บทที่ 2 พ่อเลี้ยงธงทิว (5)
“ขอโทษนะที่ทำให้ตกใจ ผมกำลังจะกลับที่พัก ว่าแต่เทียนมาทำอะไรที่นี่”
“เทียนกำลังจะกลับที่พักเหมือนกัน” หญิงสาวตอบไปตามตรง
“อ้าว เทียนก็พักที่นี่เหรอ”
“ค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงแผ่ว
ธงทิวเพียงนิ่วหน้าไม่ถามอะไรอีก พอมองไปที่เรือนแพริมน้ำเขาก็หยุดสายตาไว้ ภาพที่เห็นคือลูกสาวของคุณธนชาติกำลังซบไหล่ ‘ไอ้ธง’ ลูกน้องคนสนิทที่เขาให้รับบทบาทเป็นพ่อเลี้ยงธงทิวอยู่
แค่เห็นก็รู้สึกขัดลูกหูลูกตาพิกล แต่เขาก็ทำอะไรตอนนี้ไม่ได้
แสงเทียนมองตามสายตาของชายหนุ่มไป ก็พบว่ารัศมีซบไหล่พ่อเลี้ยงธงทิวอยู่
“งั้นเทียนขอตัวไปพักก่อนนะคะ” บอกแค่นั้นหญิงสาวก็เดินห่างออกไปเงียบ ๆ
ธงทิวมองตามร่างบางไป แล้วหันมามองธงชัยอีกครั้ง สุดท้ายเขาก็ไหวไหล่ไม่ยี่หระแล้วเดินตามหลังหญิงสาวไปเงียบ ๆ
เขาควรจะพักผ่อนเช่นกัน ส่วนใครที่ ‘ก่อเรื่อง’ ก็ควรให้คนนั้นรับผิดชอบไป เมื่อคิดแบบนั้นธงทิวจึงไม่สนใจลูกน้องคนสนิทอีก นอกจากมุ่งหน้ากลับที่พักเท่านั้น...
##### บทที่ 3
แม่เลี้ยงใจร้าย
เช้าวันรุ่งขึ้นแสงเทียนตื่นเช้าตามปกติ เพราะเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวจึงมีลูกค้ามาพักที่รีสอร์ทแสงเทียนไม่มากนัก ถึงอย่างนั้นก็ยังมีงานให้เธอต้องทำ
พอจัดโต๊ะสำหรับอาหารมื้อเช้าเสร็จ หญิงสาวก็หลบเข้ามาช่วยงานป้าคำในครัวตามเดิม ทว่าพ่อเลี้ยงธงทิวก็เข้ามาในครัวด้วย
“อ้าวพ่อเลี้ยง มีอะไรเหรอคะ?” ป้าคำที่ง่วนอยู่กับการหั่นหัวมันฝรั่งเป็นคนเอ่ยถาม
“เออ... ผมมาหาทิวครับ”
“เจ้าทิวเหรอ... ป้าใช้ให้ไปเอาของที่โรงรถให้น่ะค่ะ เดี๋ยวก็คงมา เชิญพ่อเลี้ยงที่โต๊ะอาหารก่อนค่ะ เดี๋ยวป้าให้คนไปตามให้” บอกกับพ่อเลี้ยงหนุ่ม ป้าคำก็หันมาหาแสงเทียน “หนูเทียนป้ารบกวนไปตามตัวเจ้าทิวให้พ่อเลี้ยงหน่อยสิ”
“ค่ะ” หญิงสาวรีบวางมือจากสิ่งที่ทำแล้วลุกออกไปจากห้องครัวทันที
พอมาถึงโรงจอดรถแสงเทียนก็ไม่เจอตัวพ่อครัวของป้าคำแต่อย่างใด จะมีก็แต่รถปิคอัพคันเก่าที่จอดทิ้งไว้ แสงเทียนจึงเดินตามหาเขา
แล้วเธอก็เห็นเขากำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ใต้ต้นไม้ เจอตัวแล้วเธอจึงเดินเข้าไปหา ดูว่าเขาจะตกใจไม่น้อยที่เห็นเธอมาเงียบ ๆ
“แค่นี้ก่อนนะ” ธงทิวกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ก่อนจะกดวาง แล้วหันมาหาหญิงสาว “มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?”
สีหน้า และน้ำเสียงติดดุของเขาทำเอาแสงเทียนรู้สึกไม่ค่อยดีเอาเสียเลย
“เพิ่งมาค่ะ ป้าคำให้มาตามพี่ทิว พ่อเลี้ยงอยากเจอพี่น่ะ”
ธงทิวพยักหน้ารับสีหน้าค่อนข้างเคร่งขรึมกว่าปกติ “ตอนนี้พ่อเลี้ยงอยู่ไหนเหรอ?”
“รอพี่ทิวอยู่ในครัวค่ะ”
บอกธุระสำคัญเสร็จแล้วแสงเทียนก็กลับไปทำงานต่อ แต่ครั้งนี้แสงเทียนไม่ได้กลับเข้าครัวเพราะเธอไม่อยากเจอพ่อเลี้ยงธงทิว เธอจึงหันมาเตรียมอาหารเครื่องดื่มเพื่อไว้รับรองแขกที่มาพัก
ทว่าพ่อเลี้ยงธงทิวก็ตามเธอมา อีกทั้งเขายังชวนเธอคุย
“น้องทำงานที่นี่มากี่ปีแล้วครับ?”
“สามปีกว่าแล้วค่ะ” ตอบพ่อเลี้ยงหนุ่มแล้ว แสงเทียนก็ตั้งใจจะผละหนีแต่ดูเหมือนพ่อเลี้ยงจะไม่ยอมปล่อยให้เธอไปง่าย ๆ
“ปกติที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาพักที่นี่เยอะไหม?”
“มีมาพักตลอดทั้งปีค่ะ รายละเอียดพวกนี้พ่อเลี้ยงคุยกับเจ้าของที่นี่จะดีกว่านะคะ” ตอบไปตามมารยาทและเพื่อยุติบทสนทนาแสงเทียนก็ตั้งใจเดินหนีไปทำอย่างอื่น ทว่าเธอก็หันมาเจอพี่สาวต่างมารดาเข้าเสียก่อน
รัศมีดูจะไม่พอใจที่เห็นเธออยู่กับพ่อเลี้ยงธงทิว พอเดินเข้ามาใกล้รัศมีก็เดินชนไหล่เธอจนเซ
“มาเสนอหน้าอะไรตรงนี้ยะ นังลูกเมียน้อย”
แสงเทียนได้แต่ลอบถอนหายใจเบา ๆ กับสรรพนามที่พี่สาวต่างมารดาเรียก ก็ว่าจะเดินหนีเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ แต่รัศมีก็เรียกเธอไว้
“ไปเอาน้ำส้มมาให้ฉันทีสิ”
“ค่ะ” ตอบรับเสียงเรียบแสงเทียนก็รีบห่างออกมา แต่เธอก็เจอกับพ่อครัวคนใหม่อีก
“เดี๋ยวพี่จัดการเรื่องน้ำส้มให้คุณแขเอง เทียนมีอะไรก็ไปทำเถอะ”
“ขอบคุณค่ะ” บอกเสียงเรียบด้วยสีหน้าไม่สู้ดีแสงเทียนก็รีบเดินห่างออกไป
เธอไม่ชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย เคยคิดที่จะตอบโต้น้าสาลีและรัศมีอยู่เหมือนกัน แต่การปะทะที่เกิดขึ้นหลายครั้งไม่มีใครปกป้องเธอได้เลยสักคน...
แม้แต่พ่อก็คุ้มครองเธอไม่ได้ทุกครั้ง เพราะเวลาที่พ่ออยู่ น้าสาลี กับรัศมีจะแสดงออกว่าดีกับเธอเสมอ แต่เมื่อพ่อไม่อยู่ น้าสาลีกับรัศมีก็มักจะหาเรื่องเธอบ่อย ๆ มิหนำซ้ำยังตบตี ใช้ความรุนแรงกับเธอ
นี่ก็อีก... ขนาดอยู่กันหลายคน รัศมียังไม่วายแขวะเธอเลย
คิดถึงเรื่องนี้น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลเอ่อออกมา ไม่รู้ว่าเธอไปทำเวรทำกรรมอะไรให้แม่ลูกคู่นี้ ทั้งสองถึงได้จงเกลียดจงชัง และหาเรื่องเล่นงานเธอได้ตลอด
เฮ้อ... หากแม่ยังมีชีวิตอยู่มันคงจะดีกว่านี้ อย่างน้อย ๆ เธอก็ยังมีแม่ให้กอดเวลาที่เจอกับเรื่องร้าย ๆ แสงเทียนเช็ดน้ำตาออกจากแก้มแล้วไปล้างหน้าล้างตา
