บทที่ 1 เลือดศิวะพรหม (2)
ทว่าดูเหมือนทั้งสองครอบครัวจะตกลงกันไม่ได้ หลายต่อหลายครั้งที่น้าสาลีไม่พอใจ ถึงกับตามมาหาเรื่องแม่ของเธอถึงบ้านในตอนที่พ่อไปดูงานตามต่างจังหวัด
แม่ไม่เคยปริปากนำเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อเลยสักครั้ง จะมีก็แต่เพื่อนบ้านที่ทนเห็นแม่ถูกรังแกไม่ได้จึงเป็นฝ่ายฟ้องพ่อ
ตัวเธอซึ่งเป็นลูกก็ไม่ชอบใจเท่าไหร่ที่ต้องเห็นแม่ถูกเมียอีกคนของพ่อรังแก เธอจึงเอาเรื่องน้าสาลีไปฟ้องพ่ออยู่บ่อย ๆ ตัวเธอเองไม่รู้หรอกว่าพ่อจัดการกับน้าสาลียังไง แต่มันก็ทำให้บ้านสงบไปได้มากเลยทีเดียว
ผู้หญิงคนนั้นไม่มารบกวนหัวใจแม่อีก เธอกับแม่จึงใช้ชีวิตอยู่กันอย่างมีความสุขตามประสาแม่ลูก จนกระทั่งเธออายุได้สิบสี่ แม่ก็มาด่วนจากไปด้วยอุบัติเหตุรถชน…
การจากไปของแม่ทำให้เธอหัวใจแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ เพราะแม่คือร่มโพธิ์ร่มไทรเพียงหนึ่งเดียวที่เธอมี
ในตอนนั้นเธอร้องไห้ปานจะขาดใจตายตามแม่ไปให้ได้ เธอไม่กินไม่นอน เอาแต่โศกเศร้าเสียใจจนร่างกายซูบผอม จนพ่อทนเห็นไม่ไหวจึงได้เข้ามากอดเธอไว้ทั้งน้ำตานองหน้า
‘เทียน ฟังพ่อนะลูก... ตอนนี้พ่อสูญเสียผู้หญิงที่พ่อรักที่สุดไปแล้วคนนึง อย่าให้พ่อต้องเสียเทียนไปอีกคนเลยนะลูก’
พ่อผู้เข้มแข็งพูดแบบนั้นก็ดึงสติของเธอให้กลับมา มันทำให้เธอคิดได้ว่า ต่อให้ร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด ร้องไห้จนน้ำตาท่วมมหาสมุทร แม่ก็ไม่มีวันฟื้นขึ้นมา
ที่สำคัญ หากเธอเป็นอะไรไปอีกคน พ่อที่เธอรักจะทำอย่างไร...
พอผ่านพ้นงานทำบุญร้อยวันของแม่ไปแล้ว พ่อก็มารับเธอไปอยู่บ้านย่า ตอนแรกที่รู้ว่าจะได้อยู่กับปู่ย่า แสงเทียนดีใจมาก ก็ตั้งแต่เกิดและโตเธอไม่เคยเห็นหน้าปู่กับย่าสักครั้ง
อีกอย่างเธอก็ไม่มีญาติผู้ใหญ่ที่ไหน แต่พอได้ย้ายเข้ามาอยู่บ้านศิวะพรหม เธอก็พบว่าที่บ้านของปู่ย่ายังมีน้าสาลี เมียอีกคนของพ่อก็อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ด้วยเช่นกัน...
การที่เธอไม่ใช่หลานรักของปู่กับย่าไม่ได้สร้างปัญหาให้เธอทุกข์ใจเท่ากับการรับมือน้าสาลีผู้เป็นแม่เลี้ยง และรัศมีพี่สาวต่างมารดาที่ดูเหมือนจะตั้งป้อมเกลียดเธอตั้งแต่วินาทีแรกที่เธอก้าวเข้ามาสู่บ้านศิวะพรหม
หลายครั้งที่เรื่องเดินหน้ามาหาโดยที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิด และทุกครั้งก็เป็นเธอที่ต้องก้มหน้ารับข้อกล่าวหาที่แม่เลี้ยงและพี่สาวมอบให้ ที่ร้ายแรงสุดเห็นจะเป็นเรื่องของหาย
เธอกลายเป็นหัวขโมยประจำบ้าน นอกจากถูกใส่ร้ายแล้ว เธอยังถูกทำโทษ ทั้งที่ความจริงเธอไม่เคยแตะต้องของมีค่าในบ้านหลังนี้เลยสักครั้ง
จะว่าไปแม้เธอจะเป็นลูกที่ถูกต้องตามกฎหมายของพ่อ อีกทั้งมีเลือดศิวะพรหมเต็มตัว แต่ความเป็นอยู่ของเธอก็ดูไม่ต่างจากเด็กรับใช้ในบ้านสักเท่าไหร่
จะดีก็ตรงที่ว่าพ่อยังส่งให้เธอได้เรียนหนังสือ จึงทำให้เธอพอมีความรู้ติดตัวบ้าง แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ใช่ว่าเธอจะอยู่ที่บ้านศิวะพรมอย่างสุขสบาย
เวลาที่พ่ออยู่บ้าน ก็ดูว่าทุกคนในบ้านจะดีกับเธอเป็นพิเศษ โดยเฉพาะน้าสาลีที่พยายามแสดงให้พ่อเห็นชัดเลยว่า ‘เอ็นดู’ เธอเต็มประดาไม่ต่างจากลูกในไส้ แต่พอพ่อไม่อยู่บ้าน เธอก็ไม่ต่างจากเด็กรับใช้คนหนึ่งในบ้านเท่านั้น
เธอต้องทำงานบ้านแทบจะทุกอย่าง และทำงานทุกอย่างตามที่น้าสาลีสั่ง หากทำงานได้ไม่ถูกใจ เธอก็มักจะถูกน้าสาลีลงโทษเสมอ ไม่ถูกสั่งให้อดข้าว ก็ถูกตบถูกตี ถูกด่าทอสารพัด
แม้อยากจะฟ้องพ่อ แต่เธอก็ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะน้าสาลีข่มขู่เธอเอาไว้
‘ถ้าแกฟ้องผัวฉันละก็... คอยดูเถอะ ฉันจะเล่นงานแกให้หนักกว่านี้แน่ นังตัวดี!’
ก็ไม่รู้ว่าเป็นเวรกรรมอะไร เธอเคยไปทำอะไรให้น้าสาลีเจ็บช้ำน้ำใจหนักหนา น้าสาลีถึงได้ใจร้ายกับเธอนัก
สิ่งที่เธอทำได้ก็คือ อดทน และก้มหน้ารับชะตากรรมไปเท่านั้น
ครั้นจะไปพึ่งใบบุญของปู่กับย่า ก็ดูเหมือนจะเปล่าประโยชน์ ท่านทั้งสองแม้จะเมตตาให้เธออาศัยอยู่ในบ้านศิวะพรหมด้วย แต่ท่านทั้งสองแทบไม่เคยเห็นเธออยู่ในสายตาด้วยซ้ำ
ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอ ปู่กับย่าก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเสียทุกครั้ง จนกระทั่งเมื่อสามปีก่อนมีเรื่องเกิดขึ้นในบ้าน แหวนเพชรของน้าสาลีหายไป...
