ตอนที่ 3 เผลอไม่ได้คุณพี่แซะเก่ง
ณ คฤหาสน์หรู เช้าวันเสาร์
สิงหราชอยู่ในห้องครัวเย็นทำชาเขียวมัทฉะ แบบญี่ปุ่น เขาใส่ผงชาในที่กรองค่อยๆ เกลี่ยให้ผงชาเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อน
“พี่สิง ทำอะไรอยู่คะ”เจ้าขาส่งเสียงสดใสมาก่อนที่ตัวจะโผล่เข้ามา
“ชงชามัทฉะ”สายตาคมเล่ห์มองเธอเล็กน้อยในวันหยุดเธอจะปล่อยผมยาวสลวยอย่างที่เขาชอบ ร่างบางเดินเข้าใกล้มายื่นหน้ามองวิธีการทำแสนละเอียดอ่อน
“พิถีพิถันสุด เอาน้ำร้อนใส่ก็จบไหมคะ”
“แบบนั้นมันหยาบไป”มือหนาหยิบขวดน้ำร้อนรินใส่ถ้วยที่มีผงชา เอาแปรงไม้ไผ่จุ่มสะบัดเป็นรูปตัวเอ็ม อยู่สิบห้าวินาทีจนขึ้นเป็นเนื้อโฟมจากนั้นสะบัดแปรงเป็นรูปวงกลม เอาแปรงไม้ไผ่ออก มือหนายื่นถ้วยชาให้เจ้าขายกถ้วยชิมชาทันที
“หืม อร่อยจัง”หน้าสวยหลับตาพริ้ม เขายิ้มกว้างกับท่าทางเกินจริงของยายตัวน้อย
“กินของอร่อยต้องใจเย็นๆ...อยากลองทำบ้างไหม”
“อยากทำค่ะ...”หญิงสาวยิ้มแย้มเข้าไปใกล้ร่างแกร่ง เขาสอนให้เธอรินน้ำร้อนล้างแปรง ตักผงชาร่อนในตระแกรงรินน้ำร้อนลงชาแล้วสะบัดแปรงไม้ไผ่ในถ้วยชาเป็นรูปตัวเอ็ม เจ้าขาทำเก้ ๆ กัง ๆ ถนัดจับปืนมากกว่า ร่างแกร่งอ้อมประกบหลังมือหนากุมมือบางช่วยสะบัดแปรงไม้ไผ่สองกายแนบชิด ลมหายใจอุ่นรดแก้มเนียนต่างคนต่างอมยิ้มกับสัมผัสแนบชิด
“ยกแปรงขึ้นอย่าใกล้ก้นชาม”เสียงทุ้มพูดแผ่วเบา
“ใกล้ไปไหมคะ”
“กำลังดี ชาเริ่มเป็นเนื้อโฟมแล้ว”
“พี่สิงใกล้เจ้าขาไปไหมคะ....”สายตาหวานเหล่มองแล้วอมยิ้ม หน้าหล่อเอียงมองใกล้ชิดสบสายตากันนิ่งงัน เจ้าขาเขินหน้าร้อนผ่าวรีบหน้าหันหนีสายตามีเสน่ห์ของเขา ก้มหน้างุดสะบัดแปรงในถ้วยชาต่อ ชายหนุ่มค่อย ๆ ถอยออกแล้วมองหญิงสาวจนเธอทำชาเสร็จแล้วยื่นส่งให้เขา มือหนายกถ้วยชาดื่ม เจ้าขาก็ยกชาอีกถ้วยดื่มเช่นกัน
“ชาเลอะมุมปาก”สิงหราชส่ายหน้า ยกนิ้วขึ้นจะเกลี่ยออกจากมุมปากแต่เจ้าขาแลบลิ้นเลียมุมปากเสียก่อน หน้าคมอ้าปากค้างกระดกลิ้นตามเคลิบเคลิ้มราวกับเป็นคนเลียมุมปากนั้นเสียเอง
“พี่สิง”เจ้าขาเอ่ยเรียกเมื่อเขานิ่งไป
“หื้ม....”
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“เปล่าไม่มีอะไร พี่ออกไปก่อนนะเอาอุปกรณ์ไปวางที่อ่างล้างด้วย”ชายหนุ่มสายตาหลุกหลิกผิดปกติ เจ้าขารู้ทันอมยิ้มมองเขาเดินออกไปจากครัว
หญิงสาวก้มมองชามและอุปกรณ์ที่วางเกลื่อนกลาดเขาตั้งใจหนีให้เธอเก็บ ดื่มชาแก้วเดียวเก็บอุปกรณ์อย่างเยอะแต่ก็สุขใจได้อยู่ใกล้กับพี่สิงสุดที่รัก มือเรียวทยอยเก็บอุปกรณ์อมยิ้มมีความสุข สิงหราชเดินกลับมาเห็นเธอยิ้มเลยแซวเล่น
“ยิ้มอะไร” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทำเอาเจ้าขาสะดุ้งหันมองเคืองออกไปแล้วยังจะวกมาแกล้งอีก
“ลืมบอกว่าบ่ายนี้จะพาไปซื้อน้ำหอมขวดใหม่ เตรียมตัวด้วย”หน้าคมยกยิ้มมุมปากเดินสบายใจออกไปจากห้องครัว หญิงสาวทำปากยื่นยาวหมันไส้....
ชายร่างใหญ่ผิวดำสวมโจงกระเบนรอยสักเต็มกาย กำลังจมดิ่งลงใต้น้ำเขาไม่ตะเกียกตะกายทั้งที่อึดอัดขาดอากาศหายใจ
“ยกโทษให้พี่ที่ช่วยเจ้าไว้ไม่ทัน ชาติหน้าพี่จักคุ้มครองเจ้าสุดลมหายใจสุดท้าย อภัยให้พี่ด้วย”เสียงกังวานชัดเจนแม้ชายคนนั้นปิดปาก สิ้นคำพูดนั้นดวงตาก็เบิกโพงแดงก่ำ เจ้าขาสะดุ้งเฮือกตื่นจากความฝันสีหน้าหวาดกลัว หายใจหอบเหนื่อยรู้สึกอึดอัดเหมือนตัวเองกำลังจมน้ำไปกับชายในความฝัน
“ฝันร้าย?”เสียงของสิงหราชเรียกสติเธอหันไปมองเขาด้วยแววตาสับสนมือบางเอื้อมไปกุมมือเขาแน่น สายตาหวานมองไปรอบตัว ตอนนี้เธออยู่บนรถตู้ที่กำลังพาไปห้างสรรพสินค้า สิงหราชกังวลเจ้าขาไม่ค่อยแสดงอาการหวาดกลัวบ่อยนัก
“น้องฝันเห็นผู้ชายกำลังจมน้ำ”เสียงหวานสั่นเครือความฝันนั้นคล้ายความจริงทำให้ใจคอไม่ดี
“ปกติจะฝันเห็นผู้หญิงจมน้ำนี่”สิงหราชขมวดคิ้วสงสัย
“ใช่ค่ะแต่วันนี้แปลก....น้องได้ยินผู้ชายคนนั้นพูดว่า ชาตินี้ช่วยไม่ได้ ชาติหน้าคุ้มครอง ประมาณนี้....”สายตาหวานสั่นระริกคิดทบทวนเรื่องที่ฝัน
“ดูละครมากไปหรือเปล่า”
“พี่สิง...”เจ้าขาทำเสียงหงุดหงิดที่เขาล้อเลียนทั้งที่รู้ว่าเธอไม่ดูละคร
“ไม่อยากให้เครียดไง”เขามองอย่างเอ็นดู ยกมือขึ้นจับหัวเธอขยี้ไปมา
“น้องรู้สึกไม่ค่อยดี เรากลับบ้านก่อนได้ไหม”
“ไม่มีอะไรหรอก จะถึงห้างแล้วซื้อของแป๊บเดียวก็กลับ”เขายังยืนกรานที่จะไปห้าง ในขณะที่เจ้าขาสีหน้าเป็นกังวลไม่ค่อยสบายใจ
ห้างสรรพสินค้าหรู
สิงหราชเทสน้ำหอมแต่ละเคาเตอร์แบรนด์หากลิ่นที่เขาชอบ หากไม่ถูกใจจะให้เจ้าขาใช้กลิ่นเดิมที่หอมดีอยู่แล้ว เจ้าขาหวาดระแวงมองซ้ายมองขวาทั่วห้าง วันนี้บอดี้การ์ดทุกคนใส่ชุดไปรเวทสบาย ๆ รวมถึงเจ้าขาที่ใส่ชุดแซกกระโปรงยาวคลุมเข่าสวมรองเท้าส้นสูงนิดๆ ปล่อยผมยาวสลวยเต็มหลังเธอดูน่ารักอ่อนหวานต่างกับตอนเป็นบอดี้การ์ดราวกับคนละคน
สิงหราชมองเจ้าขาที่ดูหวาด ๆ เลยจับข้อมือเรียวไปฉีดน้ำหอมเทสกลิ่นไม่อยากให้เธอกังวลเกินไป บอดี้การ์ดสี่คนยืนอยู่ข้างๆ เหมือนเป็นกลุ่มเพื่อนที่มาเที่ยวด้วยกัน เจ้าขาเทสกลิ่นน้ำหอมกับสิงหราชทั้งดมแผ่นเทสและฉีดลงข้อมือผลัดกันดมกลิ่นกระหนุงกระหนิงอย่างคู่รัก ขณะนั้นมีสายตาคมคู่หนึ่งกำลังจับจ้องคนทั้งสอง
เมื่อเลือกซื้อน้ำหอมเสร็จ เจ้าขาเดินแยกไปซื้อเครื่องสำอางระหว่างรอพนักเอาเครื่องสำอางไปคิดเงิน ร่างแกร่งของคน ๆ หนึ่งก็เดินมาใกล้ เจ้าหันขวับทันที
“วิท”เจ้าขาเอ่ยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ไงเจ้าขา....”วิทยาหนุ่มหล่อมาดดียกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“กลับมาจากต่างประเทศเมื่อไหร่”
“เมื่อต้นเดือน พ่อตามให้เรากลับมาเรียนรู้งานที่บริษัท”
“ตั้งใจทำงานนะ สู้ ๆ ”เจ้าขายิ้มหวานพอดีกับพนักงานนำถุงเครื่องสำอางมาส่งให้ เธอหันไปรับถุงแล้วหันมาบอกลาวิทยาเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน
“เราขอตัวก่อนนะเจ้านายรออยู่”หญิงสาวหันหลังเดินไปหาสิงหราชที่รออยู่ในร้านคอฟฟี่ช็อป วิทยาเดินตามหลังมาเจ้าขารู้ตัวหันไปมองแปลกใจ
“มีอะไรหรือเปล่า”
“เราไปอยู่ต่างประเทศเพราะทำใจไม่ได้ เรื่องที่เจ้าขาชอบผู้หญิงจนวันนี้ถึงได้รู้ว่าเราถูกหลอก”สายตาคมมองอย่างตัดพ้อ เจ้าขาชะงักกับเรื่องที่เธอเคยโกหกว่าชอบผู้หญิงเพื่อไม่ให้วิทยาตามจีบ
“เรื่องนั้นมันนานมากแล้วนะ”
“นานจนเจ้าขาเปลี่ยนจากชอบผู้หญิงมาชอบผู้ชาย หรือว่าไม่เคยชอบผู้หญิงแต่ชอบเจ้านายตัวเองมานานแล้ว”เท้าหนาก้าวเดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ คำถามยียวนนั่นทำให้เจ้าขาไม่พอใจ
“อย่าพูดเรื่องไร้สาระ”เจ้าขาจ้องตาเขม็งทำขุ่นเคืองไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอหลงรักสิงหราช
“เจ้าขารักผู้ชายคนนั้น ถึงไม่แสดงออก แต่ปิดสายตาที่มองคนรักไม่ได้.......”หน้าเข้มก้มหน้ามองสายตาหวานใกล้ ๆ อย่างรู้ทัน เจ้าขาตกใจที่เขารู้ว่าเธอชอบเจ้านายจากสายตาของตัวเอง หญิงสาวทำหน้าตึงพยายามเก็บความรู้สึกจ้องตาวิทยากลับนิ่ง ๆ หนุ่มสาวจ้องมองกันนิ่ง ภาพนั้นทำให้สิงหราชที่เดินมาเห็นไม่พอใจ
“เสร็จธุระหรือยัง”สิงหราชหน้าตาขึงขังน้ำเสียงดุดัน วิทยาหันมองแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม เจ้าขาสะดุ้งถอยหลังออกห่างจากวิทยาก่อนจะเดินมาหาสิงราช
“เรียบร้อยแล้ว ไปกันเถอะค่ะ”หญิงสาวอึกอักเมื่อเห็นสิงหราชมองเคืองสิงหราชมองวิทยาอีกครั้งก่อนจะเดินไปจากตรงนั้น เจ้าขารีบเดินตามร่างแกร่งไปติด ๆ วิทยายกยิ้มมุมปากมองคนทั้งสองเดินไปด้วยกัน เขาคิดว่าความรักของสองคนนั้นเป็นไปไม่ได้ ครอบครัวราชวิทูลเป็นผู้ดีเก่าร่ำรวยไม่ทางให้เจ้าขาเป็นสะใภ้เด็ดขาด วิทยารู้สึกลำพองใจ หากเมื่อไหร่ที่สิงหราชโดนจับคู่กับผู้หญิงที่มีฐานะและเกียรติเท่าเทียม เจ้าขาจะอกหักและเขาจะจีบเธอทำให้หลงรักเพื่อทิ้งขว้างทำให้เธอเจ็บเหมือนที่เขาเคยเจ็บ........
