6.ติดค้างอยู่ในใจ
“ยินดีต้อนรับกลับมาครับท่านดยุค..”
ชนเผ่าป่าเถื่อนที่ใครๆต่างเรียกขาน ในวันนี้ชนเผ่ามารุคานั้นสามารถสถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นราชอาณาจักรได้ และเขาที่ทำงานเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมากเพื่อราชอาณาจักรก็ได้เลื่อนยศขึ้นมาเป็นท่านดยุค
“ไม่ต้องมาพิธี ข้าจะไปเข้าพบฝ่าบาทก่อน”
“ฝ่าบาททรงปิดพระราชวังครับ ก็อย่างที่รู้ว่าราชินีของเรานั้นทรงเก่งกาจในเรื่องของการสร้างเรื่องมากแค่ไหน ฝ่าบาทก็เลยมีรับสั่งให้ปิดพระราชวังเพื่ออบรมองค์ราชินี..”
อมรมอย่างนั้นหรือ? แต่องค์ราชาที่เขารู้จักนั้นไม่น่าจะอบรมอย่างที่ทรงประกาศออกมาหรอก แต่เป็นการสั่งสอนเสียมากกว่า
“เรื่องของราชอาณาจักรเป็นอย่างไรบ้าง ข้าไม่ได้อยู่ที่นี่นานเลย เพราะอย่างนั้นข้าจึงอยากได้รับรายงานทั้งหมดในเก้าปีที่ข้าไม่ได้อยู่ที่นี่..”
พ่อบ้านก้มหน้าลงเล็กน้อย ใบหน้าของชายวัยกลางคนแย้มยิ้มออกมาด้วยความยินดี ในชีวิตของเขานั้น มีความสุขที่สุดในตอนที่ชนเผ่าของเราได้สถาปนาขึ้นเป็นราชอาณาจักรและมีความสุขมากอีกครั้งในตอนที่เห็นท่านดยุคกลับมายังสถานที่ที่ควรอยู่
“เรื่องนั้นกระผมจัดเตรียมเอาไว้ให้นายท่านแล้วล่ะครับ นายท่านกลับมาเหนื่อยๆ ไม่คิดไปพักก่อนอย่างนั้นหรือ?”
เขานอนไม่หลับมาหลายวันแล้ว มีเรื่องราวมากมายที่ติดค้างอยู่ในใจและหน้าที่ของเขามันคือการทำเหมือนว่าเรื่องราวมากมายเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เขาถูกฝึกให้เป็นสายลับตั้งแต่เด็ก เพราะอย่างนั้นข้อห้ามแรกของสายลับคือห้ามมีความรู้สึกใดๆ ต่อเป้าหมาย
แต่สิ่งที่ยังคงติดค้างอยู่ในใจมันคงเป็นเพราะระยะเวลาในการทำภารกิจเพื่อแฝงตัวอยู่ในจักรวรรดิ มันนานมากเกินไป เพราะอย่างนั้นเขาจึงยังปรับตัวไม่ได้ก็เท่านั้นเอง
ไม่มีเรื่องอะไรที่มันมากมายมากกว่านั้นอย่างแน่นอน และที่เขานอนไม่หลับก็คงเป็นเพราะเขายังปรับตัวไม่ได้ หรือไม่ก็แปลกที่
“ไม่เป็นไร ข้าจะไปที่ห้องทำงานเลยก็แล้วกัน”
คฤหาสน์ที่เขาเองก็พึ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันดูหรูหราในแบบที่แตกต่างจากบ้านเก่าของเขาอย่างสิ้นเชิง มีเพียงแค่พ่อบ้านและข้ารับใช้เท่านั้นที่ยังคงเป็นคนเดิม
เคเดน..เคซ นั่นคือชื่อของเขาจริงๆ
เอมิลอะไรนั่นเป็นเพียงตัวตนที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อล่อลวงเลดี้ชนชั้นสูงสักคนที่หลงใหลไปกับใบหน้าอันแสนหล่อเหลานี้..
แต่ว่าเรเนีย ที่เขาพบเจอในครั้งแรกก็สวยมากเสียจนเขาเองแทบเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่ การแสดงที่เหมือนจริง การหลอกลวงที่สมบูรณ์แบบมันคือการโกหกที่มีเรื่องจริงปะปนอยู่ด้วย เขาในบทบาทสามีผู้ขี้อายของเธอนั้นมันช่าง..เป็นการแสดงที่ไร้ที่ติจริงๆ
หากเลือกได้ หรือหากว่าไม่มีคำสั่งในการเรียกตัวของเขากลับมา แน่นอนว่าเคเดนคงเลือกที่จะอยู่ในตัวตนของเอมิลต่อไปเรื่อยๆ ..
แต่ทว่างานเลี้ยงย่อมมีช่วงเวลาที่ต้องเลิกรา ถึงแม้ว่าเขาจะพึงพอใจกับบทบาทนั้นมากแค่ไหน แต่ว่าเขาก็ต้องตัดใจแล้วกลับมาใช้ชีวิตที่แท้จริงของเขา
และคืนนี้คงเป็นอีกคืนที่เคเดนนอนไม่หลับ
.
.
.
รุ่งเช้ามีคำสั่งขององค์ราชาให้เขาเข้าเฝ้าตั้งแต่เช้า
“ไม่เจอกันนานมากเลยเคเดน ที่ผ่านมาเจ้าทำให้การสถาปนาราชอาณาจักรของเรามันง่ายดายยิ่งขึ้น เพราะเจ้า เราถึงได้ดึงเอาขุนนางของจักรวรรดิมาเป็นพวกด้วยตั้งหลายคน”
การจะจัดตั้งราชอาณาจักรนั้น จะต้องได้รับเสียงการลงคะแนนของขุนนางในจักรวรรดิและในดินแดนข้างเคียงอีกมากมาย และเผ่ามารุคาได้รับคะแนนเสียงอย่างท่วมท้น อีกทั้งยังได้รับความเห็นชอบจากวิหารศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย เรียกได้ว่าหนทางการสถาปนาของเผ่ามารุคาคงไม่ง่ายดายเช่นนี้หากว่าเคเดนไม่ไปปูทางเอาไว้ให้
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกพ่ะย่ะค่ะ ทรงกล่าวชมเกินไปแล้ว”
“ไม่ชมเกินไปหรอก เจ้าดูเหมาะสมกับตำแหน่งดยุคนะ แต่ไหนแต่ไรเราก็ต่อสู้เคียงข้างกันมาตลอด เจ้าเสียสละเพื่อข้าและเพื่อราชอาณาจักรของเรามากจริงๆ ข้าต้องของคุณเจ้าจริงๆ เคเดน”
คำกล่าวขอบคุณขององค์ราชานั้นมาจากเนื้อแท้ในหัวใจของพระองค์ พวกเรานับถือกันเป็นพี่น้อง ทั้งองค์ราชาและเคเดนนั้นไม่เคยทะเลาะกันมาก่อนเลย เราช่วยเหลือซึ่งกันและกันมาโดยตลอด
“นอกจากที่ข้าเรียกเจ้ามาขอบคุณแล้ว ข้ายังมีข่าวจะบอกกล่าวกับเจ้าอีกต่างหาก เดือนหน้าทางจักรวรรดิจะส่งคณะทูตมา นี่คือครั้งแรกหลังจากที่ข้าลักพาตัวมาเรน่ามาที่นี่เลย ที่ท่างนั้นส่งคนเพื่อต้องการที่จะเป็นมิตรกับเรามาที่นี่ เจ้าคิดเห็นเป็นอย่างไรเคเดน”
เคเดนครุ่นคิดเล็กน้อย หากว่าเราได้เป็นพันธมิตรกับจักรวรรดิ เขาเองก็มองไม่เห็นข้อเสียของเรื่องนี้เลย ดีเสียอีกที่จะได้ผูกมิตรกับทางนั้น
“ตามความเห็นของกระหม่อมแล้ว กระหม่อมคิดว่านั่นเป็นเรื่องที่ดียิ่งพ่ะย่ะค่ะ ทางจักรวรรดิมีกำลังทหารและทรัพยากรต่างๆ ดีมากกว่าเรา หากประชาชนของเราได้รับการศึกษาเทียบเท่ากับประชาชนของจักรวรรดิ กระหม่อมรับรองได้เลยว่าราชอาณาจักรของเราจะต้องยิ่งใหญ่มากขึ้นอย่างแน่นอน อีกทั้งเรื่องการแพทย์ของจักรวรรดินั้นก็ไปไกลมากเลย..”
เคเดนหยุดคำกล่าวของเขาเอาไว้ตรงนั้นเพราะขณะที่เขากำลังพูดถึงเรื่องของการแพทย์ ภาพรอยยิ้มของเรเนียก็ดันฉายชัดขึ้นมาในทันทีจนเขาต้องหยุดชะงัก
องค์ราชาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“เป็นอะไรไปอย่างนั้นหรือเคเดน?”
เคเดนหลุบตาลงเล็กน้อย
“ไม่มีอะไรพ่ะย่ะค่ะ คงเพราะช่วงนี้กระหม่อมนอนไม่ค่อยหลับ ก็เลยมีอาการวิงเวียนนิดหน่อย”
องค์ราชาทอดสายตามองเคเดนด้วยความเป็นห่วง
“เช่นนั้นก็เอาอย่างที่เจ้าว่า เราจะลองผูกมิตรกับจักรวรรดิดู ไหนๆ องค์ราชินีของเราก็คือชาวจักรวรรดิ..อันที่จริงเรายังมิได้จัดพิธีอภิเษกให้เป็นเรื่องเป็นราวเลย คงจะดีหากว่าทั้งสองแผ่นดินหลอมรวมเป็นหนึ่ง ข้าจะได้แต่งงานกับมาเรน่าได้อย่างไม่ติดใจอะไร และนางจะได้ยินยอมรับการแต่งงานของข้าด้วย”
นั่นเขากำลังฟังผิดอยู่รึเปล่านะ..นี่องค์ราชาและองค์ราชินียังไม่ได้แต่งงานกันงั้นเรอะ!! จริงอยู่ที่เขาได้ยินมาว่าองค์ราชาทรงตกหลุมรักองค์ราชินีตั้งแต่แรกเห็น จนพระองค์หมายมั่นว่าจะลักพาตัวองค์ราชินีมาที่นี่ แต่เรื่องราวมันผ่านมานานหลายปีแล้วองค์ราชินียังไม่เปิดใจให้องค์ราชาอีกอย่างนั้นหรือ..
“..เช่นนั้นเรื่องของคณะทูตที่กำลังจะเดินทางมา ข้าฝากให้เจ้าช่วยจัดการด้วยนะเคเดน”
องค์ราชาไม่รู้ว่าเขาแฝงตัวอยู่ในจักรวรรดิในฐานะอะไร ส่วนเขาเองก็ไม่เคยบอกใครเช่นเดียวกัน และจากการคาดเดาคนที่เดินทางมาคงเป็นขุนนางปลายแถวที่ไม่เคยเห็นหน้าของเขาอย่างแน่นอน..อีกทั้งภาพลักษณ์ของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาเลิกย้อมผมสีน้ำตาลแล้วกลับมาย้อมผมสีดำซึ่งเป็นสีผมที่แท้จริงของตัวเองแทน
ต่อให้พบเจอเขาอีกครั้ง ก็คงไม่มีใครจดจำใบหน้าของเขาได้หรอก..
