บทที่ 1 เลือดศิวะพรหม (4)
นอกจากนี้เธอยังได้ยินลุงแสนกับป้าคำคุยกันว่าน้าสาลีติดการพนันงอมแงมและยังก่อหนี้ก้อนโตให้ครอบครัว พอปู่กับย่ารู้เรื่องเข้า ปู่ก็หัวใจวายฉับพลันเสียชีวิต ส่วนย่าเมื่อทราบเรื่องเข้าก็ตรอมใจจนป่วยออด ๆ แอด ๆ เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น
ก่อนที่คุณย่าจะจากโลกไปพ่อได้พาเธอไปเยี่ยมคุณย่าที่โรงพยาบาล เธอเคยเห็นคุณย่าแต่งตัวสวย ๆ ใส่เครื่องเพชรเต็มตัวมาตลอด แต่พอมาเจอภาพท่านใส่ชุดของโรงพยาบาล อีกทั้งมีสายยางโยงรยางค์ก็ทำให้เธออดสงสารไม่ได้
พอคุณย่าเจอหน้าเธอเท่านั้น ท่านก็เรียกเธอไปใกล้ ๆ มือเหี่ยวลูบศีรษะเธอน้ำตาคลอเบ้าตา สายตาที่ทอดมองมาเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนอย่างที่เธอไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
‘ขอโทษ... ย่าขอโทษนะลูก ย่าไม่ดีเองที่ดูคนผิดไป’
เห็นย่าร้องไห้ แสงเทียนก็ร้องไห้ตามไปด้วย เธอไม่เคยโกรธย่าเลย จะมีก็แค่น้อยใจเท่านั้นที่ท่านลำเอียง ไม่เคยให้ความเป็นธรรมกับเธอ
วันนั้นเป็นวันแรกและวันสุดท้ายที่เธอได้พูดคุยกับย่า พูดคุยกันแบบย่ากับหลานโดยไม่มีกำแพงใด ๆ มาปิดกั้น ซึ่งในวันต่อมาย่าก็จากไปอย่างสงบ
ตอนที่ไปร่วมงานศพเธอไม่มีน้ำตาสักหยด แต่ในใจกลับโศกเศร้าและหดหู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นยิ่งนัก
หลังจากผู้เป็นย่าจากไปอย่างสงบได้ไม่เท่าไหร่ พ่อก็เริ่มจัดการกับปัญหาหนี้สินที่ทำท่าว่าจะขยายวงกว้างด้วยการขายทรัพย์สินจำพวกที่ดิน และกิจการรีสอร์ทที่มีในมือเพื่อแก้ปัญหาเรื่องหนี้สิน
แน่ล่ะ แสงเทียนรีสอร์ทก็เป็นหนึ่งในนั้นที่กำลังจะเปลี่ยนเจ้าของ…
แสงเทียนถอนหายใจเบา ๆ กับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังคืบคลานเข้ามาอย่างช้า ๆ หากรีสอร์ทแห่งนี้ต้องกลายเป็นของคนอื่นไป เธอก็รู้สึกเสียดายไม่น้อย
ใช่ว่าเพราะความโลภ อยากครอบครองรีสอร์ทแห่งนี้ตามที่พ่อเคยออกปากบอกเธอไว้ เธอแค่รู้สึกผูกพันกับที่นี่เพราะอาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายปีมันก็เท่านั้น
เมื่อจัดการกับผ้ากองโตลงเครื่องซักผ้าแล้ว แสงเทียนก็นำผ้าปูเตียงชุดใหม่ไปเปลี่ยน และจัดห้องพักเพื่อเตรียมต้อนรับลูกค้ารายใหม่ที่จะมาเข้าพักที่นี่
พอเดินผ่านห้องครัว ป้าคำก็เรียกเธอไว้
“หนูเทียน ป้าทำยำมะม่วงไว้ มา ๆ มากินด้วยกันสิลูก”
“เดี๋ยวเทียนมากินค่ะป้า ขอเทียนไปจัดการกับห้องพักก่อนนะคะ พอดีมีแขกวีไอพีจะมาพักคืนนี้” หญิงสาวตอบรับเสียงใส หน้าตายิ้มแย้ม
“คงเป็นพ่อเลี้ยงธงทิวละมั้ง”
ได้ยินชื่อของเขา แสงเทียนก็ทำหน้าแปลกใจ “พ่อเลี้ยงจะมาพักที่นี่เหรอคะ”
“ป้าก็เพิ่งรู้จากคุณนายเมื่อกี๊นี้เอง”
คุณนายที่ป้าคำเรียกติดปาก ก็คือน้าสาลี แม่เลี้ยงของแสงเทียน
“อ้าว ไหนคุณน้าบอกแค่ว่ามาดูสถานที่เฉย ๆ”
“มาพักด้วยค่ะ พ่อเลี้ยงคงอยากจะเห็นบรรยากาศของที่นี่ก่อนตัดสินใจซื้อมั้งคะ”
แสงเทียนเม้มปาก แม้จะไม่ชอบใจที่รีสอร์ทแห่งนี้กำลังจะเปลี่ยนเจ้าของ แต่เธอทำได้เพียงรับฟัง ไม่ออกความคิดเห็นใด ๆ ทั้งสิ้น
“งั้นเทียนไปจัดการห้องพักก่อนนะคะป้า”
“เสร็จแล้วมาที่ห้องครัวนะ”
“ค่า” หญิงสาวรับคำแล้วเดินห่างออกไป ทว่าเพราะไม่ทันได้มองทาง กอปรกับไม่คิดว่าจะมีใครเดินมาด้านหลัง เธอจึงหันไปชนกับใครบางคนที่มาพร้อมวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหาร
“อุ้ย! ขอโทษค่ะ” หญิงสาวรีบบอก
เธอวางผ้าปูที่นอนลงบนโต๊ะแล้วรีบช่วยเขาเก็บของที่หล่นกระจายบนพื้น แล้วเธอกับเขาก็บังเอิญหยิบหอมใหญ่หัวเดียวกัน เพียงเท่านั้นหญิงสาวก็ชะงักไป
พอเงยหน้าขึ้นมองเขา ก็เป็นจังหวะเดียวที่เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอพอดี...
เพียงสบตาคู่คม หัวใจดวงน้อยก็กระตุกวูบเหมือนมีกระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ แล่นไปทั่งทั้งร่าง ซ้ำใบหน้าของเธอก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล
พอรู้สึกตัวแสงเทียนก็รีบปล่อยมือทันที
“ขอโทษด้วยค่ะ เทียนไม่ทันเห็น”
“ไม่เป็นไรครับ” ชายหนุ่มยิ้มบางไม่ถือสา ดวงตาคู่คมยังจับจ้องที่ใบหน้านวลผ่องสวยหวานจับใจอย่างให้ความสนใจ แล้วเสียงกระแอมไอของบุคคลที่สามก็ดังขึ้น
