บทย่อ
เธอคือหัวใจที่เขาต้องแอบซ่อน แม้รักมากเพียงไหนเขาและเธอต้องเก็บเป็นความลับ เพราะเธอเป็นน้องสาวบุญธรรมของเขา (อุปสรรคมากมายไม่อาจหยุดยั้งรักที่ไม่อาจครองคู่ แม้ต้องฝืนดวงชะตาก็จะทำเพราะเขาคือชีวิตของเธอและเธอคือเจ้าของหัวใจสิงหราช) “ไปคุยกันที่บ้าน!” สิงหราชน้ำเสียงหงุดหงิดที่เจ้าขาดื้อและยังเสียงดังทะเลาะกันในที่สาธารณะ “บ้านหลังไหนคะ หลังที่เคยอยู่หรือหลังที่พี่เฉดหัวส่ง!” เจ้าขาเบะปากเหยียดความน่าสมเพชของตน “พูดดี ๆ อย่าใช้อารมณ์...” เขาทำหน้าดุพยายามจะเดินเข้ามาใกล้ “ผัวไปมีผู้หญิงคนอื่น จะให้ทำตัวอ่อนน้อมพูดคะ ขาหรือไง!” หญิงสาวโวยวายเสียงดังลั่น บอดี้การ์ดทุกคนได้ยินคำพูดของเธอชัดเจน ต่างทำหน้าเหลอหลาอยู่กันมาตั้งนานรู้ว่าทั้งสองคนชอบกันแต่ไม่คิดว่าเกินเลยไปถึงขั้นสามีภรรยา สิงหราชขบกรามแน่นกวาดสายตามองบอดี้การ์ดและผู้คนรอบข้าง “เมียลับที่เคยบอกมันคงไม่ลับแล้วล่ะ” เสียงทุ้มแข็งขึ้นจ้องมองคล้ายตำหนิ “.........” เจ้าขามองสายตาคมกริบของชายที่รักด้วยใจที่สั่นไหว แก้มเนียนเริ่มแดงขอบตาร้อนผ่าวน้ำตาคลอ ก่อนจะกล้ำกลืนฝืนพูดในสิ่งที่ทำร้ายหัวใจตัวเอง “อายที่มีเมียกระจอกมากสินะ......ต่อไปนี้ไม่ต้องอายใครแล้ว พี่สิงกลับไปหาผู้หญิงที่เหมาะสมเถอะ เจ้าขารู้ตัวจากสีหน้าท่าทางพี่ที่เปลี่ยนไป เจ้าขาไม่ได้สำคัญกับพี่เหมือนก่อน คำรักที่พี่เคยบอกมันก็แค่คำหวานของผู้ชายที่หวังฟันแล้วทิ้ง เจ้าขาโง่เองที่เชื่อพี่ โง่ที่รักพี่ยิ่งกว่าชีวิต......”
ตอนที่ 1 น้องบุญธรรม
ชีวิตและหัวใจมอบให้เพียงเจ้าขา ปกป้องห่วงใยยิ่งกว่าชีวิตเพื่อสิงหราช
รักที่ไม่อาจครองคู่ อุปสรรคไม่อาจหยุดยั้ง ฝ่าฝันฝืนดวงชะตาเพราะเขาคือชีวิตของเธอและเธอคือเจ้าของหัวใจสิงหราช
สิงหราช
ชายหนุ่มสายตาคมกริบมาดขรึม สุขุมน่าเกรงขาม ทายาทตระกูลราชวิทูลที่ร่ำรวย แต่โชคร้ายมีคนคิดร้ายจนเกือบตายหลายครั้ง มีเพียงเจ้าขาที่มีดวงปกป้องคุ้มครองเขาให้แคล้วคลาด ความรักผูกพันซึมลึกในความรู้สึกคนทั้งสอง ทว่าพ่อของเขาดันรับเลี้ยงเธอไว้เป็นลูกบุญธรรม กลายเป็นว่ารักมากแค่ไหนก็เป็นไปมากกว่านี้ไม่ได้
นรกมล หรือ เจ้าขา
หญิงสาวสวยหวานรูปร่างบอบบางดูเรียบร้อยอ่อนหวาน ซึ่งต่างจากอุปนิสัยมุ่งมั่นกล้าได้กล้าเสียคล้ายผู้ชาย มีใจรักเดียวคือสิงหราชทำทุกอย่างเพื่อปกป้องชายคนรัก แม้รู้ดีว่าไม่อาจเคียงคู่
ตอนที่ 1 น้องบุญธรรม
กายแกร่งกอดรัดร่างบางไว้แน่น มอบจูบแสนเร่าร้อนด้วยความเสน่หาที่อัดแน่น เลือดในกายสูบฉีดให้รุ่มร้อน มือหนาลูบเรือนร่างขาวเนียนละเอียดเคลื่อนหน้าคมกดสูดดมความหอมของกายสาว ซุกไซ้ซอกคอเรียวหื่นกระหายร่างบางแอ่นเร้าครางกระเส่า ความเป็นชายผงาดง้ำเกินห้ามใจไหว ปากหนาเลื่อนลงแทะเล็มดูดเลียเต้านมขาวอวบนุ่มนิ่มเสียงหายใจหอบกระเส่าดังระงมทั่วห้อง แก่นกายแข็งตั้งพร้อมสอดใส่ สะโพกหนาโหย่งขึ้นพร้อมสอดใส่เข้าช่องทางรัก
“ตึ้ด ตึ้ด ตึ้ด ตึ้ด”เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเป็นเวลาตีห้าครึ่ง ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นสีหน้าเบื่อหน่ายกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่แล้วเชียว มือหนาเอื้อมกดปิดนาฬิกาแล้วทิ้งตัวลงอยากฝันต่อแต่นอนไม่หลับ ร่างหนาได้แต่ถอนหายใจยาวลุกขึ้นจากเตียงนอนเดินไปยังกระจกบานใหญ่ มือหนาเปิดผ้าม่านสีเทาเข้มออกสายตาคมมองไปยังสนามหญ้ากว้าง ที่มีหญิงสาวตัวเล็กผิวขาวกำลังวิ่งเล่นกับสุนัขไซบีเรียนที่เขาเลี้ยงไว้สองตัว ชายหนุ่มเผลอยิ้มมองอย่างอ่อนโยนนี่คือสิ่งที่ทำให้เขามีความสุขในทุกเช้า เธอคนนั้นคือเจ้าขาผู้หญิงที่อยู่ในความฝันของเขามาหลายปี ในโลกของความเป็นจริงเขากับเธอไม่สามารถรักกันอย่างชู้สาวได้ เพราะเขาคือพี่ชายและเธอคือน้องสาวบุญธรรม
เวลาเจ็ดนาฬิกา
ชายหนุ่มยืนสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองในกระจก มือหนาติดกระดุมเสื้อแขนยาวสวมสูทผ้าไหมสีเทาพอดีตัว หนุ่มหล่อสมาร์ทผู้เพียบพร้อม สายตาคมดุดันดังเหยี่ยวขนตางอนยาว จมูกโด่งเป็นสัน คิ้วเข้ม ร่างแกร่งสูงโปร่งหล่อเข้มมาดขรึมเป็นที่เกรงขามของทุกคนสมชื่อ “สิงหราช”
เมื่อสิงหราช เปิดประตูออกมาภายนอกห้องนอน มีบอดี้การ์ดสวมสูทดำชายสองคนและบอดี้การ์ดหญิงหนึ่งคนคือเจ้าขายืนอยู่รออยู่หน้าห้อง เจ้าขาสวมชุดสูทสีดำกางขายาวสีดำมัดผมรวบไว้ด้านหลังดูทะมัดทะแมง ใบหน้าสวยใสไร้การแต่งเติมผิวพรรณผุดผ่องเกินใคร
บอดี้การ์ดทั้งสามก้มหน้าเล็กน้อย สิงหราชพยักหน้ารับก่อนจะเดินผ่านหน้าบอดี้การ์ดทั้งสาม เมื่อเดินผ่านเจ้าขาสายตาคมเหล่มองหางตาแล้วขมวดคิ้วเข้มสีหน้าเคร่งขรึมก่อนจะเดินลงบันได บอดี้การ์ดทั้งสามเดินตามหลังเจ้านายเพื่อลงไปยังห้องอาหาร
ณ ห้องทานอาหารใหญ่โตกว้างขวาง ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูล “ราชวิทูล”
ตระกูลเก่าแก่ผู้ร่ำรวยมั่งคั่งค้าขายทำธุรกิจระหว่างต่างประเทศมาหลายรุ่น ลูกหลานของราชวิทูลพูดได้หลายภาษาเพื่อติดต่อธุรกิจ จนถึงในปัจจุบันคือศักดาทร คือผู้รับช่วงดูแลตระกูลใหญ่นี้
ศักดาทร มีลูกชายกับภรรยาที่รักและถูกต้องตามกฎหมายเพียงคนเดียวคือสิงหราช และมีลูกกับภรรยาน้อยสามคน คือเรณุกา ปภาวี และ ชยากร ที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังเดียวกันนี้แต่แยกโซนกัน ฝั่งซ้ายเป็นของครอบครัวภรรยาน้อย ฝั่งขวาเป็นของครอบครัวภรรยาหลวงที่มีแค่ศักดาทรและสิงหราชพักอยู่เท่านั้นเพราะแม่ของสิงหราชได้เสียไปด้วยโรคร้ายตั้งแต่ลูกยังเล็ก ศักดาทรได้รับเลี้ยงลูกบุญธรรมที่มีบุญคุณกับเขาและตระกูลตั้งแต่ยังเล็ก นั่นคือเจ้าขา ผู้หญิงที่สิงหราชรักและหวงแหนเกินกว่าคำว่าน้องสาวบุญธรรม
ศักดาทรนั่งจิบกาแฟเลื่อนไอแพตอัพเดทข่าวสารต่าง ๆ สิงหราชเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะทานอาหาร เจ้าขานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามชายหนุ่ม คนรับใช้จึงนำจานอาหารเช้ามาเสริฟให้
“พรุ่งนี้พ่อต้องไปคุยงานที่สิงคโปร์สองอาทิตย์ ฝากดูแลงานทางนี้ด้วย”ศักดาทรเหลือบมองหน้าลูกชาย
“ครับพ่อ”
“สั่งเพิ่มคนดูแลคุณสิง ด้วยนะรุต”ศักดาทรหันไปหาวรุตเลขาคนสนิทของศักดาทร
“สามคนก็พอแล้วครับ พ่อไม่ต้องเป็นห่วง”สิงหราชมองบอดี้การ์ดทั้งสามคนที่คอยดูแลเขาตลอดเวลา
“ยังไม่พอ พ่อไม่ไว้ใจ!”ศักดาทรเสียงแข็งไม่ยอม สิงหราชเป็นลูกชายคนเดียวที่จะสืบทอดกิจการและทรัพย์สินทั้งหมด สิงหราชมีคนจ้องทำร้ายไม่ว่าจะเป็นเครือญาติหรือแม้แต่คนที่ขัดผลประโยชน์ ทำให้ศักดาทรเป็นห่วงลูกชายมากจึงให้มีบอดี้การ์ดติดตามตัวถึงกระนั้นก็ยังไม่วายโดนลอบทำร้ายเหมือนเดิม
ย้อนไปเมื่อ 13 ปีก่อนหน้านี้
สิงหราช อายุ 25 ปีเข้าสู่วัยเบญจเพส หมอทำนายประจำตระกูลเตือนว่าหลังจากอายุ 25 ปี บริบูรณ์ สิงหราชจะโดนลอบทำร้ายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดและจะเป็นอย่างนี้จนกว่าอายุจะครบ 40 ปี สถานการณ์ถึงจะคลี่คลายลง
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าสิงหราชจะเอาตัวรอดได้ถึงอายุ 40 ปีหรือไม่ ศักดาทรได้ยินคำทำนายถึงกับเครียดจัด ปรึกษาหาทุกวิธีที่จะปกป้องลูกชายที่รักให้รอดปลอดภัย หมอทำนายแนะนำว่าวิธีแก้คือสิงหราชต้องมีคนที่มีดวงปกป้องคุ้มครองเขามาอยู่ใกล้ตัว และคน ๆ นั้น สิงหราชจะเป็นคนเจอเอง ศักดาทรร้อนใจว่าใครกันที่จะมาช่วยลูกชายของเขา กลัวว่ากว่าจะถึงเวลานั้นลูกอาจมีอันเป็นไปเสียก่อน ศักดาทรครุ่นคิดอย่างหนักสักพักเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“ท่านครับ คุณสิงโดนลอบทำร้าย บาดเจ็บสาหัสตอนนี้อยู่โรงพยาบาล...”เสียงปลายสายของเลขาทำให้ศักดาทรนิ่งอึ้งตาแดงก่ำใจคอไม่ดีที่ลูกชายบาดเจ็บเขาช่วยลูกชายไม่ทัน ศักดาทรรีบวางสายและบอกเรื่องนี้กับหมอทำนายด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ลูกผมโดนลอบทำร้าย.....” หมอทำนายส่ายหัวไปมา หันกระดานทำนายให้ศักดาทรดู
“เลยเวลาตกฟากของบุตรชายของท่านมาหนึ่งชั่วโมงแล้ว”
“ทำไมถึงแรงนักพออายุครบก็โดนเล่นงาน อย่างนี้ลูกผมจะอยู่ถึงสี่สิบได้ยังไง”ศักดาทรใจหาย ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องเร็วขนาดนี้
“มันเป็นกรรมเก่า”หมอทำนายน้ำเสียงนุ่มลึกจนศักดาทรขนลุกรีบยกมือไหว้ก่อนจะลุกขึ้นรีบไปดูอาการลูกชาย
“เดี๋ยวก่อนคุณท่าน!”หมอทำนายเอ่ยเรียก
“มีอะไรอีก”
“คนที่มีดวงช่วยตอนนี้อยู่กับลูกชายท่าน หาให้เจอแล้วรับคน ๆ นั้นมาอยู่ด้วยยิ่งใกล้ชิดลูกชายท่านมากเท่าไหร่ยิ่งดี”
“ผมจะรู้ได้ยังไงว่าใคร”ศักดาทรหน้าเครียดโรงพยาบาลคนเยอะแยะจะรู้ได้ยังไงว่าใครเป็นใคร
“คน ๆ นั้นคือคนที่ลูกชายท่านเรียกชื่อเมื่อเขาฟื้น”หมอทำนายเน้นเสียงหนัก ศักดาทรพยักหน้ารับก่อนจะรีบเดินทางไปหาสิงหราชที่โรงพยาบาล
ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
เมื่อมาถึงโรงพยาบาล สิงหราชยังรักษาอยู่ในห้องไอซียู ศักดาทรตบหน้าบอดี้การ์ดสองคนที่สั่งให้ดูแลสิงหราชแต่ดันปล่อยลูกชายหนีออกจากบ้านไปงานวันเกิดกับเพื่อนจนเกิดเรื่อง บอดี้การ์ดก้มหน้ารับความผิดพลาด ศักดาทรโกรธจนตัวสั่นเดินกระวนกระวายนั่งไม่ติดในใจรุ่มร้อนเป็นห่วงลูกชาย
หลังจากรอเกือบสามชั่วโมง คุณหมอบอกว่าสิงหราชปลอดภัยทุกคนจึงเบาใจ สิงหราชพักรักษาตัวอยู่ในไอซียูสองวันจึงออกมาพักที่ห้องผู้ป่วย เวลาล่วงเลยเข้าวันที่สี่สิงหราชก็ยังไม่ฟื้น หมอทำนายมาเยี่ยมดูอาการสิงหราชแล้วโน้มลงกระซิบข้างหูชายหนุ่มที่หลับใหล
“กลับมา กลับมา จงกลับมา”ไม่นานนักสิงหราชกระตุกเฮือกขึ้น ร้องโวยวายลั่นห้องคล้ายตกใจสุดขีด
“หนีไปเจ้าขา หนีไป!”สายตาคมเหลือกขึ้น หายใจเข้าออกแรง ๆ ถี่ ๆ จนหอบเหนื่อยทิ้งตัวนอนสลบไปอีกครั้ง ศักดาทรหน้าเสียเมื่อเห็นอาการของลูกเลยรีบกดปุ่มเรียกพยาบาลให้ตามหมอมาดูอาการลูกชาย ก่อนที่หมอจะมาถึง หมอทำนายบีบข้อมือศักดาทรแน่นจ้องมองตาเขม็ง
“มึงต้องหาตัว อีเจ้าขา มาที่นี่ภายในสามวัน!”หมอทำนายแววตาขึงขังน้ำเสียงดุดันอย่างกับคนละคน ศักดาทรหน้าตาเหลอหลาขนลุกซู่
“เจ้าขา คือคนที่จะช่วยปกป้องลูกชายผมใช่ไหม?”
“ท่านพูดว่าอะไรนะ”น้ำเสียงหมอทำนายเปลี่ยนเป็นนุ่มนวลพร้อมกับสีหน้าที่เรียบเฉย ทำให้ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ยืนอึ้งมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ว่าเกิดอะไรขึ้น
ศักดาทรรู้ว่ามีบางอย่างแฝงหมอทำนายเพื่อบอกเรื่องสำคัญ เขารีบหันไปสั่งลูกน้องให้หาภาพกล้องวงจรปิดตามหาคนที่พาสิงหราขมาส่งโรงพยาบาลและต้องหาคนที่ชื่อเจ้าขาให้ได้ภายในสองวัน ลูกน้องรับคำสั่งเร่งออกหาตัวบุคคลนิรนามให้เจอ
เข้าสู่วันที่สาม
บริเวณสี่แยกไฟแดงเด็กผู้หญิงเนื้อตัวมอมแมมร่างกายซูบผอม ผมสั้นทรงนักเรียน เดินขายพวงมาลัยให้กับรถที่จอดติดไฟแดงคันแล้วคันเล่า พวงมาลัยก็ยังเต็มมือ ท้องฟ้ามืดครึ้มลมพัดแรงเด็กหญิงเงยมองบนฟ้าแล้วภาวนาขอฝนอย่าพึ่งตกลงมายังเหลือพวงมาลัยอีกเยอะ เพียงไม่นานของการภาวนาเม็ดฝนก็หยดลงที่แก้มขมุกขมัวแล้วโปรยปรายหนาเม็ดขึ้น เด็กหญิงถอนหายใจความเป็นตัวซวยอย่างที่พ่อแม่เคยด่าก่อนจะทิ้งไป เด็กหญิงทรุดนั่งก้มหน้าน้ำตาไหลตากฝนอยู่ที่เกาะกลางถนนมือน้อยเอาพวงมาลัยหลบไว้ในกล่องพลาสติก ถึงยังไงวันนี้ก็ต้องขายให้หมดไม่อย่างนั้นจะไม่มีเงินซื้อยาไปให้ยายที่นอนป่วย
ร่างหนากางร่มคันใหญ่เดินฝ่าสายฝนเข้ามาใกล้แล้วหยุดมองเด็กหญิงเนื้อตัวเปียกปอน เด็กหญิงเงยหน้ามองชายร่างใหญ่ด้วยแววตาเศร้าหมอง
“หนูชื่อว่าอะไร”เสียงทุ้มเปล่งออกมา แม้จะเป็นคำถามเรียบง่ายแต่น้ำเสียงนั้นกังวานมีอำนาจ
“หนูชื่อเจ้าขา....”เด็กหญิงเสียงแผ่วเบาตัวสั่นคิดว่าเป็นพวกเก็บส่วย วันนี้เธอไม่มีเงินให้ใครรีดไถ เด็กน้อยกวาดสายตามองรอบ ๆ หาทางหนีเมื่อสัญญาณไฟเขียวเปลี่ยนเป็นไฟแดงร่างเล็กก็รีบยกกล่องพลาสติกวิ่งหนีข้ามทางม้าลายไปหน้าตาตื่นพอเท้าแตะฟุตบาทอีกฝั่งก็ถูกชายร่างใหญ่อีกคนคว้าตัวไว้เด็กหญิงสะบัดตัวดิ้นรนจะหนี ชายร่างหนาจากเกาะกลางเดินมาเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อน แล้วย่อตัวลงมองหน้าเด็กหญิง
“หนูช่วยลูกชายฉันไว้ ได้โปรดไปช่วยเขาอีกครั้ง......”เสียงทุ้มสั่นเครือ แม้หน้าตาจะดูดุดันแต่แววตานั้นเศร้าคล้ายอ้อนวอน
“พี่สิง เป็นลูกคุณลุง?”เด็กหญิงตาโตด้วยความสงสัย คำถามของเด็กหญิงทำให้ศักดาทรรู้ว่านี่คือเจ้าขาตัวจริง ไม่ผิดตัว...
เจ้าขาเปลี่ยนเสื้อผ้ามาโรงพยาบาลพร้อมกับศักดาทร เด็กหญิงเดินเข้าไปในห้องเห็นสิงหราชนอนนิ่งสายระโยงระยางเต็มตัว เจ้าขาวิ่งเข้าไปมองแล้วร้องไห้โฮสงสารผู้มีพระคุณ สิงหราชเป็นพี่ชายที่แสนดีคอยช่วยเหลือเจ้าขากับยายมาตลอด ในวันเกิดเหตุเจ้าขาเห็นว่าสิงหราชโดนทำร้ายกำลังถูกแทงเด็กหญิงวิ่งหน้าตั้งร้องตะโกนให้คนช่วยแล้วหยิบไม้ข้างทางฟาดคนร้ายจนมันหันมาโดนตบหน้าแล้วผลักเจ้าขากระเด็นหงายหลังก้นกระแทกพื้น สิงหราชตะโกนไล่ให้เจ้าขาหนีไป แต่เด็กหญิงไม่ยอมเข้าไปทุบตีคนร้าย คนร้ายโมโหหันมาบีบคอเจ้าขาแน่น เด็กหญิงหายใจรวยระริน สิงหราชพยายามลุกขึ้นเอามือกุมแผลหยิบไม้ฟาดคนร้ายจนมันคลายมือออกจากคอเจ้าขา แล้วหยิบมีดจ้วงแทงสิงหราชซ้ำอีกสองที เจ้าขากรีดร้องแทบขาดใจหันไปเห็นหมาจรจัดที่เคยให้ข้าวกินสองตัวยืนดูอยู่ไกลๆ เจ้าขาลุกขึ้นรัดแขนคนร้ายที่จะแทงสิงหราชซ้ำ
“กัดมัน! กัดมัน!”เจ้าขาตะโกนสุดเสียง หมาสิงตัวเห่าเสียงดังวิ่งเข้ามารุมกัดคนร้ายจนมันปล่อยคอเสื้อสิงหราช ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด สิงหราชทรุดตัวนอนลงบนพื้นคอนกรีตมองเจ้าขากำลังรัดแขนคนร้ายกับหมาที่รุมกัดคนร้ายไม่ปล่อยกลุ่มคนวิ่งเข้ามาช่วยเจ้าขากับสิงหราช ส่วนคนร้ายอาศัยจังหวะชุลมุนวิ่งหนีไปได้ เจ้าขาเข้ามาประคองหัวของสิงหราชร้องไห้น้ำตาไหลอาบหน้า
ณ โรงพยาบาล
ศักดาทรได้ตัวเด็กหญิงมาแล้วแต่ลูกชายก็ยังไม่ฟื้นจึงโทรติดต่อกับหมอทำนาย
“ผมหาเจ้าขาเจอแล้วต้องทำยังไงต่อ”
“ให้จับมือสิงหราช กระซิบข้างหูว่า กลับมา”หมอทำนายบอกวิธี ศักดาทรรีบบอกเจ้าขาให้ทำตาม เจ้าขาแตะมือน้อยลงบนฝ่ามือใหญ่ของสิงหราชแล้วกระซิบข้างหู
“กลับมา กลับมา ฮือๆๆ พี่สิง กลับมา เจ้าขาปลอดภัยแล้วนะ ตื่นมาดูเจ้าขาสิ”เสียงหวานสะอื้นน้ำตาไหลเมื่อร่างแกร่งยังสงบนิ่ง ศักดาทรน้ำตาไหลท้อแท้ทำทุกวิถีทางลูกก็ยังไม่ฟื้นและวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายหากไม่ฟื้นเขาต้องเสียลูกชายไปตลอดกาล...............เด็กหญิงร้องไห้ฟูมฟายเสียใจจ้องหน้าสิงหราชแล้วหลับตาภาวนา
“ความซวยที่มีมาตั้งแต่เกิด หนูพร้อมรับมันไม่ว่าจะซวยอีกแค่ไหน ขอแค่พี่สิงฟื้นขึ้นมา จะซวยกว่านี้หนูก็ยอม”
“เจ้าขาหนีไป!”สิงหราชกระตุกเฮือกตะโกนลั่นห้อง สายตาคมเบิกโพลงนอนหายใจหอบเหนื่อยมองทั่วห้องเห็นพ่อกับเจ้าขามองหน้าเขาอึ้งๆ
“ฟื้นแล้ว ๆ สิงลูกพ่อ!”ศักดาทรดีใจยิ้มทั้งน้ำตาโผกอดร่างลูกชายแน่น เจ้าขาร้องไห้ตื้นตันนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่การภาวนาได้ผลผู้มีพระคุณฟื้นแล้ว นอกจากเขาฟื้นความซวยของเจ้าขาก็คงได้ผลมากขึ้นด้วย
“พ่อ.....”เสียงแผ่วเบาที่เปล่งออกมากทำให้ศักดาทรกอดลูกแน่นขึ้น ก่อนจะผละมองหน้าลูกชายที่ยิ้มให้อย่างอ่อนแรง...

