บทที่ 2 ชิดใกล้ (3)
แสงสุดท้ายของวันเป็นสีส้ม นกกาที่ออกหากินต่างก็พากันบินกลับรัง วาดดาวนั่งเหม่ออยู่ที่กรอบหน้าต่างอย่างรอคอยเวลา แล้วเธอก็เห็นรถบิ๊กอัพสีดำแล่นเข้ามาจอดในบริเวณรั้วบ้าน พอเห็นว่าเป็นพ่อเลี้ยงชโลทร วาดดาวก็รีบออกไปดูทันที
เมื่อเห็นพ่อเลี้ยงหนุ่มก้าวลงจากรถ หญิงสาวก็ลงไปต้อนรับพร้อมยิ้มหวานให้กับเจ้าของบ้าน แต่เธอก็ต้องหุบยิ้มเพราะชายหนุ่มไม่ยิ้มตอบ ซ้ำเขายังมีสีหน้าติดดุดูน่ากลัว
วาดดาวหลบสายตาคู่คมดุที่มองมายังเธอทันที
“มาช่วยขนของหน่อยสิ”
วาดดาวรีบทำตามคำสั่งอย่างกระตือรือร้น นอกจากอาหารสำหรับมื้อเย็นแล้ว ยังมีอาหารสด และรวมไปถึงเสื้อผ้า
“ดูซิ ใส่ได้มั้ย?” เขาส่งถุงกระดาษยี่ห้อห้างสรรพสินค้าชื่อดังมาให้หญิงสาว
รับมาแล้ววาดดาวก็เดินเข้ามาในบ้านเพื่อเปิดดูข้าวของ พอเห็นว่าเป็นชุดชั้นในเซ็กซี่ ใบหน้าก็เห่อร้อนขึ้นมา
แล้วเธอก็หยิบบราเซียร์ขึ้นมาดู เห็นแล้วก็อดปรายตาไปมองคนซื้อมาให้อย่างอดไม่ได้
เขากะขนาดได้แม่นยำเหลือเกิน ทั้งที่เธอไม่เคยบอกรายละเอียดกับเขาเลย
“ใส่ได้ใช่ไหม?”
“ค่ะ” วาดดาวตอบรับเสียงแผ่ว
“หิวยังล่ะ มากินข้าวกันเถอะ”
วาดดาววางถุงกระดาษลง แล้วจัดการนำอาหารสำเร็จรูปที่เขาซื้อมาไปแกะใส่จาน พออิ่มท้องแล้วเธอก็จัดการเก็บจานชามไปล้าง ซึ่งพ่อเลี้ยงชโลทรก็ได้ช่วยเธอด้วย
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทำได้ คุณพักเถอะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ชอบเอาเปรียบผู้หญิง”
พอชายหนุ่มบอกแบบนั้นวาดดาวเลยไม่กล้าขัดใจ พอล้างจานเสร็จแล้ว เธอก็หันไปสนใจเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวที่พ่อเลี้ยงหนุ่มซื้อมาให้
“จะทยอยซื้อเสื้อผ้าให้เรื่อย ๆ ก็แล้วกัน ไม่รู้ว่าชอบแบบไหน”
“คุณไม่ต้องซื้อเพิ่มหรอก ฉันกลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านก็ได้ จะได้ไม่รบกวนคุณด้วย” หญิงสาวบอกอย่างเกรงใจ
ก็เท่าที่เขาหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับครอบครัวเธอ ก็มากมายจนเธอไม่รู้จะตอบแทนเขายังไงแล้ว
ชายหนุ่มส่ายหน้าไม่เห็นด้วย
“เธอเป็นเมียฉันแล้ว ฉันไม่ปล่อยให้เธอใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ พวกนี้หรอก แต่งตัวให้ดีหน่อย คนอื่นจะได้ไม่เอาฉันไปนินทาว่าดูแลเมียไม่ดี”
วาดดาวได้แต่ฟัง เพราะคำว่า ‘เมีย’ ที่เขาพูดออกมาเต็มปากเต็มคำนั้น ทำให้เธอรู้สึกกระดากอายอยู่ไม่น้อย
ก็เมื่อเช้าเธอยังมีโสดอยู่เลย แต่ตกเย็นเธอก็กลายเป็นเมียของพ่อเลี้ยงชโลทรไปแล้ว
“เป็นไงบ้าง อยู่บ้านคนเดียวได้มั้ย?”
หญิงสาวพยักหน้า “ได้ค่ะ เสียอย่างเดียว ไม่มีอะไรให้ฉันทำเลย”
คิ้วเรียวของชายหนุ่มย่นเข้าหากัน
“อยากทำอะไรล่ะ?”
“ปกติฉันรับจ้างซักรีด แล้วก็รับจ้างทำงานในสวน”
ชโลทรก็นิ่วหน้า “ฉันให้เธอไปทำงานในสวนเหมือนแต่ก่อนคงไม่ได้ แต่ถ้าอยากทำงานบ้านฉันก็ไม่ว่า แต่เธอต้องรู้ไว้ หน้าที่ของเธอไม่ใช่ทำความสะอาดบ้าน หน้าที่ของเธอคือดูแลปรนนิบัติฉัน ทำให้ฉันมีความสุข”
“ค่ะ” อ้อมแอ้มรับคำวาดดาวก็นำเสื้อผ้าเข้าไปเก็บในห้อง
พออาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนที่ชายหนุ่มซื้อมาให้ วาดดาวก็มานั่งแปรงผมที่หน้าโต๊ะกระจก ยิ่งเห็นตัวเองในสภาพที่แปลกตาออกไป เธอก็ยิ่งสะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูก
ตอนนี้เธอไม่ต่างจากสินค้าที่ถูกขายมาเลยด้วยซ้ำ แต่ถึงจะรู้สึกแบบนั้น เธอก็ต้องทำใจยอมรับให้ได้ เพราะมันไม่มีทางเลือกที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว
ระหว่างนั่งเหม่อคิดอะไรเพลิน ๆ หญิงสาวก็สะดุ้งกับเสียงกระแอมไอ พอหันไปมองก็เห็นว่าเป็นพ่อเลี้ยงหนุ่ม ตอนนี้เขาสวมชุดนอนเป็นผ้าแพรสีน้ำเงิน และเขาก็เข้าถึงตัวเธอแล้ว
พอสบตากับเธอเขาก็หยุดนิ่ง ดวงตาคู่คมเป็นประกายระยับ มุมปากยกขึ้นเหมือนรอยยิ้ม แต่วาดดาวก็ไม่เรียกสิ่งที่เห็นว่ารอยยิ้ม
“เห็นไฟในห้องเปิดอยู่ เลยเข้ามาดูความเรียบร้อย เป็นไง คิดว่าอยู่ได้มั้ย?”
วาดดาวพยักหน้าน้อย ๆ “ถ้าฉันบอกคุณว่าอยู่ไม่ได้ คุณจะอนุญาตให้ฉันกลับบ้านได้หรือเปล่า?”
ชายหนุ่มหรี่ตาลง แล้วส่ายหน้าน้อย ๆ
“กลับได้ แต่ยังไม่ใช่คืนนี้”
ไม่บอกเพียงอย่างเดียว ชโลทรยังยื่นมือมาสัมผัสแก้มนุ่ม สอดมือที่ท้ายทอยของหญิงสาวแล้วมองหญิงสาวด้วยสายตาเป็นประกายระยับ เขาหยุดสายตาไว้ที่ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ
ไม่ทันได้ลิ้มรสความหวาน วาดดาวก็ขืนตัวแล้วเดินหนีไปนั่งที่เตียงดื้อ ๆ เพื่อหนีความอึดอัด
