บท
ตั้งค่า

3. เหตุใดจึงห่วงใยเธอเหลือเกิน

เขาอุ้มเธอกลับมาที่รถ ในใจคลายความกังวลไปได้มากหลังจากได้ยินเพื่อนพูดเมื่อครู่ เขาพาหญิงสาวมาที่บ้านพักเขาในค่ายทหาร ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านพักสำหรับรับรองข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หลายคนพูดกันหนาหูว่า คงเพราะบารมีของท่านพ่อ เขาถึงได้พักที่บ้านหลังนี้ ส่วนตัวแล้วเขาไม่ได้รู้สึกยินดีในยศถาบรรดาศักดิ์ หรือบ้านพักหลังนี้แม้แต่น้อย และอีกไม่กี่เดือน เขาก็จะย้ายออกไปอยู่บ้านของท่านยาย เพราะการตัดสินใจลาออกจากทหารของเขา ท่ามกลางเสียงคัดค้านของคนรอบข้าง สาเหตุหนึ่งคือ เขาทนไม่ได้ที่เห็นผู้คนในประเทศต้องมาห้ำหั่นกันเอง เพียงเพราะความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน เขาคาดว่าจะเกิดการต่อสู้คัดค้านตามมาอีกมากหลังจากการเปลี่ยนแปลง บ้านเมืองอาจจะไม่สงบสุขอีกทั้งในตอนนี้เขายังเข้าใจสิ่งที่ท่านพ่อเคยพูดไว้ว่า

“ยังคงมีกลุ่มคนบางพวกที่เข้ามาปริวัตรสยามนั้นบางคนทำเพียงเพื่อผลประโยชน์ของตนหาใช่เพื่อส่วนรวมไม่” เขาครุ่นคิดถึงเรื่องนี้อยู่ในใจมาตลอดตั้งแต่ท่านพ่อของเขาจากไป เขารู้สึกเสียใจที่สุดในชีวิต ผิดหวังแทบจะดำรงตนไว้ไม่ได้ ความรู้สึกผิดที่พรั่งพรูเหมือนคลื่นที่ถาโถมเข้ามาที่เขาเองคือเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ทำให้ท่านพ่อล้มป่วยและจากไปอย่างกะทันหัน การตัดสินใจหันหลังให้กับชีวิตทหารอย่างถาวรนั้นเขารู้ดีว่ามันไม่สามารถทดแทนกับสิ่งที่สูญเสียไปได้แต่อย่างน้อยก็เป็นการตัดหนทางที่เขาเคยก้าวผิดมาแล้ว แน่นอนว่าผลแห่งการตัดสินลาออกใจของเขาได้ส่งผลกระทบอื่นๆ ตามมา รวมถึงชีวิตคู่ของเขาในอนาคตอีกด้วยเช่นกัน

รถของเขามาหยุดที่ใต้ถุนซึ่งเป็นลานจอดรถของเรือนไม้สีขาวสองชั้น เขาอุ้มเธอขึ้นบันไดที่อยู่ด้านหน้าของตัวเรือน ที่ชั้นสองมีชานเล็กๆ ซึ่งเมื่อผ่านประตูหน้าเข้าไปเป็นส่วนรับแขก มีโซฟาที่ทำจากหวายสานสีขาว และมีแบะลายดอกสีมิ้นท์ที่เป็นฝีมือเย็บจักรของคุณแม่ ห้องซ้ายมือ คือ ห้องนอนของเขา เป็นมุขที่ยื่นออกจากตัวบ้าน มีหน้าต่างถึงสามด้าน หน้าต่างแต่ละบานมีผ้าม่านสีขาวลายฉลุ และปักดอกไม้สวยงาม ทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือของคุณแม่ของเขา ห้องซึ่งอยู่เยื้องกันเป็นห้องว่าง เป็นห้องเก็บอุปกรณ์วาดภาพ ห้องรับประทานอาหารซึ่งติดกับห้องครัว อยู่ถัดไปทางด้านหลัง

เขาบรรจงวางเธอลงบนเตียงนอน เวลานี้เองที่เขาได้มีโอกาสได้มองเธออย่างเต็มตา เธอเป็นผู้หญิงที่หน้าตาสะสวย จมูกโด่งเป็นสันรับกับรูปหน้าไข่พอดี ปากเป็นกระจับสีชมพูออกไปทางซีดๆ แต่ไม่ได้ทำให้ความสวยของปากที่ได้รูปนั้นลดลงไปเลย ผิวของหล่อนขาวราวกับคนจีน ส่วนใบหน้ามองรวมๆ แล้วละม้ายกับแขกก็ไม่เชิง ทรงผมยาวตรงสลวย ดูไม่เหมือนกับหญิงสาวทั่วไปในพระนครที่นิยมดัดผม อีกทั้งเสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ดูแปลกตา เสื้อคอกลมแขนสั้นเนื้อผ้ายืดหยุ่นได้สีขาว บริเวณหน้าอกเขียนว่า Chanel เขาเองรู้จักดีว่าเป็นชื่อยี่ห้อเสื้อชื่อดังจากฝรั่งเศสที่เขารู้จักขณะไปเรียนที่อังกฤษ ในเวลานั้นยี่ห้อนี้กำลังได้รับความนิยมมาก เขาเองยังซื้อน้ำหอม “ชาเนลนัมเบอร์ไฟว์” กลับมาด้วย กางเกงของเจ้าหล่อนก็แปลกประหลาดยิ่งนัก ตัดเย็บจากผ้าเดนิม ผิดกันที่ดูเนื้อผ้าจะนุ่มกว่ากางเกงยีนส์ที่เคยเห็นคนงานในอังกฤษสวมใส่กัน ที่แปลกเห็นจะเป็นทรงกางเกงที่ขากว้างจนเกือบจะเป็นกระโปรง ซึ่งเขาไม่เคยเห็นสตรีในสยามสวมใส่กัน

ความสงสัยและคำถามมากมายเกี่ยวกับสตรีผู้นี้ผุดขึ้นในใจเขาอย่างไม่หยุดหย่อน

‘เธอผู้นี้เป็นใคร มาจากไหน เธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร มีญาติพี่น้องหรือไม่ เหตุใดถึงมาคนเดียว แล้วทำไมถึงพลัดตกน้ำที่ท่าน้ำหน้าวัดระฆัง ในวันทำบุญครบรอบ 100 วันของท่านพ่อเขา ที่สำคัญผู้คนละแวกนั้นกลับไม่มีใครรู้จักเธอ’

ความคิดของเขาทั้งหมดหยุดลงเมื่อจู่ๆท่านยาย คุณแม่ของเขา ก็ตามเข้ามาในห้องนอน ส่วนนายรื่นคนขับรถ แม่เสงี่ยม นั่งรออยู่ที่หน้าห้อง ทุกคนต่างเป็นห่วงและสนใจใคร่รู้เรื่องราวของผู้หญิงคนนี้มิน้อย แม่เสงี่ยมผู้หญิงวัยกลางคน รูปร่างท้วม ผมบ็อบสั้นเป็นลอน ผิวสีดำแดง ท่าทางใจดี เป็นแม่ครัวที่ช่วยท่านยาย กับ คุณแม่ ที่ภัตตาคาร มานานแล้ว ชะโงกหน้าเข้ามาแล้ว แม่เสงี่ยมพูดขึ้นเสียงดังกว่าใครว่า

“เชิญท่านๆ ออกจากห้องเถอะ บัดเดี๋ยวอิฉันจะเปลี่ยนผ้าผ่อนให้แม่หนูคนนี้ก่อนจะป่วยไข้ไปเสียก่อน” ทุกคนเดินออกจากห้องและเขาเดินออกมาเป็นคนสุดท้ายพร้อมทั้งยื่นเสื้อกุยเฮง กางเกงแพรของเขาที่ใส่นอนให้กับแม่เสงี่ยม

ทุกคนเดินออกจากห้องมานั่งรอแม่เสงี่ยมเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แม่หนูคนนั้น ท่านยายและคุณแม่นั่งอยู่รอที่โซฟายาว ส่วนเขานั่งถัดมาอีกตัวหนึ่ง นายรื่นนั่งที่พื้นข้างเขา รอฟังว่าเจ้านายจะให้ช่วยอะไรหรือไม่ แล้วท่านยายก็พูดว่า

“พุทโธ่ พุทถัง น่าสงสารแม่หนูคนนี้เสียเหลือเกิน ยังเป็นสาวเป็นแส้ ตกน้ำตกท่าได้อย่างไรกันเล่า ลูกเต้าเหล่ากอของผู้ใด ก็มิรู้ ป่านนี้คงเป็นห่วงกันแย่แล้ว”

“มิเป็นกระไรมั่งค่ะ ท่านแม่ บัดเดี๋ยวคงฟื้น” คุณแม่ของพิพัฒน์กล่าวตอบพร้อมกับจับมือ แล้วก็หันมาพูดกับลูกชายของตนว่า

“พ่อพัฒน์จะอยู่กับแม่หนูคนนี้สองต่อสองได้อย่างไรกันจักเป็นที่ครหานินทา”

“คงไม่เป็นกระไรกระมังขอรับ ด้วยเหตุที่หญิงแขถอดหมั้นไปแล้ว”

“เอ๊ะ! อย่างไร ชาวบ้านยังไม่มีใครรู้ พ่อพัฒน์ลูกแม่ คนอื่นเล่ามองจะเป็นคนไม่ดีนะ”

“คุณแม่ ขอรับ ไม่ควรเลยที่จะต้องกังวล ถ้าหล่อนฟื้นลูกจะพาหล่อนกลับบ้านครับ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel