให้แม่เก่งแบบนี้ทุกวัน”
“แม่เก่งใช่ไหม แม่เก่งมาก แม่เก่งมาก” หญิงกลางคนเหม่อลอยแล้วพูดซ้ำ ๆ ก่อนจะหยุดนิ่งแล้วหันกลับมายังภีมวัจน์อีกครั้ง
“คุณแม่ง่วงนอนหรือยังครับ ให้ผมพาขึ้นนอนดีไหม”
“ดี ๆ แม่ง่วงแล้ว” เธอรีบวางของในมือ แล้วหันไปหาลูกชายทันทีด้วยความดีใจ ก่อนเขาจะค่อย ๆ จูงมารดาขึ้นไปยังห้องนอน พร้อมนั่งอยู่เป็นเพื่อนจนอีกฝ่ายเผลอหลับไปในที่สุด ชายหนุ่มค่อย ๆ ยกผ้าห่มคลุมกายหทัยรัตน์แล้วเอื้อมไปดับไฟ ก่อนจะเดินกลับมายังห้องนอนของตัวเอง
เขาทิ้งตัวนั่งยังเตียงสีทึบ แล้วก้มหน้าลงพลางหวนคิดถึงเรื่องราวในอดีต นับจากวันแรกที่ณิดาเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหญ่ เธอเป็นเด็กน่ารักเรียบร้อย ใส่ใจทุกคนในบ้าน จนทำให้หทัยรัตน์และชวกรเอ็นดู ถึงขนาดตัดสินใจออกค่าเล่าเรียนให้จนจบมัธยมปลาย แต่ด้วยความเกรงใจ นายอาทิตย์จึงปฏิเสธรับเงินการศึกษาของปณิดาไปในที่สุด หากแต่นั่นไม่ได้ทำให้พฤติกรรมอ่อนน้อมของหญิงสาวเปลี่ยนแปลงไป เธอยังคงดูแลทุกคนในบ้านอย่างดีเสมอมา
