3.กลับบ้าน
*** ทักทายคร้า ***
ณ ไร่อิงฟ้า ประเทศไทย
บ้านปีกไม้หลังใหญ่ทรงโบราณทาสีเปลือกไม้ตั้งอยู่บนเนินเตี้ยๆ ท่ามกลางแมกไม้รอบตัวบ้าน ด้านหลังเป็นธารน้ำตกสายเล็กๆ ทอดยาวลงมาจากเทือกเขาด้านบน ไหลลงมาตามแนวเส้นทาง ก่อนจะหายไปในดงไม้ด้านล่าง
อินทิราวางกระดาษใบสุดท้ายในมือลง ถอนหายใจยาวอย่างอ่อนล้า หญิงสาวยกปลายนิ้วคลึงไปทั่วเปลือกตาเพื่อให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นคลายตัว ก่อนที่จะลืมตาขึ้นอีกครั้งเมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น
“สวัสดีค่ะ”
“อิน...นี่พี่เองนะ”
เสียงที่ดังมาตามสายทำให้อินทิราเบิกตากว้างอย่างดีใจ
“พี่ณิน!” หญิงสาวอุทานอย่างดีใจ หลายเดือนแล้วที่เธอติดต่อพี่ชายไม่ได้ ทำให้เธอร้อนใจนอนไม่หลับกลัวพี่ชายเป็นอะไรไป เธออยากให้พี่ชายกลับมาทำงานที่เมืองไทยหรือกลับมาอยู่เป็นเพื่อนเธอที่ไร่ เพราะตั้งแต่พ่อแม่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อหลายปีก่อน พี่ชายก็ปล่อยงานในไร่ให้เธอรับผิดชอบ ส่วนตัวเขาต้องกลับไปทำงานใช้ทุนรัฐบาลถึงสองปี ทำให้เธอต้องดูแลงานในไร่เองทั้งหมด
“พี่ณินโทรจากไหนคะ” อินทิราตื่นเต้นเมื่อได้ยินเสียงคิดว่าพี่ชายโทรจากเมืองนอก
“พี่อยู่ที่เมืองไทย”
“คะ? กลับมาเมื่อไหร่”
“เพิ่งมาถึง”
“ทำไมไม่กลับมาบ้านเราคะ รู้ไหมว่าอินเป็นห่วง พยายามติดต่อพี่หลายครั้งแต่ก็ติดต่อไม่ได้เลย” เธอต่อว่าพี่ชาย
“พรุ่งนี้คงไปถึงไร่นะอิน”
“จริงเหรอคะ”
“พี่สัญญา ต่อไปนี้พี่จะไม่ไปไหนอีก”
“อินดีใจที่สุดเลย อินจะไปรับที่สนามบินนะคะ แล้วเจอกันค่ะ” หลังจากวางสายโทรศัพท์ หญิงสาวหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง วิ่งลงมาบอกแม่วาดที่เปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่เหลืออยู่
“แม่วาดจ๋า แม่วาด” หญิงสาววิ่งออกมาจากห้องทำงาน ร้องตะโกนเสียงดังลั่นด้วยความดีใจ
“คุณอิน แม่วาดอยู่นี่”
หญิงชราเดินออกจากห้องครัวตรงมาหาหญิงสาว อินทิราวิ่งเข้ามากอดร่างท้วมของพี่เลี้ยงอย่างดีใจ
“พี่ณินค่ะ! พี่ณินจะกลับมาพรุ่งนี้”
“จริงหรือคะ” นางได้ยินก็ดีใจไปพร้อมกับหญิงสาว อณินจากบ้านไปนานมากแล้ว กลับมาก็แทบจะนับครั้งได้ ทำให้นางสงสารร่างบอบบางที่กอดอยู่ ที่ต้องรับภาระหนักในไร่เพียงคนเดียวจนแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนเลย
สนามบินเชียงใหม่วันนี้คนค่อนข้างเยอะกว่าปกติ เพราะเป็นวันหยุดติดต่อกันหลายวัน หลายคนมุ่งหน้ามาเพื่อสัมผัสธรรมชาติในช่วงฤดูหนาวที่เป็นที่กล่าวขานถึงตลอด ในเรื่องสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วเมือง อินทิราและไผ่ หลานชายของแม่วาดสอดส่ายสายตามองหาพี่ชายอย่างตื่นเต้น
“เห็นพี่ณินรึยังไผ่” เสียงใสถามคนที่ยืนอยู่ข้างๆ สายตายังมองไปยังกลุ่มผู้โดยสารที่เดินออกมา
“มาเที่ยวนี้แน่เหรอคุณอิน” ไผ่ถามอย่างสงสัย เพราะผู้โดยสารออกมาเกือบหมดแล้วแต่ยังไม่มีวี่แววของคนที่มารอรับ
“แน่สิ เที่ยวนี้แหละ” หญิงสาวบอกอย่างมั่นใจ
“นั่นไง! ออกมาแล้ว” หญิงสาวโบกไม้โบกมือให้พี่ชายอย่างดีใจ
ร่างระหงวิ่งเข้าไปหาร่างสูงของอณินที่กางแขนออกรับร่างบอบบางของน้องสาวที่กระโดดเข้าหาเขา
“คิดถึงพี่ณินที่สุดเลย” หญิงสาวยังไม่ยอมคลายวงแขนที่โอบรอบคอพี่ชาย อณินต้องเตือนว่าเขาหายใจไม่ออกแล้ว เธอจึงยอมคลายวงแขนออก
“ไงไผ่...สบายดีนะ” ชายหนุ่มหันไปยิ้มให้ไผ่ที่ยืนอยู่ข้างๆ มืออีกข้างเลื่อนมาจับมือบางของหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
ไผ่หันไปมองอย่างสงสัย ทำให้อินทิราต้องมองตาม หญิงสาวหน้าตาเหมือนแขก ตาโต คิ้วเรียวหนา จมูกโด่งสวย ผิวสีน้ำผึ้ง ริมฝีปากอวบอิ่ม ยิ้มให้เธอและไผ่อย่างอ่อนโยน
“สวยขาดใจเลยพี่ณิน” อินทิราจ้องมองแฟนพี่ชายตาโต
อณินยิ้มอย่างภูมิใจ ชายหนุ่มยกแขนเรียวโอบเอวคอดบางอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ ไอลดายิ้มอย่างอายๆ ที่ถูกชม
“อิน...นี่ท่านหญิงไอลดาภรรยาพี่” ชายหนุ่มบอกน้องสาวเสียงทุ้ม
อินทิราตาโตฉีกยิ้มอย่างดีใจ หญิงสาวเดินมาหยุดตรงหน้าพี่สะใภ้คนใหม่ เธอยกมือไหว้และกล่าวสวัสดีเป็นภาษาอังกฤษอย่างชัดเจน แต่เสียงที่ตอบกลับมานี่สิเป็นภาษาไทยอย่างแจ่มชัด
“สวัสดีค่ะน้องอิน” ไอลดาทักทายอย่างดีใจ รู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก
“ท่านหญิงพูดไทยได้หรือคะ อินปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อเลย” เธอบอกอย่างอายๆ
ไอลดามองความน่ารักของน้องสามีอย่างยินดี
“ไม่ใช่ไก่ตัวเดียวด้วยครับคุณอิน ทั้งเล้าเลยคร้าบ” ไผ่กระซิบบอก ก่อนจะหัวเราะเสียงดัง
หญิงสาวหันมาทำตาเขียวให้ไผ่แล้วค้อนงามๆ ทีหนึ่ง
“ไปค่ะ กลับบ้านเรา” อินทิราบอกพร้อมจับมือพี่สะใภ้เดินนำหน้า ส่วนไผ่ถือกระเป๋าเดินตามหลังมา
รถของไร่อิงฟ้าเคลื่อนมาจอดหน้าบ้านไม้ที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ ไอลดาเงยหน้ามองตัวบ้านที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าและมองบรรยากาศรอบๆ อย่างสดชื่น แม่วาดยืนรออยู่ที่หน้าบ้านกับน้อยหน่า ร่างสูงโปร่งของอณินเดินเข้าไปกราบที่อกของหญิงชรา นางถึงกับน้ำตาซึมด้วยความปลื้มใจ สวมกอดร่างสูงพลางลูบหลังไปมาอย่างแสนคิดถึง
“พ่อคุณของแม่วาด กลับบ้านซะทีนะคะ”
นางดันอณินออกห่างแล้วมองอย่างพิจารณา
“แม่วาดสบายดีนะครับ” ชายหนุ่มกอดร่างอวบอ้วนตามวัยอีกครั้ง
“ค่ะสบายดี แล้วนี่...” นางหันไปมองสาวสวยที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ไอลดา ภรรยาผมครับ”
แม่วาดมองหน้าหญิงสาวที่ยกมือไหว้นางอย่างอ่อนช้อย
“สวัสดีค่ะแม่วาด” เสียงใสเอ่ยทักทายอย่างนอบน้อม
แม่วาดพิจารณาใบหน้างาม ปากคอคิ้วคางช่างรับกันเหมาะเจาะ ดวงหน้ารูปไข่ แก้มเนียนใส คิ้วเรียวสวยถึงแม้จะหนาไปนิดหนึ่ง จมูกก็เล็กเรียวได้รูปรับกับริมฝีปากอิ่ม
“สวย...” นางกล่าวชม ทำเอาไอลดาหน้าแดงอย่างอายๆ
“เข้าบ้านกันก่อนค่ะ” นางบอกให้ไผ่เอากระเป๋าขึ้นไปเก็บที่ห้องใหญ่ด้านซ้าย ซึ่งเป็นห้องของพ่อกับแม่ของอณิน เพื่อที่คนอยู่สองคนจะได้ไม่คับแคบ
*** ขอบคุณคร้า ***
