บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 พ่อเลี้ยงธงทิว (4)

“ไปบอกในครัวให้ยกอาหารมาต้อนรับพ่อเลี้ยงที แล้วแกก็ไม่ต้องสะเออะหน้ามาให้ฉันเห็นอีกนะ”

ประโยคหลังน้าสาลีลดเสียงลงแทบเป็นกระซิบ แต่แสงเทียนก็ได้ยินชัดเจน เธอเพียงพยักหน้าน้อย ๆ แล้วรีบเดินเข้าห้องครัวเพื่อไปจัดการงานตามที่แม่เลี้ยงสั่ง

พออาหารคาวหวานชุดสุดท้ายถูกยกออกไปเสิร์ฟแขกคนสำคัญแล้ว แสงเทียนก็หันมาช่วยป้าคำเช็ดถ้วยเช็ดชามต่อ

“ดึกแล้วหนูเทียนไปพักเถอะ ที่เหลือเดี๋ยวป้าให้เด็ก ๆ จัดการเอง”

“ไม่เป็นไรค่ะ เทียนยังไม่ง่วงเลย”

เมื่อแสงเทียนยืนยันที่จะช่วยงาน ป้าคำก็ไม่ค้านอะไรอีก ทว่าช่วยงานป้าคำได้ครู่เดียว ป้าคำก็ได้ผู้ช่วยเช็ดชามมาเพิ่มอีกราย ซึ่งการได้เห็นพ่อครัวคนใหม่ในครัวสร้างความแปลกใจให้หญิงสาวอยู่ไม่น้อย ด้วยว่าเวลานี้หมดเวลาทำงานของเขาแล้ว...

“อ้าว ยังไม่เลิกงานกันอีกเหรอครับ?”

“เลิกแล้ว” ป้าคำเป็นคนตอบ

“เลิกที่ไหนกัน ผมเห็นป้ากับเทียนยังทำงานอยู่” ผู้มาใหม่ไม่วายแย้ง

“ก็มันยังไม่ง่วง เลยหาอะไรทำไปเรื่อย ๆ” ป้าคำเป็นคนตอบแล้วพยักหน้าไปทางด้านนอก “นู่น งานเลี้ยงยังไม่เลิกจะหนีไปนอนได้ยังไง เดี๋ยวต้องเก็บโต๊ะอีก”

ธงทิวพยักหน้าเข้าใจ แล้วอาสา “มาผมช่วย”

“ไปพักเถอะพ่อคุณ วันนี้ก็เหนื่อยทั้งวันแล้ว เก็บแรงไว้พรุ่งนี้บ้างเถอะ”

“ผมยังไม่ง่วงเลย ยังแปลกที่ด้วย เลยนอนไม่หลับ” ธงทิวตอบไปตามตรง

“ตามใจ งั้นก็มานั่งนี่มา”

ว่าแล้วป้าคำก็ตบพื้นเรียกแล้วขยับตัวแบ่งพื้นที่ให้พร้อมกับส่งผ้าสะอาดให้ผู้ช่วย จึงกลายเป็นว่าชายหนุ่มนั่งคั่นกลางระหว่างป้าคำกับแสงเทียน

“เจอพ่อเลี้ยงหรือยังครับ?” ธงทิวชวนหญิงสาวคุย

แสงเทียนพยักหน้า “รู้แล้วค่ะว่าคนไหนคือพ่อเลี้ยงธงทิว แล้วพี่ทิวล่ะ ไม่ไปทักทายพ่อเลี้ยงหน่อยเหรอ”

“เจอกันแล้วครับ ผมไม่อยากรบกวนความเป็นส่วนตัวของพ่อเลี้ยง ยังไงก็ต้องเจอหน้ากันอยู่ดี เห็นว่าพ่อเลี้ยงจะพักอยู่ที่นี่หลายวัน”

แสงเทียนพยักหน้าน้อย ๆ เพราะเธอรู้ล่วงหน้าแล้วว่าพ่อเลี้ยงธงทิวจะพักที่รีสอร์ท แต่เขาจะอยู่ที่นี่หลายวันเลยเหรอ...

นั่งเช็ดชามได้ครู่เดียวป้าคำก็ลุกไปดูความเรียบร้อยด้านนอก พอเห็นว่าพ่อเลี้ยงลุกไปจากโต๊ะอาหารแล้วจึงมาส่งข่าวในครัว แสงเทียนรีบลุกไปจัดการเก็บถ้วยชาม และทำความสะอาดโต๊ะอาหารโดยมีพ่อครัวคนใหม่ของป้าคำยกโต๊ะเก้าอี้ไปเก็บเข้าที่

แสงเทียนไม่สนใจเขาอีก รวบรวมจานชามได้แล้วเธอก็กลับไปที่ห้องครัว ช่วยป้าคำจัดการกับงานชิ้นสุดท้ายของวันเสร็จเวลาก็ล่วงมาถึงห้าทุ่ม

ก็ว่าจะกลับห้องพักเลย แต่บรรยากาศในค่ำคืนนี้ช่างโรแมนติกนัก แสงนวลตาจากดวงตะเกียง กับพระจันทร์ในคืนเพ็ญ และลมเย็นสร้างความผ่อนคลายให้เธอมากพอดู

พอเดินมาถึงที่พักแสงเทียนก็เห็นรัศมีนั่งดื่มอยู่กับพ่อเลี้ยงธงทิวที่เรือนแพสำหรับนั่งเล่นกันตามลำพัง... แต่ที่ดึงดูดสายตาแสงเทียนเห็นจะเป็นภาพของหนุ่มสาวที่ดูเหมือนกำลังพลอดรักกันเสียมากกว่าคุยเรื่องธุรกิจ

แล้วหญิงสาวก็เบิ่งตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นรัศมีชนแก้วไวน์กับพ่อเลี้ยงธงทิว จากนั้นรัศมีก็เป็นฝ่ายยื่นหน้าไปหอมแก้มพ่อเลี้ยง!

แสงเทียนเมินหน้าหนี ไม่คิดว่ารัศมีจะกล้าถึงขนาดนี้

เอาเถอะเรื่องบางเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องของเธอ สู้ปิดหู ปิดตา ปิดปาก ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไปซะก็สิ้นเรื่อง เมื่อคิดอย่างนั้นหญิงสาวก็เดินหนี ทว่าเพราะไม่ทันมองทางเธอจึงหันไปชนเข้ากับใครบางคนเข้าเสียก่อน

“ว้าย” ร้องออกมาแค่นั้น ฝ่ามือใหญ่ก็รีบปิดปากเธอไว้

“อย่าร้อง ผมเอง”

เสียงทุ้มต่ำที่ดังข้างหูคล้ายกระซิบ และกระไออุ่นจากกายเขาที่แนบชิดกับแผ่นหลัง ทำเอาหญิงสาวถึงกับหน้าเห่อร้อน แสงเทียนยืนนิ่งไปอึดใจ

ว่าแต่ ‘ผมเอง’ น่ะใครล่ะ

ตั้งตัวได้เธอก็พยักหน้าเป็นสัญญาณบอกเขาว่าเธอจะไม่ร้องโวยวาย พอชายหนุ่มปล่อยมือแล้วแสงเทียนก็หันไปหาเขา พอรู้ว่าเป็นใครหญิงสาวก็ถอนหายใจเบา ๆ

“พี่ทิว... มาเงียบ ๆ ตกใจหมดเลย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel