บท
ตั้งค่า

4.ทรมาน

“..ปกติแล้วทางกิลล์ข้อมูลของเราไม่ได้รับตามหาคนให้นะคะ แต่ว่า..เพราะท่านคือหมอหลวงเรเนีย ด้วยเหตุนั้นฉันจึงมีข้อเสนอที่ดีกว่าให้ท่าน ท่านหมอหลวงอยากฟังไหมคะ”

เรเนียยกมือขึ้นมาเท้าคางเพื่อมองหน้าของสตรีแสนน่ารักผู้เป็นเจ้าของกิลล์ข้อมูล

“ช่างน่าดีใจยิ่งนักที่ฐานะของฉันมันทำให้อะไรๆง่ายขึ้น ว่ามาสิเจ้าของกิลล์คนสวย ว่าข้อแลกเปลี่ยนของคุณมันคืออะไร และมันน่าสนใจมากแค่ไหน”

“ท่านสามารถเรียกฉันว่าเพนนีได้เลยนะคะ ข้อแลกเปลี่ยนเดียวที่ฉันจะร้องขอต่อท่านคือฉันอยากให้ท่านรักษาอาการป่วยของผู้มีพระคุณของฉัน..ส่วนเรื่องการสืบหรือว่าการตามหาอดีตสามีของคุณ ฉันจะทำในทันทีที่คุณยินยอมตอบตกลง”

หากข้อแลกเปลี่ยนที่สตรีเบื้องหน้ากล่าวออกมามันมีแค่นั้น เธอก็ยินดีที่จะตอบรับข้อตกลงนั้น

“เรื่องการรักษา ฉันยินดีช่วยเหลือ แต่เรื่องที่ว่าอีกฝ่ายจะหายดีหรือว่าจะอาการดีขึ้นเรื่องนั้นฉันไม่รับประกันหรอกนะ เพราะว่าฉันไม่รู้อาการป่วยที่แน่ชัดของคนไข้”

เพนนียกยิ้มให้กับท่านหมอหลวงเรเนีย ด้วยรอยยิ้มที่แสนยินดี ความสามารถของท่านหมอหญิงผู้นี้เป็นที่เลื่องลือมากๆ อยู่แล้ว เพราะอย่างนั้นแต่สตรีผู้นี้รับปากว่าจะช่วยเธอก็รู้สึกดีใจมากๆ แล้ว

“เรื่องนั้นไม่เป็นไรค่ะ แค่ท่านรับปากเพียงเท่านั้นก็พอแล้ว ฉันจะจัดการเรื่องการสืบร่องรอยของชายหนุ่มที่ชื่อว่าเอมิลในทันที หากได้เรื่องยังไงฉันจะติดต่อไปนะคะ”

เรเนียพยักหน้า

“วันพรุ่งนี้ฉันว่าง ส่งที่อยู่ของคนที่คุณต้องการให้ฉันรักษามาก็แล้วกัน”

เพนนีก้มหน้าลงอีกครั้งหนึ่งเพื่อเป็นการขอบคุณสตรีเบื้องหน้า นี่มันราวกับว่าเธอต่างหากที่ต้องพึ่งพาท่านหมอหลวง

“ขอบคุณอีกครั้งนะคะท่านหมอหลวงเรเนีย ฉันจะส่งข่าวดีให้ท่านอย่างแน่นอน”

หลังจากที่เดินทางออกจากกิลล์ข้อมูล เรเนียก็มุ่งหน้าไปยังพระราชวังในทันที เธอตั้งใจเอาไว้แล้วว่าวันนี้จะลาออก ต่อให้อีกฝ่ายเป็นจักรพรรดินีก็ตาม เธอจะไม่สนใจฟังเสียงของท่านในการรั้งตัวเธอเอาไว้อีกแน่ๆ

“สวัสดีเรเนีย..ให้ตายสิแค่เห็นใบหน้าของเจ้า ข้าก็พอจะเดาได้แล้วว่าเจ้าจะกล่าวคำใดออกมา”

เรเนียย่อตัวลงเพื่อทำความเคารพองค์จักรพรรดินีอย่างที่ควรจะเป็น

“หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ฝ่าบาทก็คงทรงทราบดีว่าในยามนี้หม่อมฉันกำลังรู้สึกเช่นไร”

จักรพรรดินียื่นมือไปหาเรเนียก่อนจะดึงให้เธอนั่งลงบนโซฟาตัวยาวเคียงข้างพระองค์..มิใช่ว่าพระองค์จะทรงแสดงความเมตตาอันมากล้นเช่นนี้กับสตรีอื่นบ่อยมากนัก แต่เพราะว่าอีกฝ่ายคือเรเนียที่ทรงมองเห็นตั้งแต่เล็ก อีกทั้งพรสวรรค์ของเด็กคนนี้ก็มากมายอย่างน่าเหลือเชื่อ

มันช่างน่าเศร้ามากเหลือเกินหากว่าพระองค์จะต้องสูญเสียหมอหลวงที่มีความสามารถเช่นนี้ไป

“เรเนีย เจ้ารู้ดีว่าเราโปรดปรานเจ้ามาแค่ไหน..เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ อีกไม่กี่วันทางพระราชวังจะส่งคณะทูตไปที่ราชอาณาจักรมารุคาเพื่อเยี่ยมเยียนและส่งสิ่งของไปให้มาเรน่า..เจ้าก็ถือซะว่าตัวเองไปเที่ยวเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศให้ตัวเอง การอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ นั้นมีแต่จะทำให้เจ้าจมอยู่กับอดีต มิสู้เดินทางไปท่องเที่ยวชมทิวทัศน์อันสวยงามและกว้างใหญ่ของป่าเขา..เจ้าไปเที่ยวให้สบายใจแล้วค่อยกลับมาบอกข้าอีกครั้งถึงเรื่องการทำงานในการเป็นหมอหลวงของเจ้า..ข้าไม่อยากให้เจ้าเสียใจเพราะการตัดสินใจเพียงชั่ววูบของตัวเอง”

ความหวังดีขององค์จักรพรรดินีทำให้เรเนียรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก แต่ทว่าสิ่งที่เธอต้องการและอยากได้คือการตามหาสาเหตุการหย่าของเอมิล..และเธออยากให้กับตาว่าเขาใช้ชีวิตอย่างไรในตอนที่ไม่มีเธอ เขามีความสุขดีกว่าเดิมรึเปล่าหรือว่าเขากำลังทรมานอยู่เหมือนกับเธอในตอนนี้!

“เรื่องนั้น..”

“ยังมิต้องให้คำตอบข้าหรอก ทั้งเรื่องการเดินทางและเรื่องงานของเจ้า กลับไปคิดให้ดีแล้วค่อยมาตอบข้า ช่วงนี้เจ้าก็พักการทำงานไปก่อนเถิด..ข้าเข้าใจดีว่าในยามนี้เจ้ากำลังจมอยู่กับความเสียใจ”

เรเนียส่งยิ้มที่แสนจะฝืดเฝื่อนให้แก่จักรพรรดินี

“ขอบพระทัยเพคะ”

เธอคิดว่าข่าวเรื่องการหย่าของเธอกับเอมิล คงจะถูกประกาศออกมาแล้วเป็นแน่ เรื่องคำพูดของผู้อื่นเรเนียไม่สนใจหรอก ใครจะว่าเธออย่างไรเธอไม่เคยนึกสนใจอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นเธอจะใส่กางเกงมาทำงานแทนการสวมใส่กระโปรงเหมือนกับสตรีคนอื่นอย่างนั้นหรือ

เรเนียกลับมาที่บ้านหลังน้อยของตัวเอง เธอดีใจที่ท่านพ่อและบรรดาท่านพี่พวกนั้นไม่ได้มาหาเพื่อทับถมเธอในเรื่องที่เธอเลิกลากับเอมิล ดีใจที่อยากน้อยพวกเขาก็ไม่ได้มาซ้ำเติมน่ะนะ

เธอถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นกุญแจร้านขายหนังสือของเอมิล

เราพบกันครั้งแรกในตอนที่เธอเข้าไปในตลาดเพื่อซื้อหนังสือสักเล่ม จะเรียกว่านั่นคือรักแรกพบก็ไม่ผิด..เพราะครั้งแรกที่เธอเห็นเอมิล หัวใจของเธอก็เต้นไม่เป็นจังหวะเลย เธอตกหลุมรักเขาและพยายามไปที่ร้านหนังสือให้บ่อยมากยิ่งขึ้นเพื่อไปเห็นหน้าเขา

เรเนียหยิบกุญแจร้านหนังสือมาถือเอาไว้ ก่อนที่เธอจะเดินออกจากบ้านเพื่อมุ่งหน้าไปยังร้านขายหนังสือของเอมิลที่ปิดมาสองวันแล้ว

เธอเปิดประตูเข้าไปก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ ร้าน ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่มีผิด ที่เคาน์เตอร์ด้านหน้าร้าน..ปกติแล้วจะมีเอมิลยืนส่งยิ้มอยู่ตรงไหน มีแค่ตรงนี้เท่านั้นที่ไม่เหมือนเดิมเพราะว่าเอมิลไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้ว

เรเนียเดินเข้าไปในเคาน์เตอร์ ปลายนิ้วของเธอลูบไล้ลงไปบนพื้นไม้นั้นอย่างอาลัยอาวรณ์

เธอนั่งลงในเก้าอี้ที่เขามักจะนั่งในตอนที่ทำบัญชีหรือว่าบันทึกรายรับรายจ่ายต่างๆ เธอเปิดดูสมุดบันทึกของเขา..ตัวหนังสือที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบทำให้ขอบตาของเรเนียร้อนผ่าวอีกครั้ง

คิดถึงมากเหลือเกินให้ตายสิ เอมิล..ฉันคิดถึงคุณมากเหลือเกิน! ทั้งคิดถึงแล้วอยากจะตบหน้าคุณสักฉาดเพื่อให้สาสมกับความโกรธเคืองที่อัดแน่นอยู่ในใจ อยากจะใช้มีดกรีดลงไปในหัวใจของคุณ..อยากจะรู้ให้แน่ชัดว่าในนั้นมันมีฉันอยู่ในนั้นบ้างรึเปล่า

เรเนียไม่ชอบที่ตัวเองจมอยู่กับความรู้สึกมากมายเพียงลำพัง เธออยากให้ความสับสนที่เอ่อท้นออกมาในใจมันส่งไปถึงเขาบ้างสักนิดก็ยังดี ช่วยมาแบ่งปันความเจ็บปวดของเธอไปบ้างสิ ในเมื่อเขาสร้างมันขึ้นมานี่ ช่วยมารับผิดชอบความรู้สึกของเธอไปบ้างสิโว้ย!!

เรเนียเขวี้ยงสมุดบันทึกเล่มนั้นในมือลงบนพื้นด้วยความโกรธเคือง เธอหยิบจับทุกสิ่งอย่างที่อยู่เบื้องหน้าเพื่อตั้งใจจะทำลายให้หมดสิ้น

“แกร๊ก..”

ทว่าในระหว่างที่เรเนียกำลังบ้าคลั่งในการขว้างปาสิ่งของอยู่นั้น จู่ๆหนังสือในมือของเธอก็หล่นไปถูกอะไรสักอย่าง และในยามนี้กำลังปรากฏห้องลับขึ้นมาที่ด้านล่างของเคาน์เตอร์

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel