ตอนที่5 ตาย
“ลงไป” เธอเดินตามเขาขึ้นมาและออกจากตัวบ้านมาหยุดข้างสระน้ำ ก่อนจะตามด้วยคำสั่งของเขา
“.....” ใบหน้าสวยเศร้าเงยขึ้นไปสบตากับเขาอีกครั้งด้วยหัวใจเต้นระรัว
“.....” เขามองเธอกลับโดยไม่คิดจะพูดซ้ำ
ไม่ทำตามเขาไม่ว่า เขามีวิธีการมากมายจะจัดการกับเธอและลูกของเธอ
“.....” ข้าวหอมเม้มปากแน่น ยอมลงไปอย่างรู้ดีว่าเขากำลังหาเรื่องทรมานเธอ
สระน้ำลึกถึงหนึ่งจุดหกเมตร แน่นอนว่ามันทำให้น้ำท่วมถึงจมูกของเธอที่สูงเพียงหนึ่งร้อยหกสิบสองเซนติเมตร
ข้าวหอมพยายามเขย่งเท้าและเงยหน้าให้จมูกโผล่พ้นน้ำ หาทางรอดให้ตัวเองที่พอจะว่ายน้ำเป็นแต่ไม่เก่ง
“ไปยืนกลางสระ จนกว่าฉันจะสั่งให้ขึ้นมา” เขาสั่งเสียงเรียบ ก่อนจะหมุนกายแกร่งเดินกลับเข้าไปในตัวบ้านอย่างไม่เหลียวกลับมามอง
ไม่คิดกลัวเธอเล่นตุกติก เพราะคนของเขามี กล้องวงจรปิดมี
ข้าวหอมพาตัวเองขยับไปกลางสระด้วยหัวใจหวาดหวั่น น้ำเผลอเข้าปากและจมูกตอนเคลื่อนไหวอย่างยากลำบาก
ลำคอที่ถูกน้ำมันยังแสบอยู่เรื่อยๆ จนแทบจะชาไปแล้ว
เธอยืนอยู่ตามความต้องการของเขา สายตาพยายามกวาดมองไปรอบๆ ที่มีเพียงแสงไฟจากหลอดตามเสาไม่กี่ดวงให้ความสว่างยามค่ำคืน
ความเงียบสงัดและไร้ผู้คนทำให้เธอเดาไม่ได้เลยว่าเขาจะให้เธอยืนอยู่ตรงนี้อีกนานแค่ไหน แล้วเธอจะทนได้มากเท่าไหร่
สองชั่วโมงผ่านไป ปลายเท้าที่เขย่งนานในน้ำเกิดอาการเหน็บกิน เธอกลัวว่าอีกไม่นานตะคริวจะกินซ้ำ ความหนาวเหน็บยามค่ำคืนและอยู่ในน้ำนานเป็นชั่วโมงทำให้เธอเริ่มหนาว แต่เพราะยังอยู่ในน้ำเลยยังทนได้ แม้ผิวจะเปื่อยย่นไปแล้วก็ตาม
ส่วนด้านคุณาภัทรตั้งแต่กลับเข้ามาในบ้าน เขาก็นั่งดื่มคนเดียวด้วยความคิดถึงและโหยหาหญิงคนรักที่จากไป
มันเป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่เธอจากไป ทุกค่ำคืนที่เขากลับมาสู่บ้านหลังนี้หลังเสร็จสิ้นงานศพของเธอ เขาก็ทำได้เพียงปลดปล่อยตัวเองด้วยแอลกอฮอล์ ไม่สามารถข่มตาหลับลง น้ำตายังคงเอ่อคลออยู่เสมอ
และมันก็ไหลออกมาทุกครั้งเมื่อเขาอยู่ในห้องส่วนตัวที่เคยหลับนอนร่วมกับเธอแทบทุกคืน บางเวลายังอยู่ในภวังค์คิดว่าเธอยังอยู่ข้างกาย
แต่พอสติกลับมา ทุกอย่างก็ว่างเปล่า
“เหมือนเธอจะทนไม่ไหวแล้วครับ” ภามเดินเข้ามาบอกผู้เป็นนายถึงอาการของข้าวหอมที่เขาแอบเฝ้าดูอยู่
“เด็กนั่นตายหรือยัง” คุณาภัทรไม่ได้สนใจเรื่องของผู้หญิงคนนั้น ถามถึงเด็กอีกคนขึ้นแทน
“หลับไปแล้วครับ” จะตายได้ยังไง ถึงเจ้านายเขาจะเกลียดแม่ของเด็กแค่ไหน แต่ใครจะทำเด็กตาดำๆ ได้ลงคอ
แม้คุณาภัทรจะเผลอลงมือตีไปหนึ่งทีจนเด็กนั่นร้องไห้ลั่น แต่เขาก็ทำแค่นั้น นมที่ว่าให้อดจริงๆ ก็ให้คนออกไปหาซื้อมาไว้ให้กิน ห้องที่ว่าขังไว้ก็คือห้องนอนรับแขกที่มีทุกอย่างครบ ซ้ำยังให้แม่บ้านคอยดูตลอดเวลา
เขาแค่ปั่นหัวแม่อย่างเธอเล่น ทำให้เธอหวาดกลัว ทำให้เธอเห็นว่าเขาไม่ได้ปราณีหรือเห็นใจเด็กที่ไหนเลย ต่อให้มันจะร้องไห้ปางตายหรือขาดอากาศ เขาก็ไม่แยแส
“นายไปพักไป” ไล่ลูกน้องขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ
“แล้วผู้หญิงคนนั้น”
“ทนไม่ไหวก็ตายไป” ทนได้ก็อยู่ ทนไม่ได้ก็ตาย ถึงจะน่าเสียดายแต่ถ้าจะตายก็ปล่อยไปเขาไม่สน
“ครับ” ตอบรับแล้วล่าถอยออกมาอย่างไม่คิดรบกวนเวลาเจ้านายไปมากกว่านี้ รู้ดีว่าเจ้านายยังต้องการเวลาส่วนตัวสำหรับไว้อาลัยให้แก่อดีตว่าที่นายหญิงที่รักมาตลอด
แม้แต่ลูกน้องที่รับรู้และพบเห็นถึงความรักความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ยังเจ็บปวดแทนไม่น้อย
นับประสาอะไรกับเจ้าตัวอย่างผู้เป็นนาย
คุณาภัทรถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกจุกแน่นกลางอก ไม่ว่าจะผ่านไปร่วมสามอาทิตย์แล้วแต่ก็ยังทำใจยอมรับไม่ได้ มันเหมือนพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ยังคงหดหู่และหวาดกลัวเหมือนตอนวินาทีที่เขาได้รับข่าว
“คุณของขวัญ เธอเสียแล้วครับ”
“พี่คิดถึงเธอเหลือเกินขวัญ” เสียงของชายหนุ่มสั่นขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ ยิ่งดึกก็ยิ่งเหงา
จากที่เคยมีให้นอนกอดก็ไร้เงา จากที่เคยได้ยินเสียงตลอดก็เงียบเหงา ทุกตารางพื้นที่ในบ้านนี้มีร่องรอยของเธออยู่เสมอ
โดยเฉพาะหัวใจและความรู้สึกของเขา
“กลับมาหาพี่ได้ไหม อึก!” หน้าหล่อฟุบลงกับบาร์สูงตรงหน้าสะอึกอยู่ในลำคอ พยายามอย่างมากไม่ปล่อยน้ำตาออกมาอย่างคนอ่อนแอพ่ายแพ้
แต่ยากเหลือเกินที่จะหักห้ามมันไว้
ใครต่างก็ว่าเขาเด็ดขาด เลือดเย็น ดุดัน
แต่คนใกล้ตัวต่างก็รู้เช่นกันว่ากับของขวัญ เขาอ่อนโยน อบอุ่น และโอนอ่อนกับเธอเสมอ
ทุกอย่างเพราะรัก รักเธอว่าที่นายหญิงของเขา
แม้จะคบกันได้สองปีกว่า แต่รู้จักใกล้ชิดกันมานานนับสิบปี ความผูกพันหวงแหนมันมากจนเป็นส่วนหนึ่งของจิตใจ จึงรับไม่ไหวกับการจากไปกะทันหัน
“ทั้งหมดมันพังเพราะเธอคนเดียว!” จากความเจ็บปวดที่สูญเสียถูกแทนที่ด้วยความโกรธแค้นเพราะตัวการที่อยู่ใกล้มือ
ร่างสูงลุกจากบาร์ก้าวยาวๆ ออกจากตัวบ้านตรงไปยังสระว่ายน้ำด้านข้างแทบจะทันที ไปเพื่อทำให้คนผิดมันเจ็บปวดหรืออย่างน้อยก็ต้องเจ็บตัว
แต่...
