10.สักนิด
ใบหน้าหวานขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ไม่ใช่ว่าในเวลานี้เราทั้งคู่ควรจะไปตามหาทั้งเบนและอาเวียงั้นหรือ? นี่ยังไม่ใช่จังหวะดีๆ ที่เธอและเขาจะทำเรื่องเกินเลยเช่นนั้น..
“คงจะดีหากว่าเราถือโอกาสนี้ทำความรู้จักกัน..ท่านคิดแบบเดียวกันรึเปล่าคะ”
และใช่แล้ว คำพูดของเธอมันตรงข้ามกับสิ่งที่เธอคิดอย่างสิ้นเชิง ทำไมกันนะ ทำไมเธอจะต้องแพ้ให้กับยัยผึ้งผีสิงตัวนั้นตลอดเลย!!
กาวินรู้สึกว่าใบหน้าของเขามันร้อนผ่าวจนเขาต้องยกมือขึ้นมาพัดโบก เขาอมยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากด้วยความรู้สึกทั้งเขินอายและมีความสุข
“เพราะว่าข้าคือคนที่ไม่ได้เรื่องเท่าไหร่นักในบรรดาพี่น้อง ด้วยเหตุนั้นเองข้าจึงไม่เคยคาดหวังว่าตัวเองจะสามารถทำให้สตรีนึกอยากเข้าหา”
ในที่สุดการพยายามไขลูกกุญแจของเขาก็สามารถทำได้เสียที เขาเปิดประตูออกก่อนจะเดินเข้าไปด้านในแล้วหันกลับมามองใบหน้าที่แสนงดงามของอีฟ
“จะเข้ามาด้านในไหมครับ หรือว่า..เจ้าไม่ยินดีที่จะเข้ามา..”
เธอเดินเข้าไปด้านในด้วยเท้าทั้งสองข้าง ครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพราะถูกบังคับหรือว่าถูกมนต์สะกดอะไรเลย แต่มันเป็นเพราะว่าเธอสงสารเขา แววตาที่เศร้าหมองนั่นทำให้ อีฟอยากรู้จักเขาเพิ่มอีกหน่อย รอยยิ้มของเขามันน่ารักมากๆ เลย เธอชอบนะ..ชอบรอยยิ้มนั้นและอยากจะนอนมองมันทั้งคืนจริงๆ
หากเป็นไปได้เธอก็อยากจะเอื้อมมือไปคว้าคอเสื้อของเขาแล้วบอกกับเขาว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องประหม่าหรือว่าหวาดกลัวเราทั้งคู่จะค่อยเป็นค่อยไป
“ไม่มีเรื่องไหนให้ท่านจะต้องเป็นกังวลเลยค่ะ เพราะว่าเราจะค่อยเป็นค่อยไป ข้าไม่สนด้วยซ้ำว่าในครอบครัวของท่าน ท่านจะ ถูกมองข้ามหรือว่าถูกด้อยค่ามากแค่ไหนแต่ในยามที่..ในยามที่ท่านยืนอยู่เบื้องหน้าของข้านั้น..ข้าจะปลอบโยนท่านเอาไว้เอง”
มันน่าตลกที่เธอเริ่มพูดออกมาตามที่ใจของตัวเองคิด กาวินเดินไปที่โต๊ะอาหารที่อยู่ด้านในห้อง เขาเทเหล้าใส่แก้วก่อนจะดื่มเข้าไปเร็วๆ เพื่อเรียกความกล้าให้กับตัวเอง
เขาไม่ได้อยากอยู่กับเธอเพราะว่าตัวเองต้องทำเพื่อเผ่าพันธ์ุหมาป่า แต่ที่เขาอยากอยู่กับเธอมันเป็นเพราะว่า..เธอทำให้สายตาของเขามันหยุดอยู่ที่เธอได้โดยที่ไม่สามารถมองไปที่อื่นได้เลย
“รอข้าอยู่ที่นี่ก่อนได้ไหม ข้าจะไปหาเบนเพื่อบอกกล่าวกับเขาเรื่องที่แกะพวกนั้น..ที่มาที่นี่”
เธอส่งยิ้มให้เขาก่อนจะเดินเข้าไปประชิดตัวของกาวิน บางอย่างกำลังเรียกร้องในใจว่าเธอจะปล่อยให้คืนนี้มันจบลงโดยที่ไม่ได้ทำความรู้จักกับเขาไม่ได้อย่างเด็ดขาด
“ข้าจะรอท่านอยู่ที่นี่ค่ะ แน่นอนว่าหากท่านให้คำมั่นว่าจะกลับมา”
ปลายนิ้วของเธอแตะลงบนใบหน้าของเขาก่อนที่มันจะเลื่อนไล้ไปตามสันกรามลงมาเรื่อยๆ จนถึงลำคอ
“ข้าจะกลับมาอย่างแน่นอน..ข้าให้คำมั่น”
เขาทาบทับริมฝีปากลงไปบนกลีบปากของเธออย่างแผ่วเบา ขณะที่ปลายลิ้นแลบไล้ออกมาเลียลงบนนั้นด้วยความอ่อนโยนและเร่าร้อนในเวลาเดียวกัน เขาจะกลับมาทำมันอย่างลึกซึ้งมากกว่านี้แน่ๆ จะกลับมาเพื่อช่วงชิงลมหายใจของเธอไปมากกว่านี้..ให้มันสาสมกับความต้องการที่เอ่อท้นขึ้นมาในหัวใจ
เมื่อกาวินเดินออกไปแล้ว อีฟก็รินเหล้าในขวดใส่แก้ว เธอกรอกมันใส่ปากก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ
“ออกมาสิ..ไม่ใช่ว่าเรามีเรื่องจะต้องคุยกันอย่างนั้นหรือ!!”
ผึ้งน้อยบินเข้ามาทางหน้าต่างก่อนที่มันจะบินวนไปเกาะที่แก้วเหล้า
“นี่อย่ามองกันแบบนั้นสิ เพราะข้าเจ้าถึงได้ทำความรู้จักกับบุรุษที่เจ้าหมายตาไม่ใช่รึไง เช่นนั้นแล้วเจ้าควรจะขอบคุณข้ามากกว่าการกล่าวโทษไม่ใช่รึ”
อีฟกำหมัด
“หากนั่นคือการช่วย เช่นนั้นต่อจากนี้ไปเจ้าไม่ต้องมาช่วยเหลือข้าอีก ข้าไม่ได้ต้องการอะไรที่มันพัฒนาไปเร็วเกินไป ให้ตายสิข้ารู้สึกเหมือนกับว่านี่มันคือเหตุการณ์ เดจาวู เหมือนกับว่าครั้งหนึ่งข้าก็เคยพูดเรื่องเช่นนี้ไปกับเจ้า!!”
ผึ้งน้อยหัวเราะร่า
“ไม่เหมือนสักหน่อยเพราะว่าบุรุษที่เจ้าตักเตือนข้าไม่ให้ยุ่งกับเขาคือคนละคนกัน เอาน่าอีฟ ไหนๆ เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้วและเจ้าเองก็ยินยอมที่จะทำความรู้จักกับเขา..การที่เรื่องราวมันเดินทางมาได้ราบรื่นเช่นนี้ก็เพราะข้า อ่า..เขากลับมาแล้วล่ะ”
ผึ้งน้อยบินขึ้นเล็กน้อยก่อนจะบินวนรอบๆ ร่างกายของอีฟ
“ขอให้เจ้ามีความสุขในคืนนี้นะ..”
เพราะพรุ่งนี้เจ้าจะต้องรับศึกหนักเลยล่ะอีฟที่รัก
เมื่อผึ้งตนนั้นกล่าวจบประตูห้องก็เปิดออกในทันที พร้อมกับใบหน้าของกาวินที่ชุ่มเหงื่อเล็กน้อย
“ปลอดภัยแล้วทั้งอาเวียและเบน ทั้งสองคนอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว และอาเวียนัดเจอเจ้าในวันพรุ่งนี้ที่ทางแยกเข้าหมู่บ้าน”
อีฟถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“ข้าไม่รู้ว่าพวกแกะมาที่นี่ได้อย่างไรกันและพวกเขาทำท่าทางราวกับจะหาเรื่องทุกคนที่เดินผ่าน นั่นมันแย่มากเลยให้ตายสิ”
กาวินบ่นออกมาก่อนที่เขาจะปิดประตูห้องนี้แล้วเดินเข้าไปนั่งลงตรงข้ามกับอีฟ
“นั่นคือเรื่องที่ข้าเห็นอยู่บ่อยๆ ยิ่งในหมู่บ้านบอนด์วิน สตรีที่นั่นไม่อาจขัดใจพวกเขาได้..แกะมิใช่เผ่าพันธ์ุที่อ่อนโยนและเป็นมิตรดังเช่นที่ข้าเคยได้ยินมา พวกเขาดุร้ายและ..เอาเจ้าอารมณ์มากทีเดียว”
กาวินพูดไม่ออก เมื่ออีฟกำลังเล่าให้เขาฟังถึงเรื่องดินแดนแสนสุขในแบบที่เขาเคยได้ยินมา พวกแกะรุกรานสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เผ่าพันธ์ุอื่นๆ จนหมด และครอบครองสตรีในหมู่บ้านเพียงผู้เดียว แถมยังบังคับและข่มเหงพวกนางอีกด้วย
“ข้า..ข้าสามารถทำอะไรได้ไหม เพื่อไม่ให้เจ้าถูกรังแกไปมากกว่านี้”
เขาเอื้อมมือไปจับเข้าที่แก้มของเธอ พร้อมกับมองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง นั่นทำให้หัวใจของอีฟแทบหยุดเต้นเลย..เธอกำลังตกหลุมรักบุรุษเบื้องหน้าเป็นครั้งที่สองในรอบวัน
ผู้ชายไทป์หมาโกเด้นมันดีต่อใจจังโว้ย!! แม่คะหนูยอมแล้ว!! หนูชอบพี่เค้าจริงๆ
“ข้าไม่เคยถูกรังแกค่ะ และ..ข้าไม่อยากจะถูกรังแกด้วย แต่การจะต่อสู้กับพวกแกะนั้นใช้กำลังอย่างเดียวไม่ได้ พวกเขามีทุกอย่างทั้งเงินทอง อำนาจ กำลังทหารและสติปัญญา..มันเป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะพวกเขา”
เธอกล่าวก่อนจะเอียงหน้าเพื่อซบลงบนฝ่ามือของกาวิน
“มันจะต้องมีทางอย่างแน่นอน ข้าจะลองหาทางดูครับ..อย่างน้อยก็เพื่อช่วยเจ้าออกมาจากที่นั่นก็ยังดี”
แก้มของเธอเปลี่ยนเป็นสีเข้มจัด
“ที่ช่วยเพราะเห็นแก่ความเป็นมนุษย์ของเรา หรือว่าที่ช่วยเพราะเห็นใจข้ากันคะ”
เธอเอ่ยถามพร้อมกับส่งสายตาหวานล้ำไปให้เขา แล้วใครจะรอดสายตาแบบนั้นของอีฟกันนะ เธอออดอ้อนเขาเช่นนั้น..เขายินดีที่จะถวายชีวิตที่เหลืออยู่ให้เธอยังได้เลย
“ที่ช่วยเพราะหวังว่าข้าอาจจะได้ครอบครองเจ้า เผื่อในวันข้างหน้าเจ้าจะชายตามองคนไร้ค่าเช่นข้าบ้าง..สักนิดก็ยังดี”
