บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 พ่อเลี้ยงธงทิว (1)

หญิงสาวไม่ได้พูดคุยกับเขาสักคำ เพราะรู้ดีว่าใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพ่อ กับน้าสาลี หรือแม้แต่รัศมี พวกเขาเหล่านี้ล้วนเป็นบุคคลต้องห้าม ไม่ควรแตะต้อง หรือเข้าใกล้เป็นอันขาด มิเช่นนั้นเธออาจจะประสบกับเรื่องเดือดร้อนในภายหลัง ก็รู้ ๆ อยู่ว่าน้าสาลีชอบหาเรื่องเธอ

พออิ่มท้องแล้วแสงเทียนก็ลุกไปทำงานต่อ ยังมีผ้าปูที่นอนซึ่งปั่นค้างไว้ในเครื่องซักผ้า เธอต้องกลับไปจัดการให้แล้วเสร็จ

พอนำผ้าปูที่นอนออกจากเครื่องซักผ้าแล้วหญิงสาวก็นำผ้าไปตาก ทว่าเธอก็เจอกับปัญหาบางอย่างเข้า ราวตากผ้าซึ่งใช้ไม้ปักสองฝั่งและผูกเชือกไว้ตรงกลางที่ใช้งานมานานปีเกิดหักพังลงมา งานซ่อมราวตากผ้าจึงเกิดขึ้น แต่เธอก็ไม่ถนัดงานพวกนี้นัก

ดังนั้นแสงเทียนจึงแก้ปัญหาด้วยการไปบอกป้าคำกับลุงแสงเป็นอันดับแรก

ลุงแสนหยิบหมวกปีกกว้างมาสวมกันแดดแล้วรีบมาดูหน้างาน จากนั้นเขาก็ตามพ่อครัวคนใหม่ให้มาเป็นลูกมือเพื่อช่วยงาน ใช้เวลาเพียงไม่นานราวตากผ้าก็ซ่อมเสร็จเรียบร้อย

“เอาล่ะเสร็จแล้ว คราวนี้แข็งแรงกว่าเดิม ผ้าหนักแค่ไหนก็ไม่พังง่าย ๆ แล้วล่ะหนูเทียน” ลุงแสนหันมาบอกหญิงสาว หลังจากตรวจตราความเรียบร้อยเสร็จแล้ว

“ขอบคุณค่ะลุง งั้นเทียนขอทดสอบความแข็งแรงเลยก็แล้วกัน” ว่าแล้วแสงเทียนก็ไปขนตะกร้าผ้าเพื่อนำผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ปลอกหมอนมาตากแดด

พอหญิงสาวเดินห่างออกไป ลุงแสนจึงหันมาบอกผู้ช่วยของเขา “หนูเทียนก็ขยันเสียจริง วัน ๆ เอาแต่ทำงานไม่เคยได้พักกับใคร ผ้าเยอะแบบนั้นจะเอามายังไงไหว ตัวก็นิดเดียว ไปพ่อทิว ไปช่วยหนูเทียนหน่อยสิ”

“ครับ” ตอบรับลุงแสนแล้วธงทิวก็วิ่งเหยาะ ๆ ตามหลังหญิงสาวมาติด ๆ จนมาถึงด้านหลังโรงครัวซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับใช้ซักผ้า

“มา ผมช่วย”

แสงเทียนมองคนอาสาแวบหนึ่ง ก็ว่าจะปฏิเสธไปเพราะเกรงใจเขา อีกอย่างเธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนของพ่อเลี้ยงธงทิว

ทว่ายังไม่ทันปฏิเสธเขาก็ยกตะกร้าผ้าขึ้นบนบ่าแล้วเดินนำไปยังราวตากผ้าหน้าตาเฉย เธอจึงได้แต่มองเจ้าของแผ่นหลังกว้างตาปริบ ๆ เม้มปากเป็นเส้นตรงแล้วก้าวยาว ๆ เดินตามเขาไป

ไม่เพียงพ่อครัวคนใหม่ของป้าคำจะช่วยยกตะกร้าผ้ามาให้ เขาซึ่งเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเธอยังมีน้ำใจช่วยเธอตากผ้าอีกด้วย

“แค่ช่วยยก เทียนก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้วค่ะ”

“เกรงใจไปทำไมครับ ผมอยากช่วย”

“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวบอกเสียงเรียบจากนั้นก็รีบจัดการนำผ้าที่ซักไว้ทั้งหมดขึ้นตากบนราวที่เพิ่งซ่อมเสร็จ

รีบ ๆ ทำงานให้เสร็จไป เธอจะได้พักซะที

ทว่าแสงแดดเจิดจ้าทำเอาแสงเทียนถึงกับตาพร่า แล้วอยู่ๆ เธอก็วูบล้มเป็นลมไป

ธงทิวที่กำลังช่วยหญิงสาวตากผ้า รีบทิ้งผ้าในมือแล้วเข้าไปประคองเจ้าของร่างบางทันที แล้วเขาก็พบว่าหญิงสาวหมดสติไปแล้ว

“คุณ... เฮ คุณเทียน” เมื่อหญิงสาวไม่ตอบรับเขาจึงอุ้มช้อนร่างบางเข้ามาพักในห้องพร้อมกับปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการหายาดม และหาพัดมาพัดให้เธอทันที

“หนูเทียนเป็นอะไรน่ะ?” ป้าคำที่เห็นเหตุการณ์รีบตามมาดูอาการของหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง

“เป็นลมครับป้า”

ได้ยินแบบนั้นป้าคำก็ขยับเข้ามาใกล้ ๆ “ถอยไปหน่อยซิ”

พอคนตัวโตหลบทางให้ ป้าคำก็รีบเข้ามาตรวจดูอาการ

“ไปชงยาหอมมาให้ทีสิ” ป้าคำหันมาสั่งคนตัวโต เพราะชายหนุ่มเคลื่อนไหวร่างกายได้คล่องแคล่วกว่าตน

ธงทิวหายหน้าไปครู่เดียวก็กลับมาพร้อมถ้วยยาหอม แล้วเขาก็พบว่าแสงเทียนฟื้นแล้ว โดยมีป้าคำคอยเอาพัดโบกอยู่ตลอดเวลา แต่ใบหน้าสวยหวานชวนมองนั้นยังซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด

“พักก่อนหนูเทียน เพิ่งฟื้นอย่าเพิ่งลุกลูก”

แสงเทียนทำตามคำแนะนำอย่างว่าง่าย แล้วเธอก็เห็นพ่อครัวคนใหม่ยืนอยู่ไม่ห่าง

“ใครพาเทียนมาที่นี่คะ” หญิงสาวถามป้าคำ จำได้ว่าเธอตากผ้าอยู่ จากนั้นก็หน้ามืดวูบไปเสียดื้อ ๆ

“เจ้าทิวเป็นคนอุ้มหนูเทียนมาที่นี่”

ได้ยินแบบนั้นใบหน้าขาวซีดของหญิงสาวก็เริ่มมีสีเลือดฝาด เธอมองเขาพลางยกมือไหว้อย่างเกรงใจ

“ขอบคุณนะคะ ถ้าไม่ได้พี่ทิว เทียนคงแย่”

ชายหนุ่มรีบรับไหว้แทบไม่ทัน “ไม่ต้องไหว้ผมหรอกครับ ผมยินดีช่วย พักเยอะ ๆ นะครับ ป้าคำนี่ยาหอม” ว่าแล้วธงทิวก็ส่งถ้วยยาให้ป้าคำจากนั้นจึงเดินออกจากห้องพักพนักงาน แต่ก่อนที่จะพ้นกรอบประตูไป เขาก็หันมามองหญิงสาวอีกรอบแล้วถึงจากไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel