5.หลอกลวง
พื้นไม้ที่ใต้เคาเตอร์กำลังเลื่อนออกไปอย่างช้าๆ จากพื้นที่ถูกปูด้วยแผ่นไม้ ปรากฏเป็นห้องขนาดไม่ใหญ่มาก และมีบันไดเล็กๆ ทอดยาวไปด้านล่าง เรเนียยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาก่อนที่เธอจะวางทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในมือลง
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเดินลงไปบนในบันไดที่ทอดยาวไปยังชั้นใต้ดิน แน่นอนว่านี่มันน่ากลัวพิลึก เพราะรอบข้างมันมืดเสียจนเธอมองอะไรไม่เห็นเลย..แต่นี่มันช่างน่าประหลาดที่เธอไม่รู้สึกหวาดกลัวอะไรเลย
เรเนียเดินลงไปด้วยความรู้สึกที่ใคร่รู้ เธออยากจะรู้เหลือเกินว่าสามีที่แสนดีของเธอนั้นเก็บซ่อนสิ่งใดเอาไว้ภายใต้กรอบแว่นตาของเขากัน สามีที่แสนดีและอ่อนโยนของเธอ ทำไมถึงได้มีห้องลับซ่อนอยู่ภายใต้ร้านหนังสือของเรากันนะ
“.....”
และเมื่อเรเนียเดินมาจนสุดทางเดินเธอก็พบเจอกับห้องลับที่ถูกซ่อนเอาไว้ เธอเปิดไฟแล้วเดินเข้าไปในห้องนั้นด้วยริมฝีปากที่แสยะยิ้มออกมา..
ภายใต้ห้องลับของเอมิล คือแผนที่ขนาดใหญ่ของจักรวรรดิที่เขาวาดเอาไว้บนแผ่นผ้าที่ถูกขึงเอาไว้กับผนัง และที่มากกว่านั้นคือรูปวาดของขุนนางต่างๆ ที่มีบทบาทสำคัญในจักรวรรดิ พร้อมกับประวัติของพวกเขา
เรียวคิ้วงามขมวดมุ่น ปลายนิ้วของเรเนียแตะสัมผัสลงไปบนใบหน้าของตัวเองที่ถูกวาดเอาไว้บนกระดาษแผ่นนั้น
เรเนีย หมอหลวง
เขาทำเครื่องหมายเอาไว้ที่ด้านหลังชื่อของเธอและดูจากหมึกที่ค่อยๆ ซึมหายไปตามกาลเวลา เรเนียคิดว่าชื่อของเธอที่ถูกเขียนเอาไว้บนกระดาษแผ่นนี้มันคงจะถูกเขียนเอาไว้นานแล้ว
ข้างๆ กันนั้นมีกระดาษมากมายที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ มันมีรูปวาดและประวัติของขุนนางท่านอื่นๆ และนั่นมันทำให้น้ำตาที่เคยเอ่อล้นออกมาของเรเนียพลันแห้งเหือดไปในทันที
เธอใช้หลังมือเช็ดคราบน้ำตาอย่างลวกๆ ก่อนจะเริ่มมองดูสิ่งที่อดีตสามีของเธอเก็บซ่อนเอาไว้
ไม่ว่าจะมองไปทางไหน..นี่คือการทำงานของผู้ที่เรียกตัวเองว่าสายลับไม่ผิดแน่ เธอแต่งงานกับเอมิลโดยที่ไม่มีญาติหรือว่าเพื่อนสนิทของเขามาร่วมงานแม้แต่คนเดียว และตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันเอมิลไม่เคยมีเพื่อนมาก่อน จริงอยู่ที่นั่นมันแปลกแต่เพราะเธอคิดว่าเขาเป็นคนพูดน้อย ด้วยเหตุนั้นจึงคงไม่ผิดอะไรหากเอมิลจะไม่มีเพื่อนเพราะเขาค่อนข้างขี้อาย
“เหอะ..นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย!!”
เธอวางทุกอย่างกลับที่เดิมก่อนจะเดินไปอีกมุมหนึ่งของห้อง สิ่งที่เรเนียเห็นมันคือภาพวาดของเขา พร้อมกับชื่อของเอมิลที่ถูกเขียนเอาไว้
เอมิล ขี้อาย พูดน้อย ทำงานบ้านและทำกับข้าวเก่ง ไม่มีเพื่อน
ใบหน้าของเรเนียชาหนึบไปหมด เพราะมันดูเหมือนว่าแม้แต่ชื่อเอมิล อาจจะเป็นชื่อปลอม เช่นนั้นแล้วความสัมพันธ์ที่ผ่านมาของเรามันจะเป็นความจริงได้ยังไงกัน..
เธออยากจะกรีดร้องออกมาให้สุดเสียง แต่เรเนียก็เลือกจะเก็บกลั้นเสียงร้องของตัวเองเอาไว้ เธอขบกัดริมฝีปากแน่นพร้อมกับใช้ปลายนิ้วลูบไล้ลงไปบนใบหน้าของเขา
“ที่ผ่านมา..คุณช่างแสดงละครเก่งเหลือเกินนะคะที่รัก คุณทำให้ฉันเชื่อจนหมดหัวใจว่าคุณรักฉันจริงๆ”
ไม่ว่าภายใต้ชื่อของเอมิลนั้นจะเป็นใครก็ตามที เรเนียสาบานเอาไว้ในใจเลยว่าเธอจะต้อง..ลากคอของเขามาลงนรกให้ได้
จริงอยู่ที่เธอคือหมอหลวงที่เก่งที่สุด เธอรักษาและช่วยชีวิตของผู้อื่นมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ทว่าในขณะที่วิชาแพทย์ของเรเนียเป็นที่เลื่องลือ..สิ่งหนึ่งที่เธอไม่เคยบอกใครก็คือเธอได้ศึกษาเรื่องพิษมาจนเชี่ยวชาญแล้วเหมือนกัน
และเอมิลสุดที่รักของเธอ จะได้รับเกียรติเป็นคนแรกที่เธอจะใช้วิชาที่ไม่เคยใช้ที่ไหนมาก่อนกับเขาเอง..ในเมื่อเขากล้าที่จะเสแสร้งแกล้งทำเป็นเหมือนว่าเขารักเธอ เช่นนั้นเธอก็จะจับเขากลับมา กักขังล่ามโซ่ที่ข้อเท้าของเขาเอาไว้ ป้อนพิษล้างสมองให้เขากลืนกินทุกคืนวันจนในชีวิตของเขานั้น จดจำใครไม่ได้นอกจากเธอ!!
.........................
“เรื่องของชายหนุ่มที่มีชื่อว่าเอมิลนั้น สายของฉันรายงานมาว่าเขาออกไปจากเมืองตั้งแต่เช้าวันที่ข่าวลือเรื่องการหย่าของท่านเรเนียถูกประกาศออกมาเลยค่ะ และฉันได้ลองสืบเรื่องของครอบครัวเขาเพิ่มเติมแต่กลับไม่พบญาติหรือว่าพ่อแม่ของเขาเลยแม้แต่คนเดียว..ข้อมูลของเขามันว่างเปล่าไปหมด ราวกับว่าอยู่ๆ ชื่อของเอมิลก็ผุดขึ้นมายังไงอย่างนั้น”
เรเนียกำลังตรวจดูอาการของหญิงชราที่กำลังนอนป่วยอยู่บนเตียง
“ดูเหมือนว่าชื่อที่ฉันให้ไป จะเป็นชื่อปลอมล่ะ..”
เพนนียกมือขึ้นมาปิดปากด้วยความตกใจ
“หมายความว่าสามีของท่านเรเนีย ใช้ตัวตนปลอมๆ ในการแต่งงานกับท่านอย่างนั้นหรือคะ นี่เขาโกหกมาอย่างยาวนานถึงแปดปี?”
“หากจะเรียกให้ถูก ต้องบอกว่าเขาโกหกมานานถึงเก้าปีต่างหาก เพราะกว่าที่ฉันจะได้แต่งงานกับเขา ก็ใช้เวลาปีกว่าๆ เลย”
นี่คือครั้งแรกที่เพนนีรู้สึกเห็นใจลูกค้าในกิลล์ข้อมูลของเธออย่างแท้จริง คนเราถูกหลอกก็ว่าแย่แล้ว แต่นี่ท่านเรเนียถูกหลอกยาวนานเกือบสิบปี แถมคนที่หลอกยังเป็นสามีของท่านอีกต่างหาก..เพนนีคิดไม่ออกเลยว่าหากเป็นเธอ เธอจะยังตั้งสติใช้ชีวิตแบบที่ท่านเรเนียกำลังใช้อยู่ได้ไหม
“สายของฉันยังรายงานมาอีกว่า เส้นทางที่ชายหนุ่มที่ชื่อเอมิลมุ่งหน้าไป คือราชอาณาจักรมารุคาค่ะ..สายของฉันตามสืบต่อไม่ได้เพราะหากเข้าเขตชายแดนนั้นไป..จะอันตรายมากทีเดียว”
มือที่กำลังเขียนรายชื่อยาบนกระดาษของเรเนียพลันชะงักในทันที
“...มารุคา?”
เพนนีพยักหน้า
“ราชอาณาจักรมารุคาขึ้นชื่อเรื่องความป่าเถื่อน ที่นั่นไม่มีทั้งนักท่องเที่ยวหรือว่านักเดินทางที่เดินทางเข้าไปหรอกค่ะ คนที่จะเข้าไปที่นั่นได้ต้องรับอนุญาตจากทางการเท่านั้น สายของกิลล์ที่ติดตามชายผู้นั้นไป..บอกว่าเพียงแค่ผู้คุมประตูเห็นหน้าของชายผู้นั้น ก็ให้เขาผ่านเข้าประตูไปได้ง่ายๆ เรื่องนี้เดาเป็นอย่างอื่นไม่ได้แล้วล่ะคะ นอกจากว่าอดีตสามีของท่านเรเนียจะเป็นคนของราชอาณาจักร..”
เรเนียค่อยๆ นำทุกสิ่งทุกอย่างมาปะติดปะต่อกัน สิ่งที่เพนนีพูดออกมามันยิ่งทำให้สิ่งที่เธอกำลังสงสัยชัดเจนมากยิ่งขึ้น..
เอมิลคือสายลับที่ทางราชอาณาจักรส่งมา และเขาแต่งงานกับเธอก็เพื่อทำให้ตัวเองรอดพ้นจากการถูกตรวจสอบ อีกทั้งเพราะว่าเธอคือหมอหลวง ด้วยฐานะสามีของเธอ เขาสามารถเข้านอกออกในพระราชวังได้อย่างสะดวกสบาย โดยให้เหตุผลว่าเขามารับภรรยา
และการที่เขาหย่าร้างกับเธอมันก็หมายความว่าภารกิจของเขา มันเสร็จสิ้นลงแล้ว
อา..ยิ่งรู้เรื่องมากเท่าไหร่ หัวใจของเธอก็เจ็บปวดจนมันด้านชาไปหมด
