บทที่ 5
ผลประโยชน์
“หึ คนที่เห็นแก่ผลประโยชน์ อาจจะไม่ใช่กูก็ได้” เขาหัวเราะเสียงเย็น หมายไปถึงเจ้าสาวของเขา
“พูดอย่างนี้ หมายความว่ายังไงวะไอ้ปุ่น”
“ก็นั่นนะสิ มึงพูดมีเลศนัยนะเนี่ย”
“ก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละ มึงคิดว่ามันหมายถึงอะไร ก็คิดไปตามนั้นก็แล้วกัน” เขาบอกปัด ๆ ไปอีกครั้ง
“โอ้โห” เพื่อนอีกคนอุทานออกมา
“แสดงว่า มึงถูกบังคับให้แต่งงานรึเนี่ย”
เพื่อน ๆ พากันทำตาโต และจ้องมองเขาเป็นตาเดียวกัน
“พ่อคาสโนว่าของเราหมดอิสรภาพซะแล้ว อุตส่าห์หลีกหนี และหาวิธีการที่จะไม่แต่งงาน แต่สุดท้ายก็ต้องจนมุมจนได้”
ปุลวัชรรีบโบกมือ
“เฮ้ย! พวกมึงหยุดวิพากษ์วิจารณ์ได้แล้วนะ ไม่งั้นกูจะไล่พวกมึงกลับบ้านให้หมด” เขาชี้หน้าเพื่อน เริ่มมีอารมณ์โกรธ
“อุ้ย ไม่เอาแบบนี้สิครับ พวกผมยังไม่เมากันเลยครับ”
“ใช่ พวกกูยังไม่เมา”
“ถ้าอย่างนั้น พวกมึงก็ยกแก้วเหล้า แล้วก็หุบปากเน่า ๆ ไปซะ”
“ได้เลยครับคุณปุ่น พ่อมหาจำเริญ ขอให้พ่อมีความสุขกับเจ้าสาว และรีบมีลูกไว ๆ นะขอรับ” เพื่อนอีกคนแซว
ทุกคนจึงพากันหัวเราะครื้นเครง แล้วพวกเขาก็หันมาสนใจเครื่องดื่มตรงหน้า จากนั้นก็เปลี่ยนเรื่องไปนินทาถึงสาว ๆ ที่พวกเขาควง และพบเจอกันต่อ
“จากนี้ไป คุณปุลวัชรก็ต้องใช้ชีวิตไปกับคู่แต่งงาน และคงจะเลิกควงสาว ๆ และเลิกปี้สาว”
ปุลวัชรเงยหน้ามองคนที่พูด “แต่งงานมันก็ส่วนแต่งงาน แต่ชีวิตและความสุขของกู ก็ยังคงดำเนินต่อไปโว้ย”
“ไอ้คุณปุ่นครับ พูดอย่างนี้ ระวังเจ้าสาวจะมาได้ยินนะครับ แล้วเธอจะเสียใจ”
“ช่างปะไร” ปุลวัชรคงจะเริ่มเมา
“กลิ่นตุ ๆ ลอยมาแล้วเว้ย”
“เอาแบบนี้ดีไหม ไอ้ปุ่นเพื่อนรัก” เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มเอ่ยขึ้น
“อะไร” ปุลวัชรหันควับ
“เจ้าสาวของมึงสวยมากขนาดนางฟ้าเดินดิน ถ้าวันไหนถูกมึงเท กูขอนะ”
“ไอ้เชี่ย” ทุกคนพากันชี้หน้าไอ้คนพูด ทำท่าโกรธเหมือนเป็นปุลวัชรเอง เพื่อนคนนั้นเริ่มรู้ตัว
“ไอ้เชี่ย มึงพูดแบบนี้ได้ไงวะ ประเดี๋ยวไอ้ปุ่นมันก็ชกมึงหน้าแหกหรอก” อีกคนสำทับ
เพื่อนคนนั้นรีบยกมือไหว้ “ขอประทานโทษครับ ผมปากพล่อย” แล้วเขาก็ตบปากตัวเองไปหลายที
“นี่ไอ้ปุ่น สาว ๆ ของมึงมีใครรู้เรื่องนี้บ้างวะ” ทุกคนไม่เห็นเพื่อนสาวคนสนิทของปุลวัชรในงานนี้เลย
“บอกก็โง่น่ะสิ ใช่ไหมวะไอ้ปุ่น” เพื่อนอีกคนเป็นคนพูด และตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะ
“กูว่าพวกมึงเนี่ย ไม่มีใครอยากแดกเหล้าจริง ๆ ใช่ไหม” ปุลวัชรว่ากระแทก
“ขอโทษครับ ขอโทษ พวกกูจะไม่พูดเรื่องแบบนี้ให้แสลงหูคุณปุลวัชรอีกแล้วครับ มาพวกเรา มาฉลองความโสดให้กับไอ้ปุ่นเป็นคืนสุดท้าย”
“ขอให้เจ้าภาพจงเจริญ”
“ไชโย ไชโย ไชโย”
ปุลวัชรออกอาการเซ็ง เขายกแก้วเหล้าขึ้นดื่มแก้วแล้วแก้วเล่า จนออกอาการเมาคอพับ
“กูว่าพวกมึงใครก็ได้ ไปส่งไอ้ปุ่นเข้าห้องหอ ขืนมันแดกมากแบบนี้ มันไม่ได้แอ้มเจ้าสาวในคืนแรกของการแต่งงานแน่” เพื่อนคนหนึ่งจึงเอ่ยว่า
“ใช่ กูว่าพวกเราย้ายไปต่อกันที่ผับกันเถอะว่ะ กูนัดน้องสาวเอาไว้”
“น้องสาวคนไหนวะ”
“น้องสาวท้องติดกันหรือเปล่า” ทุกคนหยอกเย้ากันสนุกสนาน
ปุลวัชรทำท่าจะลุกขึ้นยืน เพื่อนคนนั้นก็เอามือแตะไปที่หน้าอกของเขา
“ส่วนมึง เดี๋ยวกูจะให้ไอ้พีกับไอ้เคไปส่งที่หน้าห้องหอ มึงจะได้ไปขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ส่วนพวกกูจะไปต่อกันข้างนอกเลย อ้าว… เพื่อนฝูงยก แก้วสุดท้ายอวยพรให้ไอ้ปุ่น” ชูแก้วขึ้น พร้อมกับดื่มเป็นคนแรก
“พวกมึงไปเจอกันที่หกเก้าฟิตฟิตนะโว้ย ไปเมาแบบหมากัน” เรียกเสียงหัวเราะได้อีกครั้ง
“ok”
“ตกลงว่ะ”
“Let's go”
แล้วหนุ่ม ๆ ก็พากันแยกย้าย
พีพีกับเควินเดินเข้ามาหิ้วปีกของปุลวัชร
“มึงเมาหรือเปล่าเนี่ยไอ้ปุ่น ทำไมตัวหนักจัง” เควินถาม
“กูไม่เมา”
“เอ่อ… เขาว่าคนเมามักจะตอบว่าตัวเองไม่เมา”
“กูไม่เมา” ปุลวัชรเถียง
“โอเค… ไม่เมาก็ไม่เมา ผมขอให้ไอ้คุณปุ่นมีความสุขในคืนเข้าหอนะครับ แล้วมาเล่าให้กูฟังด้วยนะเว้ยว่า สวรรค์ตรงโน้นเป็นอย่างไรบ้าง”
“ถ้ามันดีสุดยอด มึงจะแต่งหรือไง”
“เปล่า ก็แค่อยากรู้ความรู้สึกฟิต ๆ”
“ไอ้เชี่ย”
ทั้งสองคนมาส่งปุลวัชรที่หน้าห้องหอ พีพีเคาะไปที่ประตูห้อง นุชพินตาที่อยู่ในห้องรอคอยการมาของปุลวัชร อยู่แล้ว เธอรีบกระชับเสื้อคลุม แล้วเดินมาที่ประตูห้อง
“ใครคะ”
“ผมมาส่งเจ้าบ่าวครับ” เอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ
เธอรีบเปิดประตูออกมาในทันที ตอนนี้ใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอางจ้องมองชายแปลกหน้า ดูการแต่งตัวเธอก็รู้ว่าเป็นเพื่อนของปุลวัชร นุชพินตารีบยกมือไหว้ ก่อนจะรีบรับร่างของปุลวัชรเอาไว้
“ขอบคุณมากค่ะที่มาส่งพี่ปุ่น”
“ไม่เป็นไรครับ”
“ผมขออวยพรให้คุณกับปุ่นมีความสุขกันมาก ๆ นะครับ” ตั้งใจกล่าวอวยพร
“กลับนะครับ” ทั้งพีพีและเควินพากันโบกมือ
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” เธอรีบพาเข้าไปด้านใน
พีพีช่วยปิดประตู แถมล็อกกลอนให้ด้วย
นุชพินตาได้ทั้งกลิ่นเหล้าหึ่ง และได้เห็นสภาพของเขาที่ยืนแทบไม่ได้
‘ทำไมเมามากอย่างนี้นะ ดื่มไม่บันยะบันยัง ดื่มแบบไม่รู้ตัว วันนี้วันแต่งงานแท้ ๆ เขาก็ยังเอานิสัยเดิม ๆ มาใช้’ เธอบ่นเขาอยู่ในใจ
หญิงสาวประคองเขาไปนั่งที่เตียง
“พี่ปุ่นจะอาบน้ำก่อนไหมคะ”
“อาบสิถามได้ เหนียวตัวจะแย่แล้ว” คนที่เมาลุกขึ้นแล้วเดินโซซัดโซเซตรงไปที่ห้องน้ำ นุชพินตามองตาม เขาเดินไปอย่างชำนาญ
