บทที่ 2 พ่อเลี้ยงธงทิว (3)
“ลูกพ่อแล้วไงคะ เทียนไม่อยากเป็นเป้าสายตาใคร เกิดใครมาได้ยินเข้าเทียนจะเดือดร้อนเอา”
ธงทิวย่นคิ้ว เมื่อครู่เขาก็ได้ยินเต็มสองหูกับสิ่งที่ภรรยาของคุณธนชาติพูดกับแสงเทียน ทุกถ้อยคำล้วนเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม และความเกลียดชังชัดเจน
แค่เขาเรียกเธออย่างให้เกียรติ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนี่นา
“เรียกคุณอย่างสุภาพให้เกียรติ แบบนี้ก็เกิดเรื่องเดือดร้อนได้เหรอครับ?”
“ช่างมันเถอะค่ะ พี่ทิวอย่าสนใจเลยไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่พี่ทิวเป็นคนของพ่อเลี้ยงเหรอคะ?” หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องคุย
ธงทิวพยักหน้า “ผมเคยเป็นคนขับรถให้พ่อของพ่อเลี้ยง”
เรื่องนี้เขาไม่ได้โกหก เขานี่แหละเป็นคนขับรถประจำตัวพ่อ ไม่ว่าพ่อจะเดินทางไปไหนมาไหน เขาอาสารับหน้าที่เป็นสารถีให้พ่อเสมอ
แสงเทียนพิจารณาชายหนุ่มอย่างละเอียด ดูจากรูปร่างหน้าตาและท่าทางของเขาแล้ว ผู้ชายตัวโตตรงหน้าเธอดูเป็นเจ้าคนนายคนมากกว่าคนขับรถเสียอีก
อะไรบางอย่างในดวงตาสีสนิมเหล็กเปี่ยมล้นด้วยความมั่นใจ มันทำให้เธอคิดถึงนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเสียมากกว่าการเป็นคนขับรถ
“แบบนี้พี่ทิวคงรู้จัก และสนิทกับพ่อเลี้ยงธงทิวพอดู”
ชายหนุ่มพยักหน้าน้อย ๆ ทำไมเขาจะไม่รู้จักตัวเองเล่า
เพราะอยากช่วยเหลือคุณธนชาติที่กำลังประสบปัญหาใหญ่ อีกทั้งตัวเขาสนใจอยากลงทุนทำธุรกิจประเภทบ้านพักรีสอร์ท เขาถึงได้ลงทุนลงแรงปลอมตัวมาเป็นพ่อครัวก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ รีสอร์ทแห่งนี้
“พ่อเลี้ยงใจดีมั้ยคะ?” หญิงสาวถามอย่างสนใจ อย่างน้อยเธอก็ควรรู้รายละเอียดเกี่ยวกับคนที่จะมาซื้อรีสอร์ทแห่งนี้บ้าง
“เทียนคิดว่าไงล่ะ?”
“ไม่รู้สิ เทียนไม่เคยเจอหน้าคุณลุงคนนี้เลย”
ธงทิวถึงกับสะดุดหูกับสรรพนามที่หญิงสาวใช้เรียก
“เรียกพ่อเลี้ยงว่า ‘ลุง’ เลยเหรอครับ?”
“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้าประสาซื่อ “เทียนรู้มาจากคุณน้าว่าพ่อเลี้ยงธงทิวเป็นเพื่อนกับพ่อของเทียน เป็นเพื่อนของพ่อ เทียนก็เรียกลุงได้สิ มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“พ่อเลี้ยงยังไม่แก่ขนาดนั้น”
“อ้าวเหรอคะ” หญิงสาวทำหน้าแปลกใจ เท่าที่เคยเห็น เพื่อนของพ่อแต่ละคนมีแต่ผู้สูงอายุทั้งนั้น
“พ่อเลี้ยงอายุแค่สามสิบต้น ๆ เอง”
คราวนี้หญิงสาวทำหน้าแปลกใจ ไม่คิดว่าพ่อเลี้ยงธงทิวจะหนุ่มขนาดนั้น เขาโตกว่าเธอแค่สิบกว่าปีเอง
“เทียนนึกว่าพ่อเลี้ยงอายุไล่ ๆ กับพ่อซะอีก ดีนะที่พี่ทิวบอก ไม่งั้นเทียนปล่อยไก่ตัวโตแน่”
ธงทิวเพียงยิ้ม ๆ ไม่พูดอะไร ปีนี้เขาเพิ่งจะสามสิบสาม จะว่าไปเขาเป็นลูกชายของคุณธนชาติเจ้าของรีสอร์ทแห่งนี้ได้สบายเลย เพราะพ่อของเขาก็อายุไล่เลี่ยกับคุณธนชาติ
“งั้นเทียนทำงานก่อนนะคะ”
“มีอะไรให้ผมช่วยก็บอกนะ”
“ค่ะ” บอกเสียงเรียบแสงเทียนก็เดินห่างออกมาเพื่อนำดอกไม้มาประดับโต๊ะอาหาร พอได้ดอกกุหลาบสีหวานมาแล้วเธอก็จัดการเสียบแจกันจนทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย
ยังไม่ทันจะหลบเข้าในห้องครัว แสงเทียนก็หันมาเห็นน้าสาลีเข้า ครั้งนี้น้าสาลีไม่ได้มาคนเดียว แต่ยังมีรัศมี และชายแปลกหน้าอีกสองคน คงจะเป็นพ่อเลี้ยงธงทิวและผู้ติดตามของเขา
แต่ที่น่าแปลกก็คือเธอไม่เห็นพ่อมาด้วยเลย เป็นไปได้ว่าพ่ออาจจะติดธุระ มิเช่นนั้นพ่อคงไม่ให้น้าสาลีออกหน้ามารับรองแขกด้วยตัวเองแบบนี้หรอก
แสงเทียนมองชายแปลกหน้าซึ่งน่าจะเป็นแขกคนสำคัญของรีสอร์ท แวบแรกที่เห็นเธอทายไม่ถูกหรอกว่าคนไหนคือ ‘พ่อเลี้ยงธงทิว’ เพราะทั้งสองคนเป็นชายหนุ่มที่มีวัยไล่เลี่ยกัน ดูจากการแต่งกาย บุคลิกของคนทั้งคู่ ไม่มีใครสะดุดตาเธอเป็นพิเศษ
แต่พอเห็นรัศมีส่งยิ้มหวาน อีกทั้งเข้าเกาะแขนชายหนุ่มที่ตัวสูงเก้งก้าง แต่งตัวดูดีดูภูมิฐาน แสงเทียนก็พอจะเดาได้ทันทีว่าคนผู้นี้เป็นใคร...
ก็ว่าตั้งใจจะหลบหน้าไปทำอย่างอื่นต่อ แต่น้าสาลีก็รีบเดินตรงดิ่งมาหาเธอก่อน
“เดี๋ยวก่อน”
“เทียนไปเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ” หญิงสาวรีบบอกพลางก้มหน้างุด เพราะเกรงว่าจะมีปัญหากับน้าสาลีอีก
