5. ทุกอย่างชัดเจนเหมือนความจริง
บัวกวาดสายตาไปรอบๆ ห้องอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ความฝัน บัวเริ่มคิดถึงคุณยาย น้าเล็ก แทน ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมากที่เธอไม่เห็นใครเลย
'หรือนี่จะเป็นความฝันเธอกำลังฝันอยู่หรือเปล่า'
บัวพึมพำกับตัวเองและคิดย้อนไปย้อนมาอยู่หลายรอบ ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆ ห้องอีกเป็นรอบที่สาม สี่ ... เพื่อให้แน่ใจว่า
‘นี่ ! ไม่ใช่ความฝัน’
บัวพูดกับตัวเองอีกครั้ง
“ทำไมทุกอย่างภายในห้องนี้กลับดูชัดเจนเหมือนจริง”
ไม่ว่าบัวจะนึกทบทวนอย่างไร บัวก็นึกไม่ออกว่าที่นี่คือที่ไหน บัวมองมาที่แขนข้างซ้าย ซึ่งตอนนี้มีสายน้ำเกลือต่อกับถุงน้ำเกลือซึ่งแขวนอยู่ข้างเตียง บัวพยายามคิด คิดแล้วคิดอีกก็คิดไม่ออกว่าจะมีโรงพยาบาลไหนที่แต่งห้องพักผู้ป่วยให้เป็นสไตล์วิทเทจแบบที่เห็นอยู่ อีกทั้งลักษณะของถุงน้ำเกลือที่แขวนอยู่ก็แปลกๆไม่เคยเห็นมาก่อน
ขณะนี้บัวรู้สึกหงุดหงิดระคนกับสับสนในความรู้สึกที่เป็นอยู่ เมื่อความสับสนเพิ่มมากขึ้นจนเธอเองไม่มั่นใจว่า สิ่งที่เธอกำลังเห็นอยู่นี้ มันเป็นความฝันหรือคือความจริง แล้วบัวก็ตัดสินใจเด็ดขาดที่จะพิสูจน์ด้วยตัวเองเธอเริ่มด้วยการยกมือข้างที่ไม่มีสายน้ำเกลือขึ้นเหวี่ยงด้วยความแรงพอประมาณเข้าที่แก้มของเธอเอง
เพียะ!
บัวเริ่มรู้สึกว่าแก้มของเธอชา แม้ว่าเธอจะไม่ได้ออกแรงมากนัก แต่เธอก็เริ่มรับรู้ถึงความรู้สึกเจ็บตามมา หลังจากที่เธอตบหน้าตัวเอง
“โอ๊ย!”บัวอุทานขึ้น
ขั้นตอนการพิสูจน์ของเธอยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เธออยากจะแน่ใจขึ้นอีกว่า
‘นี่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ฝัน’
บัวค่อยๆ เอื้อมมือขวาไปยังสายน้ำเกลือที่แขนซ้ายของเธอที่มีเข็มน้ำเกลืออยู่ซึ่งโดยปกติแล้วบัวเป็นคนกลัวเข็มมาก แต่บัดนี้ ความกลัวนั้นกลับหายไปชั่วขณะ อย่างน่าประหลาดใจนักเพียงเพราะเธอคิดว่า
‘ตอนนี้ฝันหรือเรื่องจริง’ บางครั้งเธอเองก็สับสนเกี่ยวกับความฝันอยู่ไม่น้อย บัวมักจะคิดเล่นๆว่า ‘บางครั้งเหตุการณ์ในชีวิตจริงๆนั้นอาจจะเป็นความฝันของชีวิตในฝันก็ได้บางทีทุกอย่างอาจจะสลับกันอยู่ก็เป็นได้’
บัวไม่รู้เลยว่าพฤติกรรมความเป็นไปของเธอทั้งหมดอยู่ในสายตาของใครบางคนที่กำลังเฝ้ามองดูเธออยู่จากนอกห้องด้วยความเป็นห่วงแกมไม่เข้าใจในตัวเธอเลย ตั้งแต่เธอเริ่มตบหน้าตัวเอง ทันใดที่เห็นว่าเธอกำลังจะดึงสายน้ำเกลือออกจากข้อพับของตัวเอง ใครคนนั้นจึงรีบผลักบานประตูพับของห้องนอนอีกข้างตรงเข้าไปหาเธออย่างรวดเร็ว
มือที่แข็งแรงแต่อบอุ่นของใครบางคนคว้ามือของบัวไว้ ไม่อยากให้เธอดึงสายน้ำเกลือออกในขณะนี้ บัวนิ่งอึ้งตกตะลึงไปชั่วขณะด้วยความตกใจบัวจึงยอมโอนอ่อนผ่อนตามเขาแต่โดยดี เธอผละมือจากสายน้ำเกลือแล้วมองเจ้าของมือนั้น พร้อมๆ กับชายหนุ่มก็รีบปล่อยมือเธอแทบจะในทันที
บัวเบิกตากว้างตกใจ เมื่อเห็นว่าชายคนแปลกหน้าที่คว้าข้อมือเธอไว้เมื่อครู่กำลังยืนจ้องหน้าเธออยู่ สีหน้าของเขาแสดงออกขึงขังค่อนไปทางดุ ด้วยระยะที่ใกล้กัน ทำให้บัวมองชายหนุ่มตรงหน้าเธออย่างพินิจพิจารณา ทรงผมลองทรงสูง หวีผมด้านหน้าและด้านข้างไปข้างหลัง ขนตางอนยาว ดวงตากลมค่อนข้างโต จมูกเป็นสัน ผิวสีน้ำผึ้ง รูปร่างสูง ใหญ่ กำยำล่ำสัน ดูแข็งแรง ซึ่งเธอสัมผัสได้จากมือที่จับเธอไว้แน่นเมื่อครู่ แผงหน้าอกกว้าง บัวแอบคิดไปว่าเขาคงขยันไปฟิตเนสอย่างแน่นอน
‘ดูๆ ไปก็หล่อ เท่ๆ ไม่เบา แบบนี้เป็นนายแบบได้สบาย’ บัวคิดขณะจ้องหน้าเขา
บัวยังคงจ้องเขาไม่ละสายตา จนดูเป็นการเสียมารยาทซะด้วยซ้ำไป เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงสีครีมเข้มเอิร์ทโทน บัวคิด
‘ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่ จะว่าเป็นญาติของเพื่อนเธอ หน้าตาเขาก็ไม่คล้ายกับใครเลย หรือจะเป็นหมอ’
ขณะที่บัวกำลังใช้ความคิดอยู่นั้น เขาก็จ้องบัวตอบด้วยเช่นเดียวกัน และคิดว่า
‘ทำไมหญิงสาวที่เขาช่วยชีวิตไว้ถึงได้เร่งอยากตายนัก อีกทั้งพยายามทำร้ายตัวเองอีก หล่อนโชคดีมากที่เขามาพบและเข้ามาทันก่อนที่เธอจะทำอะไรต่อไป’
เขาพูดกับหล่อนว่า
“เกิดมาเป็นคนนี้ดีแท้ๆ ทำไมถึงเร่งอยากให้ตายเร็วๆ นึกแล้วสลดใจนักหนา”
เขาจ้องหน้าบัวนึกสงสัยในตัวเธอ บัวเองก็มองเขาตอบ แต่เธอนิ่งเงียบไม่ตอบอะไร ด้วยเหตุที่ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดเมื่อครู่
‘เกิดอะไรขึ้นกันแน่’ บัวเริ่มตั้งได้สติ คิดว่านี่คงไม่ใช่ความฝัน จู่ๆ คำถามมากมายก็ปรากฎขึ้นในหัวของเธอ
‘เสื้อผ้าที่ใส่เธอใส่อยู่นี่ ก็อาจจะเป็นของผู้ชายคนนี้’
‘เธอมาที่นี่ได้อย่างไร’
‘ใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้’
‘ผู้ชายคนนี้เป็นใครหรือจะเป็นคุณหมอ’
‘ที่นี่คือที่ไหน คุณยาย น้าเล็ก แทนหายไปไหน’
ยิ่งคิด คำถามที่บัวสงสัยก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนแล้วจู่ๆ บัวก็มองหน้าผู้ชายคนนั้นก่อนแล้วเอื้อมมือคว้าเข้าที่แขนของเขาและออกแรงบีบเท่าที่แรงของเธอจะมี เขามีสีหน้าตกใจเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร
บัวคิด
‘สัมผัสได้ แสดงว่าเป็นคนจริงๆ’
นอกจากนั้นเธอยังสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากแขนของเขาอีกด้วย
‘อุ่นด้วย’
