บท
ตั้งค่า

ตอนที่4

ชมพูอ้าปากค้างสมองคิดทวนคำว่า ‘คุณผู้หญิงบ้านนี้’ ซึ่งเจ้าของบ้านคือฐานทัพ!

เมื่อประมวลคำพูดของป้าพวงได้ ตากลมโตที่กรีดสีดำจนดูคมดุเบิกกว้างจนดูดุดันกว่าเดิม มองปรายฝนตาเขม็ง

“ป้าพวงอำชมพูเล่นหรือเปล่าคะ”

คำถามที่ประคองน้ำเสียงไม่ให้สั่นถามซ้ำ …ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง เพราะผู้หญิงตรงหน้า แม้จะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าธรรมดา ใบหน้าไร้สีสันจนดูจืดชืด หากแต่เมื่อมองดูดีๆ หล่อนมีความหวานละมุนน่าทะนุถนอม

กระนั้นชมพูก็ไม่อยากเชื่อ ว่าฐานทัพจะยอมสละความโสด ที่เจ้าตัวหวงแหนมานานหลายปีได้ และผู้หญิงที่คู่ควร ควรเป็นเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ไหนก็ได้!

“ป้าถึงถาม ว่าคุณชมพูหายไปไหนเสียนาน คุณฐานทัพเลยไม่ได้เชิญไปร่วมงานแต่งครั้งนี้เลย”

ใบหน้าที่แต่งไว้ด้วยเครื่องสำอางอย่างดีส่ายไปมา …เป็นไปไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยได้ข่าวคราวในรายชื่อผู้หญิงของฐานทัพเลย!

“คุณฐานทัพอยู่ไหน…” ครานี้น้ำเสียงของเธอตึงขึ้น โดยสายตากวาดไปรอบห้องโถง “อยู่ในห้องทำงานใช่ไหม” เธอไม่รอคำตอบจากใคร ก่อนจะก้าวไปยังห้องที่รู้ดีว่าอยู่ส่วนไหนของบ้านหลังใหญ่

ปรายฝนยืนนิ่งอยู่กับที่ด้วยใจเต้นระทึก เอาแล้วไง!

“มีธุระไรกับผมงั้นเหรอ”

เสียงทุ้มดังอยู่ที่ไหนสักแห่งก่อนที่เจ้าตัวจะโผล่หน้าออกมาจากมุมห้อง…

เจ้าสาวมือใหม่ให้ถูกใจทั้งหมดคงไม่ได้

ชมพูหยุดชะงัก แล้วเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ฐานทัพ

“ป้าพวงบอกว่าคุณแต่งงานแล้ว” น้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง พร้อมหันไปยังปรายฝนที่ยังยืนอยู่ที่เดิม

ฐานทัพมองตามสายตาของผู้หญิง ที่เขาไม่สามารถให้สถานะอื่นได้นอกจากน้องสาว ซึ่งเป็นลูกสาวของเพื่อนร่วมธุรกิจ

“ป้าพวงบอกนะถูกแล้ว” เขายืนยันแล้วเดินตรงไปหาปรายฝน

ปรายฝนกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อวงแขนแกร่งวาดกอดรอบเอวของเธอประหนึ่งยืนยันให้อีกฝ่ายเห็นว่าเรื่องจริง ผู้หญิงคนนี้คือคนของเขา!

แม้จะไม่สะดวกให้อีกฝ่ายโอบกอด แต่ปรายฝนกลับไม่ปฏิเสธหรือขัดขืนการกระทำของสามีในนามแต่อย่างใด

ซึ่งการกระทำของเธอสร้างความอิ่มเอมและชื่นชมจากฐานทัพอยู่ในใจ

มันไม่ผิดใช่ไหม ที่เขาเลือกความพอใจของตัวเองเป็นที่ตั้ง!

หลังจากที่เห็นว่าฐานทัพมีแขก ซึ่งเป็นคนพิเศษของเขาปรายฝนจึงแยกตัวออกมากับป้าพวงเพื่อช่วยงานในครัว

ในการไม่ถือเนื้อถือตัวของเธอทำให้คนอยู่ใกล้ชิดไม่รู้สึกอึดอัด กล้าพูดคุยอย่างเป็นกันเอง เช่นเดียวกันกับปรายฝนที่พร้อมเปิดใจรับไมตรีจากทุกคน

หลังจากเสร็จงานในครัว ปรายฝนออกไปเดินดูบรรยากาศรอบบ้านหลังใหญ่ ระหว่างนั้นเธอก็เดินไปเรื่อยๆ จนเห็นบ้านปูนหลังกะทัดรัดที่ปลูกสร้างแยกห่างออกมา โดยด้านหน้าบ้านพักมีชายฉกรรจ์นั่งอยู่หลายคน ด้วยความตกใจปรายฝนเตรียมเดินหลบไปทางอื่น แต่หนึ่งในนั้นก็ตะโกนทักทายมาเสียก่อน

“สวัสดีครับคุณปรายฝน”

น้ำเสียงนั้นทักมาอย่างกับว่าคุ้นเคยกันดี ปรายฝนจึงเพียงส่งยิ้ม รับคำทักทายก่อนจะถอยหลังเพื่อหลบออกไป แต่แล้วแผ่นหลังของเธอก็ชนกับอะไรบางอย่างไปเต็มๆ

ไม่แข็งแต่ก็ไม่ขยับ “อุ๊ย!”

“อีกแล้วนะครับ…” เสียงทุ้มหนักเปรยขึ้นพร้อมกับวงแขนรวบเอวคอดของเธอไว้แน่นไม่ปล่อย โดยปรายฝนจำสัมผัสได้ดี รีบดีดตัวออกแต่เขากลับรัดแน่นขึ้น

ปรายฝนกลืนน้ำลายลงคอ ใจก็หวาดหวั่น อีกทั้งมีสายตาหลายคู่มองมา ยิ่งทำให้เธอทำตัวไม่ถูก ปรับอารมณ์แทบไม่ทัน

“ปล่อยค่ะ” เธอบอกในขณะที่ประคองน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด

“คุณถอยมาชนผมเองนะ” เสียงทุ้มฟังดูระรื่นมากกว่าหงุดหงิด

“ก็ไม่ได้ตั้งใจค่ะ แล้ว ไม่คิดว่าคุณจะเดินอยู่ด้านหลังนี่คะ”

“เถอะ… ไม่ตามมา จะเห็นเหรอว่าคุณเดินมาอ่อยลูกน้องผม”

“บ้า!” ครานี้เธอเสียงแข็งใส่เขา เมื่อพูดไม่เข้าหู

“คนบ้าอะไร สุภาพบุรษสะขนาดนี้”

“งั้นปล่อยสิคะ”

“สามีกอดนิดกอดหน่อยก็ไม่ได้”

“อายบ้างไหมคะ”

“อายทำไม ไม่มีใครแอบดูสักหน่อย อีกอย่างคนที่อยู่ด้วยก็คนของผมทั้งนั้น” แล้วมองไปยังลูกน้องที่ตอนนี้ก้มหน้าไม่กล้าสบตากัน

“แล้วนี่แขกของคุณกลับไปแล้วหรือคะ”

“ยัง… ว่าแต่คุณหึงหรือเปล่า”

“อะ หึง? ทำไมต้องหึงในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกัน”

“ผมน้อยใจได้ไหมเนี่ย”

“เรื่อง?”

“เมียไม่สนใจ!”

คำพูดและการกระทำของฐานทัพประหนึ่งสามีครั่งรักเมีย แต่ในกรณีนี้ ปรายฝนคิดว่ามันไม่ใช่ เธอเพียงเจ้าสาวผลัดมือและรอหย่าจากเขาก็เท่านั้น!

ปรายฝนคร้านจะเถียง แล้วค่อยๆ แกะนิ้วที่เหนียวแน่นไม่มีทีท่าว่าจะหลุดออกจากเอวอย่างยากลำบาก

“อย่าไปพูดแบบนี้ต่อหน้าใครนะครับ” เสียงทุ้มแผ่วบอก แล้วเป็นเขาที่ปลดแขนทั้งสองข้างออกจากเอวคอดเอง โดยที่เธอไม่มีโอกาสได้เห็นแววตาผิดหวังของผู้ชายอย่างฐานทัพ ผู้ที่หลายคนเกรงกลัวในความเอาจริง

ปรายฝนรู้สึกโล่งที่ตัวเองเป็นอิสระ แต่คำพูดของฐานทัพมันติดอยู่ในใจ ซึ่งเธอทำได้แค่เก็บมันไว้ลึกๆ แค่รอให้ถึงเวลาของมันเอง…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel