บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 เลือดศิวะพรหม (3)

น้าสาลีปักใจเชื่อทันทีว่าเป็นฝีมือของเธอที่ลักขโมยแหวนไป เพราะเธอเป็นคนเข้าไปทำความสะอาดในห้องนอนของน้าสาลีเพียงคนเดียว

พอมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแสงเทียนก็รู้สึกเหนื่อยอกเหนื่อยใจยิ่งนัก ถึงเธอจะมาจากครอบครัวที่ยากจน แต่เธอก็ไม่เคยคิดที่จะลักขโมยของของใครอยู่แล้ว ต่อให้ยากจนไม่มีกิน เธอก็มีศักดิ์ศรีไม่คิดที่จะหยิบฉวยของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง

อีกอย่างก่อนหน้าที่แหวนเพชรของน้าสาลีจะหายไป เธอเห็นรัศมีเข้าไปในห้องนั้น เธอก็ไม่อยากปรักปรำใครโดยไม่มีหลักฐาน แต่เห็นรัศมีมีพฤติกรรมลับ ๆ ล่อ ๆ น่าสงสัยมันก็ทำให้เธออดคิดไม่ได้

ก็พี่สาวต่างมารดารายนี้ติดเพื่อนชาย ใช้เงินฟุ่มเฟือย เที่ยวกลางคืน ชอบกินเหล้า โดดเรียนบ่อยครั้ง และกลับบ้านมืดค่ำเป็นประจำ บางทีก็ไม่กลับบ้านกลับช่องด้วยซ้ำ

หากรัศมีจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยเธอจะไม่แปลกใจเลย เพราะตัวน้าสาลีก็รู้ดีว่าลูกสาวของตัวเป็นเช่นไร แต่ในความเป็นจริงกลับไม่เป็นแบบนั้น ถึงรัศมีจะน่าสงสัยเพียงใด แต่คนที่กลายเป็นแพะรับบาปก็หนีไม่พ้นเธอ

ทั้งปู่ ทั้งย่าต่างก็ปักใจเชื่อน้าสาลีว่าเธอคือหัวขโมย!!

เธอปฏิเสธกับข้อกล่าวหานี้ แต่น้าสาลีก็พยายามปรักปรำ พยายามยัดเยียดความผิดให้เธอเป็นผู้แบกรับด้วยการสร้างหลักฐานเท็จ

คนไม่ได้กระทำความผิด จะให้ยอมรับผิดได้อย่างไร พอเธอปฏิเสธ น้าสาลีก็เฆี่ยนตีเธออย่างหนัก

‘ฉันอุตส่าห์รับแกมาเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี แกมันเลี้ยงไม่เชื่อง นังลูกเมียน้อย!!!’

แสงเทียนได้แต่ร่ำไห้ ลำพังถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมยก็หนักหนาสาหัสเกินจะรับไหวแล้ว แต่ที่เธอเสียใจมากกว่าเห็นจะเป็นเรื่องที่ว่าไม่มีใครปกป้องเธอเลย ทั้ง ๆ ที่เธอบริสุทธิ์ เธอไม่ใช่หัวขโมย

เธอไม่ได้ทำ!!

หลังจากที่น้าสาลีเฆี่ยนตีด้วยหวายจนสาแก่ใจแล้ว เธอก็ล้มป่วยเป็นไข้ โชคดีที่พ่อกลับจากต่างจังหวัดพอดีจึงรีบพาเธอส่งโรงพยาบาล จำได้ว่าเธอนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหลายวัน

นอกจากเป็นไข้แล้ว แผลเป็นจากการถูกเฆี่ยนตีที่แผ่นหลังก็เกิดการอักเสบ เมื่อเธอป่วยหนักแบบนี้ พ่อจึงไปเอาเรื่องกับน้าสาลี

แสงเทียนไม่รู้หรอกว่าพ่อทำอะไรน้าสาลีบ้าง แต่สิ่งที่เธอรู้ก็คือ ไม่มีคนของศิวะพรหมโผล่หน้ามาเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลสักคน จะมีก็แต่พ่อของเธอคนเดียวเท่านั้น

หลังจากที่หมออนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว พ่อก็พาเธอมาพักอยู่ที่แสงเทียนรีสอร์ท เธอก็เพิ่งรู้ว่าพ่อเป็นเจ้าของที่นี่ ซ้ำชื่อของเธอ กับชื่อของรีสอร์ทยังเป็นชื่อเดียวกัน

‘อยู่ที่นี่นะเทียน นี่คือบ้านของหนู พ่อตั้งใจจะยกรีสอร์ทแห่งนี้ให้หนูพ่อถึงตั้งชื่อนี้ รอให้หนูบรรลุนิติภาวะก่อนนะลูก พ่อจะโอนให้เป็นของหนู’

เธอไม่ได้สนใจสิ่งที่พ่อพูดนัก สิ่งที่เธอให้ความสนใจคือบรรยากาศของรีสอร์ทของพ่อเท่านั้น

แสงเทียนรีสอร์ทเป็นรีสอร์ทขนาดกลาง ปลูกสร้างเป็นเรือนแพอยู่เหนือเขื่อนศรีนครินทร์ของจังหวัดกาญจนบุรี บรรยากาศของรีสอร์ทโอบล้อมด้วยภูเขา ธรรมชาติ และอากาศบริสุทธิ์

เท่าที่เห็นนอกจากรีสอร์ทของพ่อแล้ว บริเวณใกล้เคียงกันนั้นก็ยังมีรีสอร์ทน้อยใหญ่อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีเรือนแพลอยน้ำอยู่หลายหลัง

พ่อพาเธอมาฝากไว้กับลุงแสนและป้าคำสองผัวเมียที่ช่วยพ่อดูแลรีสอร์ท ซึ้งทั้งสองยินดีเป็นอย่างมากที่จะดูแลเธอ

อยู่ที่นี่แม้จะไม่ใช่บ้านศิวะพรหม แต่เธอก็สุขกายสบายใจไร้เรื่องรบกวนใจ ลุงกับป้าที่ดูแลเธอนั้นไม่มีลูก ทั้งสองจึงเอ็นดูเธอเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้อยู่ที่นี่น้าสาลีก็ไม่ตามมาดุด่าเธออีก นี่จึงทำให้ชีวิตของเธอกลับมาสุขสงบอีกครั้ง

แม้พ่อจะพาเธอย้ายมาอยู่ต่างจังหวัด แต่พ่อก็แวะมาหาเธออยู่บ่อย ๆ นอกจากนี้พ่อยังส่งให้เธอได้เรียนหนังสือ แสงเทียนเลือกที่จะเรียนสายอาชีพ

เธอเลือกเรียนการจัดการโรงแรม ทั้งนี้เธอต้องการนำความรู้ที่ร่ำเรียนมาใช้ที่รีสอร์ทแห่งนี้ ซึ่งพ่อก็ตั้งใจส่งให้เธอเรียนจบปริญญาตรีเช่นกัน แต่ใครจะไปคาดเดาอนาคตได้ เรียนจบแค่ชั้นปวส. เธอก็ต้องเลิกเรียนกะทันหัน ทั้งนี้เป็นเพราะประสบปัญหาเรื่องทุนทรัพย์ครั้งใหญ่

พ่อประสบกับปัญหาเรื่องธุรกิจขาดทุน เคราะห์ซ้ำกรรมซัดก็มาถูกเพื่อนสนิทโกงเงินเป็นสิบ ๆ ล้าน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel