เชลยรักทะเลทราย by ดาหลา

71.0K · จบแล้ว
ทรายสีเงิน
50
บท
12.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เมื่อพี่ชายพาพระคู่หมั้นคนสวยของชีคอัลฟาร์จาผู้ได้ฉายาอินทรีย์แดนใต้หนี ชีคหนุ่มแค้นสุดแค้นที่ถูกท้าทายพลังอำนาจจึงพลิกแผ่นดินตามล่า ทำเอาทะเลทรายร้อนระอุยิ่งกว่าลาวาภูเขาไฟ อินทิราสาวน้อยหน้าหวานต้องการปกป้องพี่ชายจากชีคบ้าอำนาจ จึงยื่นข้อเสนอเป็นตัวประกันซะเอง อัลฟาร์จาจึงกลั่นแกล้งสารพัดจนกระทั่งเกิดหลงรักเธอเต็มหัวใจ เปลี่ยนแผ่นดินสีทองจึระอุอุ่นไปด้วยรักร้อน…

นิยายรักโรแมนติกแม่ทัพพลิกชีวิตนางกำนัลเศรษฐีโรแมนติก

1.ทะเลทรายร้อนรัก

*** ทักทายคร้า วันนี้ขอนำเสนินิยายรักหวานละมุน ท่ามกลางทะเลทรายร้อนระอุ ในนามปากกาของดาหลา ฝากเรื่องนี้ไว้ในอ้อมใจของทุกท่านด้วยนะคะ...กอดๆ จ้า***

******

สาธารณรัฐชวาลาเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดในแถบทะเลทรายตอนใต้ อยู่ภายใต้การปกครองของราชวงค์ ราเอล อาบิดชา อัลชาวาลย์ มาหลายสมัย เอเมียร์คนปัจจุบันเป็นเอเมียร์องค์ที่สิบห้า คือ ชีคอัลฟาร์จา ราเอล อาบิดชา อัลชาวาลย์ ฉายาอินทรีแดนใต้ สภาพภูมิประเทศโดยรอบเป็นทะเลทราย รายได้หลักส่วนใหญ่มาจากการขายน้ำมันและสินแร่หลายชนิด

อณินหันมองใบหน้าที่ซบอยู่กับไหล่กว้างของเขาด้วยความสงสาร เพราะความรักทำให้ท่านหญิงไอลดา พระคู่หมั้นของชีคอัลฟาร์จาที่กำลังจะเข้าพิธีอภิเษกสมรสในอีกสี่เดือนข้างหน้าตัดสินใจหนีมากับชายหนุ่ม เพราะความรักที่มีต่อ อณิน รัชชตระ ซึ่งเป็นแค่หัวหน้าวิศวกรที่มาจากเมืองไทย

อณินไล้ปลายนิ้วไปตามพวงแก้มแดงด้วยไอแดดอย่างสงสารคนรักสุดหัวใจ ถ้ากลับไปถึงเมืองไทยเขาสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ให้เธอลำบากและปกป้องเธอด้วยชีวิตของเขา ไม่ว่าใครหน้าไหนก็อย่าหวังพรากเธอไปจากเขาได้

แสงอาทิตย์ยามบ่ายในพื้นทรายค่อนข้างโหดร้าย ไอลดาค่อยๆ ลืมตาขึ้น มือบางกระชับผ้าปิดใบหน้าเพื่อให้พ้นจากแสงแดด แต่กระนั้นไอร้อนยังลามเลียให้ผิวบอบบางของเธอแสบทั่วหน้า หญิงสาวมองใบหน้าคมพร้อมส่งยิ้มให้อย่างอ่อนหวาน

“ตื่นแล้วหรือครับ ท่านหญิง” อณินเอ่ยถามเสียงอ่อนโยน ไอลดาพยักหน้าแล้วถามเขาอย่างกังวล

“เราจะทำสำเร็จไหมคะอณิน”

ชายหนุ่มดึงร่างบอบบางเข้ามากอดไว้แนบอก จูบเบาๆ อย่างปลอบประโลมที่หน้าผากกลมมน

“ต้องสำเร็จสิไอล์ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะพาคุณกับลูกกลับไปเมืองไทยให้ได้ เชื่อผมนะ”

หญิงสาวซบหน้ากับอกอุ่น น้ำตาไหลเป็นทางเมื่อนึกถึงชีวิตน้อยๆ ที่จะเกิดมาต้องพบกับความลำบาก มือบางวางบนหน้าท้องที่เริ่มจะนูนขึ้น หัวใจของคนเป็นแม่อุ่นซ่าน มีพลังไหลผ่านมาให้สู้เพื่อลูกที่จะเกิดมา

อณินสัมผัสถึงแรงสั่นสะอื้นของร่างที่แนบอยู่กับอก ทำให้เขากระชับอ้อมแขนแน่นยิ่งขึ้น เพื่อให้เธอผู้เป็นที่รักรู้สึกปลอดภัยและคลายกังวล

แสงอาทิตย์ยังคงแผดเผาทุกสรรพสิ่งบนพื้นทราย ชายหนุ่มควบอูฐวิ่งสุดฝีเท้าเข้าใกล้ชนเผ่าโซบาห์ กระโจมหลายหลังเริ่มปรากฏต่อสายตาของอณิน

“ท่านจะไปที่ไหนพ่อหนุ่ม” ชายวัยกลางคนหนวดเคราขึ้นเฟิ้มอยู่ในชุดพื้นเมืองเดินเข้ามาหาอณิน

“ข้ากับภรรยากำลังจะเดินทางไปเมืองเบร่าห์ ขอแวะพักสักหน่อยได้ไหม” อณินตอบกลับเป็นภาษาเดียวกัน ก่อนจะสั่งให้อูฐย่อตัวลงแล้วหันไปรับไอลดา

หญิงสาวดึงผ้าคลุมหน้าออก เมื่อทุกคนเห็นไอลดาจึงยิ้มและก้มลงทำความเคารพ หญิงสาวส่งยิ้มให้กับทุกคน

“อย่า! เราไม่ใช่เจ้าหญิงอีกแล้ว” ไอลดาบอกอย่างสะเทือนใจแล้วหันไปมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ อุ้งมืออุ่นบีบมือเล็กอย่างให้กำลังใจ

“เชิญที่กระโจมใหญ่ดีกว่าครับ” หัวหน้าเผ่ากล่าวเชิญและผายมือไปยังกระโจมหลังใหญ่

อณินจับมือไอลดาแล้วพาเดินไปที่กระโจมใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงกลาง

“เฮ้ย! เอาน้ำมารับแขกหน่อย” หัวหน้าเผ่าตะโกนบอกภรรยา

ไม่นานผู้หญิงแต่งกายแบบพื้นเมืองก็นำชาและถ้วยมาวางลงแล้วหลบเข้าไปด้านในเช่นเดิม

“ฮัดซัน สนามบินไปอีกไกลไหม” หญิงสาวถามอย่างมีความหวัง

“ไม่ไกลหรอกท่านหญิง เราสัญญาจะส่งท่านและผู้ชายคนนี้ไปถึงที่นั่นให้ได้” ฮัดซันบอกอย่างมั่นใจ

“ขอบคุณท่านมาก เราสองคนจะไม่ลืมพระคุณเลย” ไอลดายิ้มให้อย่างขอบคุณ

“ไม่เป็นไรหรอกท่านหญิง พระมารดาของท่านหญิงเคยช่วยเหลือพวกเราไว้มากเหลือเกิน พักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เราจะต้องเดินทางแต่เช้ามืด” ว่าแล้วฮัดซันก็ลุกเดินออกไปจากกระโจม เพื่อให้ทั้งสองได้พักผ่อน

“เหนื่อยมากไหมไอล์” อณินเดินเข้ามาหาหญิงสาว ลำแขนแข็งแรงโอบรอบเอวบาง

“ไม่ค่ะ พรุ่งนี้ขอให้พระผู้เป็นเจ้าคุ้มครองเราสามคนพ่อแม่ลูกให้ทำสำเร็จก็พอ” เธอกอดเขาไว้แน่น ใบหน้าซบกับอกกว้าง หญิงสาวคิดถึงวันพรุ่งนี้ ถ้าหนีออกจากชวาลาได้ นั่นหมายถึงชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน

สามวันสองคืนที่ทั้งสองเดินทางรอนแรมผ่านทะเลทราย เพื่อมุ่งหน้าสู่แนวชายแดนของเมืองเบร่าห์ การเดินทางดูอึมครึม อย่างบอกไม่ถูก บนเส้นทางที่ไม่มีเครื่องหมายบอก

ฮัดซันเดินนำหน้าอย่างชำนาญทาง นานๆ จะหันกลับมามองด้านหลังสักครั้ง

เบร่าห์เป็นเมืองที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว อุดมสมบูรณ์ด้วยโอเอซิส แหล่งน้ำ ประชาชนส่วนใหญ่มีรายได้มาจากการทำงานในบ่อน้ำมันของรัฐบาลและเหมืองแร่ที่กระจายอยู่ทั่วเมือง

“เราส่งท่านแค่ตรงนี้ เดินทางอีกไม่ไกลก็จะถึงที่หมาย ขอให้เดินทางปลอดภัย” ฮัดซันหันไปมองคนทั้งคู่ด้วยสายตาอ่อนโยน

“เราสองคนขอบคุณท่านมาก” อณินกล่าวขอบคุณเป็นภาษาพื้นเมืองสำเนียงชัดเจน

จากนั้นทั้งสองก็เดินทางลัดเลาะมาตามซอกซอยเล็กๆ แล้วมาโผล่ที่ทางเข้าสนามบิน อณินมองดูรอบๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีคนของชีคอัลฟาร์จาตามมา

ท่ามกลางฝูงชนที่พลุกพล่าน อณินประคองหญิงสาวมานั่งที่ม้านั่งตัวยาวที่ทางสนามบินจัดไว้สำหรับผู้โดยสารที่รอขึ้นเครื่อง

แล้วอยู่ๆ ก็มีชายวัยกลางคนเดินเข้ามาหาเธอแล้วยื่นหนังสือให้ หญิงสาวมองใบหน้าที่มีหนวดเคราขึ้นเต็มหน้าอย่างไม่แน่ใจ อณินยื่นมือไปรับหนังสือแทน ก่อนจะเปิดออกอ่าน มีข้อความเขียนข้างในว่า

“ขอให้ลูกทั้งสองโชคดี”

เมื่อไอลดาเห็นตัวหนังสือก็รู้ทันทีว่าเป็นลายมือของพระมารดา หญิงสาวถึงกับน้ำตาซึม

ร่างสูงเพรียวของอณินพาไอลดาเดินไปยังช่องผู้โดยสารเพื่อตรวจตั๋วเครื่องบิน ก่อนที่จะเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปยังเครื่องบินที่จอดอยู่ หญิงสาวรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูกที่ต้องจากแผ่นดินเกิด จากญาติพี่น้อง จากพื้นทราย จากเม็ดทรายทุกเม็ดที่หล่อเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เล็กๆ เพื่อไปสร้างครอบครัวใหม่

อณินมองหน้าคนรักอย่างเข้าใจความรู้สึกของเธอ มือใหญ่บีบมือบางที่วางบนตักเบาๆ ไม่นานเครื่องบินก็ทะยานขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนที่จะลอยตัวในอากาศมุ่งหน้าไปยังประเทศไทย

*** ขอบคุณคร้า ***