ตอนที่ 4 เผลอไผล
เจ้าขาเร่งเดินตามคล้ายวิ่งวันนี้ใส่รองเท้าส้นสูงทำให้ตามเขาไม่ถนัด ส่วนบอดี้การ์ดสี่คนเดินล้อมตัวสิงหราชไว้ สิงหราชเลี้ยวเข้าห้องน้ำมีบอดี้การ์ดตามเข้าไปสองคน อีกสองคนและเจ้าขายืนรอด้านนอก เจ้าขาได้จังหวะโทรไปหาวรุตเรื่องเพิ่มกำลังดูแลสิงหราชเธอไม่ค่อยสบายใจและเป็นห่วงความปลอดภัยของเขา
ภายในห้องน้ำ
บอดี้การ์ดหนึ่งคนเข้าห้องน้ำ ส่วนสิงหราชอยู่ที่โถปัสสาวะกับบอดี้การ์ดอีกหนึ่งคน ด้านหลังมีชายสองคนเดินม้วนเชือกที่มือย่องเข้ามาใกล้ตัวแล้วคล้องรัดลำคอแกร่งของสิงหราชกับบอดี้การ์ด ทั้งสองดิ้นรนหนีแต่คนร้ายดึงรัดแรงขึ้นจนหายใจไม่ออก สิงหราชฮึดสู้สุดแรงหยิบมีดพกในกระเป๋ารวบรวมแรงที่มีแทงข้อมือคนร้าย
“สวบ” คนร้ายร้องเจ็บปวดปล่อยมือออกจากเชือก ด้านบอดี้การ์ดอีกคนก็ทำแบบเดียวกัน สิงหราชกำลังหันมาเผชิญหน้าคนร้ายรีบชักปืนขึ้นจะจ่อยิง สิงหราชปัดมือคนร้ายแล้วเข้าไปล็อคมือคนร้ายไม่ให้ลั่นไกตามวิชาการต่อสู้ที่ได้เรียนมา บอดี้การ์ดอีกคนออกมาจากห้องน้ำเห็นจึงเข้าไปเจาะเข่าคนร้ายให้เสียหลัก คนร้ายแขนขาหมดแรง โดนสวนกลับสะบักสะบอมหาจังหวะรีบวิ่งหนีกันออกไป บอดี้การ์ดวิ่งตาม
“คนร้าย คนร้าย!”บอดี้การ์ดร้องตะโกนบอกเพื่อนด้านนอก คนร้ายวิ่งผ่านบอดี้การ์ดสองคนด้านนอกไปทั้งสองเลยวิ่งตามไปจับคนร้าย ส่วนเจ้าขาที่ได้ยินเสียงโวยวายหันขวับไปมองเป็นห่วงสิงหราชรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเห็นเขานั่งคุกเข่าหอบหายใจแรง
“พี่สิง ค่อย ๆ สูดหายใจ ช้าๆ ลึก ๆช้า ๆ ลึก”หญิงสาวให้เขาทำตาม สิงหราชหายใจเข้าออกช้า ๆ จนดีขึ้นทิ้งตัวนั่งลงหมดแรง
“ดีขึ้นแล้วใช่ไหม เจ็บตรงไหนบ้าง........”มือบางลูบใบหน้าคมอย่างห่วงใย สายตาหวานสำรวจลำคอและลูบคลำทั่วร่างแกร่ง พอก้มลงมองช่วงล่างเห็นกางเกงชั้นในของเขา
“ว้าย!”เจ้าขาร้องเสียงหลงหน้ารีบหันหน้าหนี
“เฮ้ย!”สิงหราชตกใจหน้าเหวอรีบเอามือกุมเป้าแล้วรูดซิปกางเกง
“โดนรัดคอก่อน ไม่ทันรูดซิป”
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว พี่ภูมิ พี่เบส ฝากพี่สิงด้วย”เจ้าขารีบพูดไม่หันมองหน้าสิงหราช เมื่อบอกบอดี้การ์ดสองคนให้ดูแลสิงหราชเธอก็ลุกขึ้นรีบวิ่งไปหาบอดี้การ์ดอีกสองคนที่วิ่งตามคนร้าย
“ไม่ต้องไปหรอกเจ้าขา เจ้าขา!”สิงหราชร้องห้ามด้วยความเป็นห่วง เจ้าขาไม่สนออกไปไม่ฟังเสียงห้าม
“ห้ามไม่เคยฟัง”สิงหราชบ่นตามหลัง
“ไม่ชินหรือครับนาย”บอดี้การ์ดเบสอมยิ้ม
“นั่นสิ ฉันควรจะชินสักที”สิงหราชส่ายหน้า บอดี้การ์ดสองคนประคองตัวเขาลุกขึ้น
ด้านนอก
เจ้าขาวิ่งคุยวิทยุสื่อสารกับบอดี้การ์ดสองคน เธอวิ่งออกไปลานจอดรถเห็นเพื่อนบอดี้การ์ดจึงเข้าไปสมทบ
“พวกมันขี่มอเตอร์ไซต์หนีไปแล้ว”บอดี้การ์ดอีกคนพูดกับเจ้าขาน้ำเสียงหอบเหนื่อย สักพักเสียงมอเตอร์ไซต์เบิ้ลเครื่องเข้ามาใกล้พร้อมกับท่อนเหล็กใหญ่ง้างจะฟาดบอดี้การ์ดทั้งสามที่ยืนเรียงกันอยู่ บอดี้การ์ดคนหน้าสุดไม่ทันตั้งหลักจะโดนฟาดตรงหัวแต่โชคดีที่ยกมือกันไว้ได้ทัน
“ปึก” เสียงเหล็กกระทบแขนดังแน่น ส่วนบอดี้การ์ดอีกคนกับเจ้าขาย่อตัวหลบทัน บอดี้การ์ดชายรีบเข้าไปดูอาการเพื่อนอีกคนที่กุมแขนสีหน้าเจ็บปวด เจ้าขาถอดรองเท้าวิ่งตามรถมอเตอร์ไซต์ โชคดีที่มีรถเก๋งถอยหลังมาปิดทางพอดี รถมอเตอร์ไซต์ของคนร้ายกำลังเลี้ยวอ้อมหนี เจ้าขาพุ่งกระโดดล็อคคอคนร้ายด้านหลังไว้จนมอเตอร์ไซต์ล้มทั้งคัน สามร่างร่วงลงกระแทกพื้นดัง “อึก” เจ้าขาเจ็บจุกแขนเรียวยังรัดคอคนร้ายแน่นไม่ยอมปล่อยดิ้นสู้ขัดขืนกันอยู่บนพื้นแล้วยกขาเรียวขึ้นล็อคเอวคนร้ายไว้ คนร้ายอีกคนลุกขึ้นเดินมายกเท้าจะกระทืบหญิงสาว
“ปรี๊ด ปรี๊ด ปรี๊ด.......”รปภ.เป่านกหวีดเสียงดัง คนร้ายหันไปเห็นรปภ.และชายร่างใหญ่อีกสามคนวิ่งมาเลยรีบยกรถมอเตอร์ไซต์ขี่หนีไปคนเดียวส่วนคนร้ายอีกคนถูกเจ้าขารัดคอไว้
“เจ้าขา!”สิงหราชตะโกนร้องดังลั่นหน้าเสีย เมื่อเห็นเธอนอนรัดคอคนร้ายอยู่บนพื้นถนนสะบักสะบอมกระโปรงถกขึ้นจนเห็นกางเกงขาสั้นด้านในเผยเรียวขาขาวที่คลุกฝุ่น.....
บ้านไม้หลังคฤหาสน์
บ้านไม้ชั้นเดียวกลางบึงดอกบัวมีสะพานข้ามจากฝั่งสวนหลังคฤหาสน์เข้ามายังตัวบ้านที่ตกแต่งแนววินเทจเคยเป็นบ้านพักนั่งเล่นของรสรินแม่สิงหราช หลังจากรสรินจากไปบ้านหลังนี้ปิดร้างไว้จนเจ้าขากับยายย้ายเข้ามาอยู่
ในห้องน้ำ
เจ้าขาชำระล้างร่างกายยกแขนขวาไม่ให้แผลถลอกเป็นแนวยาวจากหัวไล่ถึงข้อศอกโดนน้ำ หญิงสาวค่อย ๆ สวมใส่เสื้อผ้าอย่างระมัดระวังก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำม้วนผมขึ้นสูงสวมเสื้อกล้ามกางเกงขายาว ออกมาหยิบกล่องยาทำแผลที่อยู่ในห้องรับแขก
“พี่สิง!”เจ้าขาตกใจที่เห็นสิงหราชนั่งบนโซฟารับแขก
“บอกให้ไปโรงพยาบาลก็ไม่ไป มาพี่ทำแผลให้....”เขายกกล่องยาทำแผลขึ้นแล้ววางบนโต๊ะรับแขก
“ไม่ต้องหรอกค่ะ แผลแค่นี่เด็กๆ”เจ้าขายกไหล่ยักคิ้วมั่นหน้า สิงหราชเหล่มองลุกขึ้นเดินอ้อมไปข้างหลังหญิงสาว
“พี่รู้ว่าเราเก่ง ไปนั่งเลยเดี่ยวพี่ใส่ยาให้” มือหนาจับไหล่บางดันตัวเธอให้ไปนั่งโซฟา หญิงสาวยอมนั่งแต่โดยดีแล้วเอียงตัวเล็กน้อย สิงหราชมองแผลถลอกแนวยาวแล้วหนักใจไม่อยากให้เธอต้องทำงานเสี่ยง ตอนเรียนจบปริญญาก็มาขอพ่อให้ส่งเรียนป้องกันตัวยิงปืน เข้าคอร์สฝึกเป็นบอดี้การ์ดเพื่อมาดูแลเขา สิงหราชทั้งห้ามทั้งบ่นแต่ไม่เคยห้ามเจ้าขาได้เลยสักครั้ง
“ทีหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะ พี่ไม่อยากให้เจ็บตัว”คิ้วเข้มขมวดปมหน้าเครียด มือหนาเทน้ำเกลือใส่สำลีค่อย ๆ เช็ดทำความสะอาดแผลแล้วทายาให้อย่างเบามือ
“ถ้าไม่ทำก็จับคนร้ายไม่ได้”
“จับได้มันก็ไม่สาวถึงคนบงการ”
“เผื่อมันจะใจเสาะ ยอมบอกไงคะ”เจ้าขาหน้าง้ำเถียงคอเป็นเอ็น
“เจ้าขา...”เสียงทุ้มหงุดหงิดที่เธอตั้งหน้าเถียงตลอด
“น้องไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายพี่แล้วลอยนวล ถึงวันนี้จะจับได้แค่ลูกน้องปลายแถวต่อไปก็จะจับตัวคนบงการได้”หน้าสวยบึ้งตึงไม่มีทางยอมให้คนร้ายรอดไปเด็ดขาดถึงจะลูกน้องธรรมดาก็เถอะ
สิงหราชถอนหายใจ เจ้าขาเป็นคนหัวแข็งเขาไม่เคยห้ามเธอได้เลยจริงๆ มือหนาค่อย ๆ ทาแผลให้จนเรียบร้อย เจ้าขาหันมามองที่ลำคอของเขาแดงช้ำ
“ทายาหน่อยนะคะ”มือบางลูบไล้รอยแผลนั้นแล้วหยิบยามาทาแก้ฟกช้ำนิ้วเรียวค่อย ๆ แตะลงลำคอแกร่งเขายืดคอขึ้น คอยเหลือบมองหญิงสาวที่บรรจงทายาอย่างตั้งใจ เจ้าขาเงยมองหน้าหล่อที่มองเธออยู่เช่นกันสองสายตาผสานกันนิ่งงันความรักมากล้นในใจถูกสื่อสารออกมาอย่างเปี่ยมล้น ใบหน้าคมเคลื่อนเข้าใกล้คล้ายมีแรงดึงดูดริมฝีปากหนาสัมผัสริมฝีปากบางแผ่วเบาเจ้าขาเผลอไผลนั่งนิ่งไร้การขัดขืน ริมฝีปากกดประทับแน่นขึ้นแทรกลิ้นหนาเข้าหยอกล้อในโพรงปาก แขนแกร่งรวบเอวบางกอดรัดไว้แน่นเจ้าขาคล้องแขนล้อมลำคอแกร่ง จูบตอบโต้เขาแม้ไม่ค่อยประสาแต่ด้วยความโหยหาจึงตอบสนองตามสัญชาตญาณ หน้าสวยเริ่มแดงหายใจติดขัดพยายามดันหน้าออกเขายอมปล่อยริมฝีปากบางออกแล้วตามขบเม้มอย่างต้องการ
“หายใจไม่ออก”เจ้าขาหอบเหนื่อยเอนกายหนี
“เก่งทุกเรื่องยกเว้นเรื่องจูบ”สายตาคมหรี่มองยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ใครจะไปเก่งเหมือนพี่สิงล่ะ ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะคะ”
“พี่ไม่ได้ทำคนเดียว เจ้าขาก็ทำ”
“อารมณ์มันอย่างพาไป....เอาเป็นว่าเจ้าขาจะระวังตัวไม่เผลอไผลอีก........”สายตาหวานหลุกหลิกบิดตัวเขิน
“เผลออีกก็ได้ พี่ไม่ติด”หน้าหล่อยื่นเข้าใกล้แหย่หญิงสาวที่กำลังเขินอาย
“เราเป็นพี่น้องกันนะคะ”
“น้องบุญธรรม เป็นแค่น้องบุญธรรม”
“ถึงยังไงก็พี่น้องกันอยู่ดี”หน้าสวยสลดน้ำเสียงเศร้า เขาหงุดหงิดที่เธอเอาเรื่องพี่น้องมาอ้างเสมอ
“ไม่ใช่เพราะเราเป็นพี่น้องกันหรอก เป็นเพราะเจ้าขาไม่เคยรักพี่มากกว่า ใช่สิใครมันจะไปรักคนที่มีคนลอบทำร้ายต้องเสี่ยงชีวิตทุกวันได้”เสียงทุ้มแข็งขึ้นตัดพ้อชีวิตตัวเองที่โดนลอบทำร้าย จนไม่มีใครอยากอยู่ใกล้
“พี่มีบุญคุณกับเจ้าขา เจ้าขารักพี่มากกว่าชีวิตให้ตายแทนยังได้”สายตาหวานสั่นระริก รักเขาจนตายแทนได้เลยด้วยซ้ำ
“รักแบบผู้มีพระคุณพี่ไม่ต้องการ”สิงหราชเบือนหน้าหนีลุกเดินออกไปจากบ้านทันที เขาอยากให้เธอรักเขาอย่างคนรักไม่ใช่รักอย่างผู้มีพระคุณ เจ้าขามองแผ่นกว้างเศร้าๆ รักสิ เจ้าขารักพี่สิงแต่เราสองคนไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในสถานะนั้น เจ้าขาต่ำต้อยเกินไป.....
