เชลยรัก

91.0K · จบแล้ว
Dark Memories
48
บท
7.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

รสชาติความแค้นมักขมขื่น ต้องล้างปากด้วยความหวานจากการแก้แค้น แค้นคือความเจ็บปวด และการแก้แค้นคือการปลดปล่อย ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต

ประธานดราม่าแก้แค้นเศรษฐีผู้ชายอบอุ่นตั้งครรภ์ผู้สืบทอดผู้ใช้ความรุนแรงแบดบอยเผด็จการรัก

ตอนที่1 ผู้กระทำผิด

ความผิดพลาดในชีวิตที่คิดว่าซ่อนไว้อย่างมิดชิด

แต่สุดท้ายก็มักถูกใครสักคนขุดมันขึ้นมาประจานย้ำใจ

“เราตรวจสอบพบว่าเธอยักยอกข้อมูลบริษัทเอาไปให้คู่แข่ง” น้ำเสียงเรียบนิ่งของผู้จัดการระดับสูงเอ่ยขึ้น โยนหลักฐานในมือไปตรงหน้าหญิงสาวผู้กระทำผิด

“ฉันไม่เคยทำแบบนั้นเลยนะคะ” คำปฏิเสธของพนักงานที่ทำงานด้วยความสุจริตดังขึ้นอย่างไม่รับคำกล่าวหาใดๆ

แต่นั่นเพราะเธอไม่ได้ทำ ไม่เคยทำ และไม่คิดจะทำ

“นี่คืองานส่วนที่เธอรับผิดชอบ เป็นข้อมูลที่ยังถือว่าอยู่ในความลับ...”

“แต่มันถูกบริษัทคู่แข่งนำมาเผยแพร่แล้วจดลิขสิทธิ์เป็นของตัวเองแล้ว!”

“แต่ฉัน...” คำอธิบายที่ยังค้างอยู่ในปากของ ข้าว หรือ ข้าวหอม ไม่สามารถพูดสิ่งใดออกมาได้อีกเมื่ออีกฝ่ายไม่รับฟังต่อไป

“ฉันจะให้ทนายของบริษัทดำเนินการตามกฎหมายต่อ” ตัดบทเพียงเท่านั้น ไม่เลือกฟังคำแก้ตัวให้เสียเวลา พร้อมกับทนายความเดินเข้ามาวางเอกสารให้หญิงสาวอีกรอบ

รายละเอียดสิ่งที่เธอต้องรับผิดชอบจากความผิดครั้งนี้

ถูกไล่ออก ขึ้นบัญชีดำในประวัติ และต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับบริษัทเป็นเงินมูลค่ากว่าสิบล้านบาท

เธอพยายามขอโอกาสอธิบายและหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่อีกฝ่ายกลับไม่แม้แต่จะให้โอกาสเพราะหลักฐานทุกอย่างมีพร้อมครบแล้ว

พนักงานดีเด่นในวันวานตอนนี้กลับถูกเจ้าหน้าที่ลากออกจากห้องผู้จัดการระดับสูง คุมตัวไปถึงหน้าบริษัทถึงจะปล่อยให้เป็นอิสระราวกับสุนัขตัวหนึ่งก็ดูมีค่าเกินไปเสียด้วยซ้ำ

เธอยืนมองบริษัทตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย และหนึ่งในนั้นคือแค้นใจที่อีกฝ่ายรวบรัดมัดมือชก ถึงจะมีหลักฐานแล้วยังไง แต่นั่นมันส่วนที่พวกเขาหาได้ ไม่ใช่ส่วนที่เธออยากหาเพิ่ม

แต่ถึงจะพูดแบบนั้นจะฟังขึ้นได้ยังไง เพราะการหาหลักฐานจนครบแล้วฟาดใส่หน้าทีเดียว นั่นต่างหากถึงจะเป็นวิธีที่ถูกต้อง

เธอเลยกลายเป็นผู้กระทำผิดอย่างไม่ได้ตั้งตัว ผิดโดยที่มือไม่ได้เปื้อนเลยสักนิด

ชีวิตที่เคยปกติสุขของตัวเอง กลายเป็นพังลงไม่เป็นท่าด้วยเรื่องราวที่ไม่คาดฝัน สิ่งที่ไม่เข้าใจและไม่เคยทุจริตเลยด้วยซ้ำ

แล้วหลังจากนี้เธอจะทำยังไงต่อไป ถึงจะมีเวลาพิสูจน์ระหว่างอยู่ในขั้นตอนตามกฎหมาย

แต่ระหว่างทางล่ะ เงินที่ควรได้ไว้ใช้เพื่ออนาคตของตัวเองและคนที่รัก ชีวิตราบเรียบที่ไม่ถึงกับร่ำรวยแต่ก็ไม่ลำบาก

เธอจะกลายเป็นบุคคลล้มละลาย ถูกฟ้องร้อง และอาจถึงขั้นติดคุกหากไม่มีส่วนพิสูจน์ตัวเองได้

แล้วลูกของเธอล่ะ

แต่ความซวยของชีวิตไม่ได้หมดเพียงเท่านั้น ระหว่างกลายเป็นคนว่างงานรอถูกดำเนินคดี ความน่าหวาดกลัวก็เกิดขึ้นในชีวิต

ตุบ!

“!!!” ร่างบางผงะถอยหลังจนขาพันกันล้มกับพื้นราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง

เมื่อตื่นเช้ามาเปิดประตูรั้วเอาขยะไปทิ้งแล้วพบกล่องพัสดุ เธอจำไม่ได้ว่าตัวเองสั่งอะไรมา หยิบมันเข้าไปด้านใน วางไว้ที่โต๊ะกินข้าว ด้วยยังว่างเลยเลือกจะแกะเปิดมันออก

และนั่นก็ทำให้เธอแทบกรีดร้องออกมาแต่ติดที่ช็อกไปก่อนกับภาพที่เห็น

นกที่คอเกือบขาดพร้อมกับเลือดสดๆ ที่เต็มพื้นกล่อง เพราะด้านล่างมีพลาสติกรองอยู่เลยไม่ได้ไหลซึมออกจากกล่องให้เธอไหวตัวทัน และสภาพมันเหมือนกับพึ่งผ่านการตายมาไม่ถึงชั่วโมง นอกจากกลิ่นเลือดแล้วก็ยังไม่มีกลิ่นเหม็นสาปเกิดขึ้น

ระวังคอของเธอกับลูกไว้ดีๆ

ตัวหนังสือแดงฉานบนฝากล่องด้านใน ยิ่งทำให้เธอหวาดกลัวจนแทบทำอะไรไม่ถูก

กว่าจะตั้งสติได้ก็รีบลุกขึ้นไปหยิบถุงขยะสีดำทิ้งกล่องลงไป ปิดมัดปากถุงแน่นหนาแล้วก้าวออกจากบ้านไปทิ้งขยะทันที

แต่อีกครั้งที่เธอเกิดความระแวงขึ้นเหมือนคนใกล้เสียสติ เมื่อออกมาเห็นรถจักรยานยนต์คันใหญ่ พร้อมชายฉกรรจ์สองคนที่สวมชุดดำ ปิดด้วยหมวกกันน็อคใบใหญ่ไม่เห็นใบหน้า จอดรถอยู่ห่างจากบ้านของเธอไม่ไกลนัก และเหมือนกำลังจ้องมองมายังเธอ

ข้าวหอมรีบพาตัวเองเข้าบ้าน ปิดประตูล็อคอย่างที่คิดว่าแน่นหนาที่สุด พาตัวเองกลับเข้าบ้าน ล้างมือที่ไม่ได้เลอะเลือดแต่เหมือนล้างเท่าไหร่ก็ล้างไม่ออก

ภาพของนกที่สลัดไม่หายถูกซ้อนทับด้วยภาพบางอย่างเมื่อไม่นานวันที่ผ่านมา นั่นยิ่งทำให้เธอแทบเสียสติควบคุมตัวเองไม่อยู่

กระทั่งเสียงของลูกชายวัยหนึ่งขวบกว่าดังขึ้น ทำให้สติเธอกลับมาแม้ไม่มากก็ตาม รีบก้าวฉับๆ ไปดึงตัวลูกที่พึ่งตื่นมากอดไว้ด้วยร่างสั่นเทา หัวสมองเริ่มคิดหาทางป้องกันอันตรายที่อาจจะถึงตัวอย่างไม่เข้าใจอะไร

และนับจากนั้นมา ชีวิตของข้าวหอมก็อยู่ในความหวาดระแวงทุกวันเวลา กลางคืนเธอมักได้ยินเสียงบางอย่างรอบตัวบ้าน แม้จะมีรั้วรอบขอบชิด แต่ก็เหมือนมีใครบางคนปีนเข้ามาได้ ไหนจะเสียงรถจักรยานยนต์ที่ขับผ่านหน้าบ้านสองสามรอบในยามวิกาล

กล้องวงจรปิดที่ติดไว้สามตัวถูกหักเปลี่ยนทิศทาง ทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันไว้แต่ไม่ได้ทำให้เธอสบายใจขึ้นมาแม้แต่น้อยนิด

เธออยากย้ายออกไปอยู่ที่อื่น แต่พอไตร่ตรองดูกลับไม่ได้คิดว่ามันจะปลอดภัยขึ้นเลย โรงแรมที่คนเข้าออกได้ตลอด ยิ่งง่ายหากจะมีใครพังประตูบานเล็กๆ เข้ามาและกว่าจะตามคนเข้ามาช่วยด้วย ไปเช่าที่อยู่ใหม่ก็คิดว่าคงถูกสะกดรอยตามไปไม่ยาก เพราะแบบนั้นเลยยังอยู่บ้านเดิมของตัวเองด้วยความกลัวแบบนี้

ลำพังหากมีแค่เธอตัวคนเดียวอาจจะไม่หวาดกลัวจนใกล้บ้าแบบนี้

แต่เพราะชีวิตเธอมีคนที่รักและสำคัญที่สุดอย่างลูกชายอยู่ด้วย นั่นเลยทำให้เธอแทบจะเสียการควบคุมที่สุดในชีวิต

แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่ยอมแพ้ต่ออะไรเด็ดขาด ต่อให้ต้องสูญเสียอะไร สิ่งเดียวที่เธอจะไม่ยอมสูญเสียเลยก็คือลูกของเธอ...