เจ้าสาวนอกสมรส

81.0K · จบแล้ว
อาคาเซีย/แวววิวาห์/สลิลโรส/ผิงอัง
73
บท
10.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เธออยู่นอกสายตา นอกหัวใจ และ ‘นอกสมรส!’ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ แสงเทียนก็ถูกผู้เป็นแม่เลี้ยงตราหน้าว่าเป็น ‘ลูกเมียน้อย’ เพียงเพราะแม่ของเธอเป็นภรรยาคนที่สองของพ่อ! หลังจากมารดาเสียชีวิต หญิงสาวก็อยู่ภายใต้การดูแลของผู้เป็นพ่อแต่เพราะถูกตราหน้าว่าเป็นลูกเมียน้อย แสงเทียนจึงเป็นเลือดศิวะพรหมที่ถูกปู่และย่าหมางเมิน มิหนำซ้ำหญิงสาวยังถูกแม่เลี้ยงใจร้าย โขกสับ รับแกสารพัดแต่แล้วโชคชะตาก็พลิกผัน เมื่อสาลีผู้เป็นแม่เลี้ยง ต้องการให้แสงเทียน ‘จับพ่อเลี้ยงธงทิว’ ทำสามีเพื่อรีดเอาเงินสินสอดมาใช้หนี้พนัน แสงเทียนไม่มีทางเลือก เธอจึงจำต้องกัดฟันทนอายทำตามแผนร้ายของผู้เป็นแม่เลี้ยง...หลังจากแต่งงานกับพ่อเลี้ยงธงทิว ชะตาของแสงเทียนก็เปลี่ยนไปถึงจะหลุดพ้นจากเงื้อมมือแม่เลี้ยงใจร้ายมาได้ แต่ชีวิตคู่ก็มิได้สุขสมหวังอย่างที่วาดหวังไว้ เพราะหลังจากผ่านคืนวิวาห์หวานชื่นในช่วงฮันนีมูน แสงเทียนก็ได้รู้เรื่องที่เจ็บปวดว่า พ่อเลี้ยงธงทิวมีผู้หญิงอีกคนซ่อนไว้ และเธอเป็นเพียง ‘เจ้าสาวนอกสมรส’ เท่านั้น!!!----------------------------“รู้ไหม พี่มีความสุขที่สุดเลย” ไม่เพียงบอกภรรยา พ่อเลี้ยงธงทิวยังจุมพิตที่ขมับหญิงสาวซึ่งนั่งพิงอกเขาด้วยความรักเต็มเปี่ยมในหัวใจหญิงสาวยิ้มอย่างมีความสุข พลางเงยหน้ามองสามีที่มองเธออยู่ก่อนหน้า “พี่ทิวคิดชื่อให้ลูกของเราหรือยังคะ?”“พี่จะให้ลูกชื่อ ดาวเหนือ เพราะดาวเหนือสุกสว่างเหมือนแสงเทียน พี่ชอบชื่อนี้ ดูเป็นผู้นำดี”“แล้วถ้าลูกเป็นผู้หญิงละคะ” แสงเทียนไม่วายแย้ง“ลูกคนแรกของเราต้องเป็นผู้ชายสิ พี่มั่นใจ”หญิงสาวย่นจมูกใส่ผู้เป็นสามี ไม่ว่าทารกน้อยในครรภ์ของเธอจะเป็นหญิงหรือชาย เธอก็อยากให้เขาลืมตาดูโลกด้วยความรักและความเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง“แต่เทียนมั่นใจว่าเทียนได้ลูกสาว”พ่อเลี้ยงธงทิวมองหญิงสาวด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “ลูกชาย”“ลูกสาว”“พี่ว่าลูกชาย”“แต่เทียนว่าลูกสาว ลูกสาว ลูกสาว”“เทียนยืนยันซะขนาดนี้ เห็นทีพี่ต้องปั้นใหม่แล้วละมั้ง” บอกแค่นั้นพ่อเลี้ยงหนุ่มก็ลุกขึ้นจากเบาะนั่งแล้วอุ้มหญิงสาวจนตัวลอยจากพื้น“ว้าย พี่ทิวจะทำอะไร เดี๋ยวก่อนจะอุ้มเทียนไปไหน”“พี่จะอุ้มเทียนไปปั๊มลูกชาย พี่จะใส่นกเขาให้ลูก ลูกจะได้ออกมาเป็นผู้ชาย”“พี่ทิวบ้า” แสงเทียนแก้มแดงปลั่ง เพราะรู้ว่าผู้เป็นสามีต้องการอะไร

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันแต่งงานสายฟ้าแลบรักหวานๆปลูกผักเศรษฐีโรแมนติก

บทนำ เจ้าสาวนอกสมรส

เจ้าของร่างบางในชุดแบบฟอร์มพนักงานของแสงดาวรีสอร์ทที่กำลังขนผ้าปูเตียง ผ้าห่ม ปลอกหมอนมาซักรีบก้มหน้างุดทันทีที่สบตากับ ‘สาลี’ ผู้เป็นมารดาเลี้ยง

ก็ว่าจะหลบหน้าด้วยการเดินหนีไปทางอื่นแล้วเชียว แต่ผู้เป็นแม่เลี้ยงก็เห็นเธอ จึงเรียกตัวไว้

“เดี๋ยวก่อน”

แสงเทียนหยุดเท้า พลางมองหน้าคนเรียกนิดหนึ่งก่อนก้มหน้าลงอย่างสำรวมกิริยา

“คุณน้ามีอะไรเหรอคะ?”

“เดี๋ยวพ่อเลี้ยงธงทิวจะมาที่นี่ แกอย่าเสนอหน้ามาให้พ่อเลี้ยงธงทิวเห็นเป็นอันขาดล่ะ ฉันไม่ชอบตอบคำถามว่าแกเป็นใคร เกี่ยวข้องอะไรกับฉัน”

“ค่ะคุณน้า” หญิงสาวรับคำเสียงเรียบ พลางหลบสายตาไม่พอใจของคนออกคำสั่ง พอผู้เป็นแม่เลี้ยงเดินห่างออกไปแล้ว แสงเทียนก็ถอนหายใจออกมายาว...

ปกติเธอก็ไม่ชอบสุงสิงกับใครอยู่แล้ว จะมีคนที่พูดคุยด้วย สนิทด้วยก็มีอยู่แค่ไม่กี่คน ยิ่งเป็นพวกนักธุรกิจเพื่อนของพ่อ เธอไม่เคยคิดที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวแม้แต่น้อย เจอที่ไหนเธอก็มักจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่เฉียดใกล้ ทั้งนี้ก็เพื่อตัวเธอเอง

เธอไม่อยากถูกผู้เป็นแม่เลี้ยงดุด่า ว่ากล่าว ตบตีให้เจ็บตัว เจ็บใจอีก

จำได้ว่าครั้งหนึ่งพ่อเคยพาเธอไปร่วมงานเลี้ยงฉลองแต่งงาน วันนั้นเธอออกงานพร้อมกับพ่อ น้าสาลี และรัศมีเป็นครั้งแรก ในงานพ่อได้แนะนำเธอให้รู้จักกับเพื่อนสนิท จึงมีการพูดคุยหยอกล้อตามประสาเพื่อนที่ไม่เจอกันนาน

‘ลูกสาวคนนี้สวยนี่หว่า คนนี้ใช่ไหมลูกของแสงดาว’

‘ใช่ แสงเทียนนี่ลุงภพเพื่อนพ่อนะ’

เธอยกมือไหว้เพื่อนของพ่ออย่างนอบน้อม

‘สวยได้แม่มาเต็ม ๆ เลยนี่หว่า จะว่าไปก็น่าเสียดายนะที่นายไม่ได้ตกแต่งกับแสงดาว’

‘เรื่องนั้นมันผ่านไปนานแล้ว จะแต่งหรือไม่แต่งก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าฉันรักแสงดาวเพียงคนเดียว และลูกสาวคนนี้ก็เป็นโซ่ทองคล้องใจฉันกับแสงดาว’

ได้ยินพ่อพูดแบบนั้นกับเพื่อนสนิท เธอก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก อย่างน้อยคำพูดพ่อก็ช่วยลบปมด้อยในใจที่มารดาเลี้ยงคอยด่าทอเหน็บแนมว่าเธอคือ ‘ลูกเมียน้อย’ ลงได้บ้าง

ทว่าคำพูดของพ่อที่พูดคุยกับเพื่อนสนิทก็ดันเข้าหูน้าสาลีแม่เลี้ยงใจร้ายของเธอเข้า!

พอกลับจากงานเลี้ยงหลังจากที่พ่อเข้านอนแล้ว แม่เลี้ยงใจร้ายของเธอก็มาเคาะประตูเรียกในกลางดึก

‘เปิดประตูให้หน่อยสินังตัวดี’

ทั้งน้ำเสียง และเสียงเคาะประตูบอกให้แสงเทียนรู้ว่า พายุกำลังจะมา...

พอเปิดประตูมาเจอหน้า น้าสาลีก็ตบหน้าเธอชนิดไม่มีการพูดพร่ำทำเพลง

‘น้าสาลีตบ... ตบเทียนทำไมคะ?’

‘แกเสนอหน้าไปทำอะไรไว้ล่ะ ยังจะมีหน้ามาถามฉันอีก!’ พูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดน้าสาลีก็ตบหน้าเธออีกข้าง

แสงเทียนได้แต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น... เธอไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรผิด แม่เลี้ยงใจร้ายถึงได้โกรธเธอมากถึงเพียงนี้

‘ฉันตบแกด้วยโทษฐานที่แกบังอาจเสนอหน้าออกงานกับผัวของฉันน่ะสิ เป็นแค่ลูกเมียน้อยยังกล้าชูคอออกสังคมอีกเหรอนังตัวดี แม่แกไม่เคยสั่งสอนหรือไงว่าเป็นลูกเมียน้อยต้องหัดเจียมเนื้อเจียมตัว’

‘เทียน...’ แสงเทียนได้แต่ยืนตัวสั่น น้ำตานองหน้าด้วยความกลัว และเสียใจเป็นที่สุด แค่พ่อพาเธอไปงานแต่งงาน เธอทำผิดตรงไหน

‘หรือแกหน้าด้านหน้าทนเหมือนแม่ของแกที่ชอบเที่ยวแย่งผัวชาวบ้าน’

แสงเทียนถึงกับน้ำตาร่วง โดนด่าคนเดียวยังพอทำเนา นี่น้าสาลีพาดพิงไปถึงมารดาที่เสียชีวิตไปแล้วของเธอด้วย

‘ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ’

‘ยังจะมีหน้ามาเถียงฉันอีก หรือแกอยากถูกตบอีก นังตัวดี!’

พอสาลีง้างมือ แสงเทียนก็ก้มหน้างุดตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัว สิ่งที่หญิงสาวทำได้คือยกมือไหว้เพื่อขอความเมตตาเท่านั้น

‘เทียนกลัวแล้วค่ะ น้าสาลีอย่าตีเทียนเลย เทียนให้สัญญาค่ะต่อจากนี้ไปเทียนจะไม่ไปไหนกับคุณพ่ออีก’ พอเธอพูดไปแบบนั้น ผู้เป็นแม่เลี้ยงก็ดูพอใจจึงยอมลดมือลง

‘หัดจำใส่กะโหลกของแกให้ดีล่ะ แกมันเป็นแค่ลูกเมียน้อย แม่ของแกแย่งผัวฉันไป แกก็ไม่ต่างจากแม่แกหรอก เลือดไพร่สกุลต่ำก็สมควรอยู่ในที่ต่ำ ๆ ฉันรับแกมาเลี้ยงดูให้อยู่ดีกินดีก็นับว่าบุญเท่าไหร่แล้ว อย่าริอาจชูคอทำตัวเทียบลูกสาวของฉันเชียว’

‘เทียน... เทียนจะเจียมตัวให้มากกว่านี้’

‘ดี! แล้วอย่าให้มีครั้งต่อไป ไม่งั้นฉันไม่เลี้ยงแกไว้แน่’ สาลีใช้นิ้วจิ้มหน้าผาก จากนั้นก็ผลักเธอจนล้ม สาแก่ใจแล้วสาลีก็เชิดหน้าจากไป

แต่สิ่งที่แม่เลี้ยงใจร้ายทิ้งไว้ให้ คือรอยแผลเป็นในหัวใจ และความหวาดกลัว

เธอกลัว... กลัวความร้ายกาจของผู้หญิงคนนี้มาตลอด กลัวจนไม่กล้าปริปากบอกทุกเรื่องให้กับคนในบ้านรับรู้