ตอนที่4 เทียบไม่ได้
ปัง! ปัง! ปัง!
“เปิดประตู! เปิดประตู!!!” เสียงแหบแห้งดังขึ้นหวังให้คนข้างนอกได้ยินและเปิดประตูให้เธอ
ทันทีที่เขาพูดแบบนั้นก็ลุกออกจากห้องแห่งนี้ไป ปิดขังเธอไว้ภายในคนเดียว
และแน่นอนว่าลูกชายของเธอยังคงอยู่กับพวกเขา และเธอไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เขาจะกล้าทำร้ายเด็กคนหนึ่งลงคอจริงๆ อย่างนั้นเหรอ
ปัง! ปัง! ปัง!
“ขอร้อง เปิดประตูสักที! ฮือ!!!” พร่ำตะโกนออกไปด้วยเสียงแหบแห้ง น้ำตาไหลพรากจากความกังวลและหวาดกลัว ยิ่งทุกอย่างนิ่งเงียบยิ่งทำให้ในใจเธอดิ้นพล่าน ตอนนี้เธอแทบจะเป็นบ้าไปแล้ว
พยายามดึงกระชากประตูจนฝ่ามือแดงก่ำเท่าไหร่ก็ไม่หลุด พยายามทุบเรียกจนมือร้าวระบมก็ไม่มีใครเปิด
เวลามันเดินผ่านไปเรื่อยๆ ทุกวินาทีและลมหายใจของเธอมีเพียงความกังวลหวาดกลัวกัดเซาะใจของเธอจนแทบแหลกลานอยู่แบบนั้นไม่ไปไหน
ฝืนตัวเองจนเรี่ยวแรงแทบไม่เหลือ เสียงแหบจนปวดคอ สภาพน่าเวทนาจากการทรุดกายไร้กำลังจะหยัดยืนอยู่หน้าประตูทำอะไรไม่ได้ นึกภาวนาร้องขอทุกสรรพสิ่งอย่างให้ปกป้องลูกของเธอ ขอให้เขาเวทนาเด็กน้อยที่พึ่งหัดพูดรายนั้นสักนิดก็ยังดี
กระทั่งผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ที่ข้าวหอมยังคงเฝ้ารออยู่แบบนั้นที่เดิมทั้งน้ำตา ใบหน้าเปียกปอนดวงตาช้ำแดงแทบเป็นสายเลือด ถึงได้มีเสียงจากด้านนอกแว่วขึ้นเรียกสติของเธออีกครั้ง
“แง้!” ใบหน้าที่เศร้าสลดและเจ็บปวดของข้าวหอมตื่นตระหนกขึ้นมาทันที เรี่ยวแรงที่หดหายก่อนหน้ามาจากไหนไม่รู้ให้เธอลนลานลุกขึ้นพยายามกระชากประตูออกอีกรอบ ไม่สนความช้ำจากการกระทำซ้ำๆ ก่อนหน้า
แกร็ก!
ไม่ใช่เธอกระชากมันได้ แต่เป็นคนด้านนอกเปิดมันออกมาทำให้เธอรีบดึงประตูเปิดแล้วเตรียมพุ่งออกไป
แต่ฝ่ามือใหญ่ของอีกฝ่ายบีบคอเธอไว้แล้วดันเธอจนก้าวถอยหลังเข้าไปในห้องเหมือนเดิม
แม้จะเจ็บและหายใจไม่ออก แต่สายตาของเธอกลับจับจ้องไปด้านหลังของเขา เฝ้ามองเพื่อหาลูกที่ส่งเสียงร้องไห้ไม่หยุด
“ขะ...ขอร้อง” เธอหันมาสบตาเขาอีกครั้ง
และเห็นเพียงมุมปากกระตุกขึ้นอย่างเย้ยหยัน
จนเสียงร้องไห้ของเด็กดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เรียกความสนใจให้เธอพยายามมองไปที่ประตูอีกครั้ง
และในที่สุดก็เห็นใบหน้าของลูกชายที่เปียกปอนไปด้วยน้ำตา เนื้อตัวมอมแมมอยู่ในมือคนของเขา
“น้องคิน” น้ำเสียงแหบแห้งเพราะถูกบีบคอเปล่งเรียกลูกชาย ใช้เรี่ยวแรงอันน้อยนิดสะบัดสู้เพื่อให้หลุดจากอีกฝ่าย
แต่เขากลับยิ่งบีบเธอแน่นกว่าเดิมจนเริ่มหายใจติดขัด
แขนยื่นออกไปด้านหน้าเพื่อหาลูกน้อย พร้อมกับแขนป้อมๆ ของเด็กจ้ำม้ำที่เห็นหน้าแม่ตัวเองก็ยื่นส่งตัวหมายให้อุ้ม
แต่เธอก้าวไปหาลูกชายไม่ได้
“แค่กๆ” ความเจ็บปวดของคนเป็นแม่ทำได้เพียงยืนมองลูกชายในอ้อมแขนของชายฉกรรจ์ที่กำลังร้องไห้ดีดดิ้นจะหาแม่ น้ำตาไหลพราก ใบหน้าแดงก่ำ เสียงที่เคยดังจ้าตอนนี้แหบหายจนน่าสงสาร
“เธอดูสิ ฉันยังไม่ได้ลงมือทำอะไรก็ทำให้เธอทรมานได้แล้ว...”
“แบบนี้ยิ่งทำให้ฉันสนุกที่จะได้หยอกกับเด็กนั่นแล้วสิ” คำว่าหยอกของเขามันไม่ได้หมายถึงเย้าแหย่เล่นด้วยความเอ็นดู
แต่มันหมายถึงสิ่งอันตรายที่เขาจะมอบให้ต่างหาก
“คุณ...จะทำอะไร!” เธอเค้นเสียงออกไปถามเขาด้วยความกลัวจับใจ
“ไม่ต้องห่วง ถ้าฉันจะทำอะไรฉันต้องบอกแม่อย่างเธอแน่...”
“ไม่งั้นจะเอามาให้ดูเหรอ ว่าลูกเธอมันร้องไห้จะเป็นจะตายยังไง”
“ได้โปรด”
“หึ!... เอาเด็กนั่นกลับไปขังไว้ห้องเดิม มันอยากร้องก็ร้องไป ไม่ต้องให้นมมัน” คำพูดราบเรียบดังขึ้นกับเธอ ก่อนจะหันไปสั่งลูกน้องตัวเองที่อุ้มเด็กคนนั้นด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
“ไม่นะ! ถ้าแกร้องไห้จนขาดอากาศล่ะ คุณบ้าไปแล้วเหรอ!!!” เธอดิ้นรนเหมือนคนบ้าหลังจากได้ยินคำสั่งของเขา แต่กลับรัดคอเธอไว้แน่นขึ้นจนแทบขาดอากาศหายใจ
“แล้วไง นั่นมันลูกเธอ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันเลย” เขาเปลี่ยนจากบีบคอของเธอเป็นล็อครั้งไว้ไม่ให้เธอวิ่งตามออกไปได้
“ฉันเป็นคนผลักคนรักของคุณ คุณทำร้ายฉันสิ ทำร้ายฉันเลย...”
“แต่อย่าทำอะไรลูกของฉันเลยนะ แกไม่เกี่ยว แกยังเด็ก” เธอหันไปยกมือไหว้เขาอีกครั้ง อ้อนวอนให้เขาเปลี่ยนใจสักที
“แต่นั่นคือสาเหตุให้เธอทำร้ายคนรักของฉันไม่ใช่เหรอ” เพราะห่วงเด็กนั่นมาก เลยไม่สนใจว่าใครจะเป็นจะตายยังไงแม้แต่ตัวเอง
ก็แค่จัดการตัวต้นเหตุให้สิ้นเรื่อง
“ส่วนเธอ ก็จมอยู่กับความกลัวต่อไป เพราะฉันก็เดาไม่ได้เหมือนกันว่าจะเล่นอะไรกับเด็กนั่นบ้าง”
“ให้ฉันกราบก็ได้ อย่าทำแบบนี้เลย” พูดพร้อมกับจะก้มลงไปกราบเขา
“.....” คุณาภัทรนิ่ง มองคนที่ทรุดตัวคุกเข่าลงก้มกราบเขาด้วยสายตาเรียบเฉย
จนเธอเงยหน้าขึ้นทั้งน้ำตา เขาก็ยังไม่สงสารหรือเห็นใจแม้แต่น้อย
“แล้วยังไงต่อ” กราบแล้วยังไง ฝ่ามือของเธอมันวิเศษกว่าใครอย่างนั้นเหรอ กราบแล้วคนรักของเขาฟื้นขึ้นมาไหม หรือกราบแล้วเรื่องเลวร้ายเพราะเธอจะหายไปหรือเปล่า
ถ้าไม่ ก็ไร้ประโยชน์
พรึ่บ!
มีดพับถูกดึงออกจากกระเป๋ากางเกง เปิดกางมันออกส่องแสงวาววับจากแสงสะท้อนของไฟ
“.....” ข้าวหอมยอมรับว่าเธอกลัว
แต่หากเขาจะทำร้ายเธอแล้วละเว้นลูกของเธอ เธอก็ยอม
กึก!
“อึก!” ปลายมีดกดลงที่ข้างลำคอของเธอจนแสบ และไม่นานก็รับรู้ถึงของเหลวที่ไหลซึมออกมา
“เจ็บไหม”
“.....” เจ็บสิ มีใครบ้างถูกกระทบกระทั่งกับร่างกายไม่เจ็บ
“แค่รอยบาดเท่าปลายเล็บเธอยังเจ็บขนาดนี้...”
“แล้วคนรักของฉันล่ะ!” คนที่ถูกไอ้ระยำนั่นปาดคอจนสิ้นลมในเวลาไม่กี่นาที
แต่ไม่กี่นาทีที่ว่าเธอจะเจ็บปวดทรมานแค่ไหน
มันตัวนั้นได้ตายห่าไปแล้ว และเขานี่แหละยัดเงินให้ตำรวจแล้วส่งคนไปฆ่ามันโดยไม่ต้องมีขั้นตอนอะไรทั้งนั้น
ฆ่ามันอย่างทรมานจนฤทธิ์ยาที่มันเมายังเอาชนะความเจ็บปวดไม่ได้
ที่เหลือก็คือผู้หญิงคนนี้
“ถ้ายังไม่อยากให้ลูกเธอร้องจนขาดใจตาย ก็ตามมา” ร่างสูงหยัดตัวลุกขึ้นก่อนจะเดินนำออกไป
“.....” ข้าวหอมไม่รอช้า ลุกตามออกไปอย่างว่าง่าย ยกมือปาดเลือดที่คอของตัวเองออกด้วยความรู้สึกเจ็บแสบ
และก็ยิ่งสะท้านในอกถึงความเจ็บปวดที่ผู้หญิงคนนั้นได้รับ
สิ่งที่ผู้ชายคนนี้อยากให้เธอรับรู้
แต่ก็คงไม่เทียบเท่า
ไม่ใช่ว่าเขาไม่กล้าฆ่าเธอ แต่เธอรู้ว่ามันง่ายเกินที่จะตายตอนนี้
และ...
“ลงไป”
