บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 หยาดฝน ในร่างปานฝัน

เช้าวันรุ่งขึ้น หยาดฝนตื่นขึ้นมาในห้องของปานฝัน พร้อมพยายามค้นหาเสื้อผ้าที่คิดว่าพอจะแมทช์ให้ดูดีได้

"ก็โอเค แต่งใสๆ ก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย" หยาดฝนว่าพลางหมุนตัวไปมาอยู่ที่หน้ากระจกบานเล็ก ที่พอให้ได้เห็นเรือนร่างผอมในชุดเอี๊ยมยีนสีเข้มกับเสื้อยืดสีขาวลายตุ๊กตา น่าจะเป็นชุดที่นานแล้ว ไม่ได้ถูกรื้อเอาออกมาใส่

แต่สีหน้าที่ดูมีเลือดฝาดในเช้าวันนี้ของปานฝัน ก็ทำให้คนที่สวมร่างของเธออยู่เห็นได้ว่า ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นคนที่มีหน้าตาน่ารักและจิ้มลิ้มคนหนึ่ง อาจจะเพราะอาหารที่รับประทานเข้าไปเยอะเมื่อเย็นวาน ทำให้เลือดสูบฉีดไปทั่วร่างเล็ก

"ปากนิด จมูกหน่อย ไม่ได้สวยผุดผาด แต่ก็น่ารักแบบใสๆ" เธอเอ่ยปากชมอย่างจริงใจ ก่อนจะหันมองไปยังฝ้าและเพดานที่เต็มไปด้วยรูปของตัวเอง

รูปที่มีใบหน้าสวยคมหวาน จมูกโด่งพุ่งเป็นสัน รับกับคิ้วนางฟ้า ที่จรดโค้งรับกับดวงตากลมโตที่ประกายความหวานขนตายาวเป็นแพงอนเด้ง

"หยาดฝน" ไม่ได้เป็นแค่นักร้องเสียงหวานและทรงพลังเท่านั้น แต่ใบหน้าฟ้าประทานของเธอยังเป็นที่โจษจันในแวดวงบันเทิงอีกด้วย

หยาดฝนในร่างของปานฝันกลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อย เมื่อความรู้สึกหลากหลายได้ตีตื้นขึ้นมา...

เธอจะมีโอกาสได้กลับร่างของตัวเองหรือเปล่านะ แทบจะไม่มีวันรู้ได้เลย

นี่คงจะเป็นความรู้สึกแรกของชีวิต ที่รู้สึกคิดถึงตัวเอง...คิดถึงเหมือนคิดถึงคนอื่น ใช่สิ ตอนนี้เธอก็เป็นเหมือนคนอื่นของตัวเองไปแล้ว

"ก๊อกๆ" สิชลเอ่ยขึ้นเบาๆ เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วพบว่า เธอกำลังยืนน้ำตารื้นอยู่

"เปิดเข้ามาแล้ว ไม่ต้องเคาะก็ได้มั้ง" เธอตอบเขาแบบไม่หันไปมองหน้าและพยายามกลืนน้ำตาลงไป

เพราะว่ายังไง ความรู้สึกและสิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่ ก็ไม่มีวันที่ใครจะเข้าใจอยู่แล้ว

"โทษทีมันชินน่ะ ปกติฝันจะไม่ล็อกประตูและนอนนิ่งๆ อยู่บนเตียง ชลจะเปิดเข้ามาตอนไหนก็ได้ เพราะต้องเข้ามาดูแลฝัน" สิชลว่าอย่างรู้สึกผิด แต่ก็เก้กังไม่น้อย เพราะแม้ภายนอกเธอจะคือปานฝัน แต่ทั้งสายตาและคำพูดของเธอ ทำให้เขารับรู้ได้ถึงความไม่ใช่อยู่เนืองๆ

"จ้า! แล้วนี่ ทำไมแต่งตัวชิลขนาดนี้อ่ะ...ปกติไปข้างนอก ก็แต่งแบบนี้เหรอ?" ปานฝันหันมามองสิชลตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ที่มีเสื้อกล้ามสีขาวตัวเก่ากับกางเกงยีนขาสั้นที่ชายรุ่งริ่งพอสมควร

"เดี๋ยวนะ ไปข้างนอก?"

"อื้อ ใช่ ไปข้างนอก" สิชลขมวดคิ้วเข้าพลางทบทวนว่าเมื่อคืนตัวเองพูดอะไรกับปานฝันไปบ้าง

"เดี๋ยวนะ ยังไง ทำไมต้องไปข้างนอกนะ แล้วจะไปไหน" เขาพยายามเรียบเรียงใหม่ เพราะเมื่อคืนปานฝันรับประทานอาหารเยอะที่สุดในรอบหลายเดือน นอกจากรับประทานปลาส้มย่างใบตอง แจ่วปลาร้าบองโรยเมล็ดกระถิน หน่อไม้ต้มและไข่เจียวแล้ว ปานฝันยังอยากรับประทานส้มตำ ยำรสจัด เธอรับประทานเยอะมากจน...ผิวหน้าดูเอิบอิ่มขึ้น ผิดจากเมื่อวานราวกับหายจากโรคมะเร็งแล้วอย่างไรอย่างนั้น

และที่สำคัญ เธอทำให้ทุกคนหัวเราะ มีความสุข พูดคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้กันมากมาย จนเขาแทบจะจำไม่ได้ว่าได้พูดอะไรกับเธอไปบ้าง

"ก็เมื่อวานไง ที่แม่กับพ่อบอกว่าถ้าฉันอยากจะทำอะไร ก็ให้ทำได้อย่างเต็มที่เลย และนายก็รับปากว่าจะพาฉันไปทำทุกอย่างที่ฉันอยากทำ จำไม่ได้เหรอ?" หยาดฝนคิดมาดีแล้ว ว่าเธอจะต้องเรียกแทนตัวเองแบบนี้เพื่อให้ผู้ชายคนนี้เชื่อซะทีว่าเธอคือใคร ไม่เชื่อวันนี้ก็ไม่เป็นไร เธอจะทำให้เขาชินและเชื่อให้ได้ ว่าเธอไม่ใช่ปานฝัน!

"ก็ใช่ รับปากจริง แต่ก็ไม่คิดว่าจะไปเช้านี้เลยไง"

"ฉันจะไปเช้านี้เลย นายพาไปด้วยและไปแต่งตัวใหม่ด้วยนะ สภาพนี้ไม่ผ่าน ขอ!" ว่าแล้วเธอก็ดันเขาออกจากห้องนอนตัวเองไป ก่อนจะมาเตรียมของใหม่ ว่าเธอควรจะเอาอะไรไปด้วยบ้าง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับตัวเอง

สิชลแต่งตัวใหม่มาในชุดเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนสีเข้ม รับกับรองเท้าผ้าใบยี่ห้อดีที่ปานฝันเคยซื้อให้ สวมทับด้วยแจ๊คเก็ตหนังสีดำตัวเก่ง หยาดฝนพยักหน้าให้กับลุคนี้ของเขา ที่ดูดีใช้ได้

"นายนี่รสนิยมก็ใช้ได้เหมือนกันนะ ดูหล่อคูลขึ้นมาเลย" เธอชมจากใจ แต่ทำให้คนที่ไม่เคยได้รับการชมจากใครแบบซึ่งๆ หน้า แอบไปไม่เป็นเล็กน้อย

"ไปกันเถอะ อ้าวนี่ของฝัน" เขายื่นหมวกกันน็อคสีชมพูใบน่ารักส่งมาให้ ไม่ใช่ใบเดียวกับเมื่อวานที่เธอสวมตอนนั่งกลับมา

"หือ สีชมพูซะด้วย...ปานฝันชอบสีชมพูเหรอ?" เธอเห็นหลายอย่างในห้องเธอเป็นสีชมพู แต่ก็ไม่ทั้งหมด เพราะมันจะมีสีเหลืองแซมด้วย

"ใช่ แต่พอรู้ว่าแม่ศิลปินพายุฝนอะไรนั่นชอบสีเหลือง ก็เริ่มชอบสีเหลืองตาม"

"โห จริงปะ...สุดยอดเลยอ่ะ" หยาดฝนอดปลื้มใจไม่ได้ที่แฟนตัวยงให้ความสำคัญกับเธอมากขนาดนี้

"แต่เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้นายเรียกฉันว่าอะไรนะ...พายุฝน เหรอ?" เธอทำเป็นหน้าบึ้งใส่เขา จนสิชลหัวเราะออกมา

"ฝันครับ ฝันคือปานฝัน ไม่ใช่คุณหยาดฝน ศิลปินคนโปรด ฝันต้องตั้งสตินะ...ชลขอโทษก็ได้อ่ะ ที่ว่าศิลปินคนโปรดของฝัน"

"นี่ถามจริงเถอะ หยาดฝนเขาไปทำอะไรให้นายเหรอ ถึงได้จงเกลียดจงชังขนาดนี้ เคยขอถ่ายรูปแล้วเขาไม่ให้หรือว่าทักทายแล้วเขาเดินหนี" หยาดฝนผู้ไม่เคยมีแอนตี้แฟนมาก่อน เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหนใครๆ ก็รู้จักเธอและรักเธอกันทั้งนั้น เพราะเธอไม่หยิ่งแถมยังเป็นกันเองกับแฟนคลับทุกคนด้วย

"ช่างเถอะฝัน ขึ้นรถเถอะ ไปกันได้แล้ว...ว่าแต่จะให้พาไปไหนก็บอกทางละกัน เดี๋ยวชลพาไป" เขาผู้คิดไปเองว่าเธอคงไม่ได้มีสถานที่อยากไปจริงๆ หรอก น่าจะอยากนั่งรถเล่นมากกว่าแต่เรียบเรียงออกมาไม่ได้

"ไปที่บริษัทของแฟนฉัน คุณหัสนัย ตึก H ใหญ่รู้จักเปล่า ถ้าปานฝันเป็นแฟนตัวยงของหยาดฝน ก็ต้องเคยไปบ่อยอยู่แล้วล่ะ" หยาดฝนว่าพร้อมขึ้นไปนั่งคร่อมบนรถมอเตอร์ไซด์คันใหญ่ของเขา

"เดี๋ยวนะ จะไปทำไมอีก เขาไล่ตะเพิดมาขนาดนั้น ยังอยากจะไปเจอเขาอีกเหรอ" น้ำเสียงของสิชลขรึมขึ้น ยอมรับว่ารู้สึกห่วงปานฝัน หากจะต้องไปเจอคนพวกนั้นอีก

"ไม่รู้แหละ นายสัญญากับฉันแล้วไง ว่าจะพาไปทุกที่ที่อยากไป ห้ามปฏิเสธ" ทีท่าขึงขังของเธอทำให้เขาสัมผัสความไม่ใช่ปานฝันได้จางๆ

เอาวะ ถือว่าเก็บข้อมูลก็แล้วกัน

พอรถออกตัว หยาดฝนก็นึกอะไรสนุกๆ ออก เธอกอดเอวสิชลแน่นกว่าปกติ จนเขาตัวเกร็ง แข็งทื่อ

"ถามอะไรหน่อยสิ ปานฝันเคยกอดนายแน่นขนาดนี้ไหม" เธอจงใจเบียดหน้าอกลงไปกับแผ่นหลังกว้างของเขาเชิงแกล้ง ตามประสาของคนขี้เล่นอารมณ์ดี ที่มีอยู่ทุนเดิม

"ไม่เคยอ่ะ ขยับออกหน่อย" เขาบอกเสียงดัง ฝ่าเสียงลมที่เกิดจากรถแล่น

"หือ จะให้ขยับออกทำไม ก็ถือโอกาสใกล้ชิดเขาไปเลยสิ เดี๋ยวฉันเบียดให้ชิดเลย!" แล้วหยาดในก็กอดเขาแน่นมากกว่าเดิม แนบใบหน้าลงไปกับแผ่นหลังแน่น ความหอมจากเรือนกายชายที่ดูอบอุ่นน่าปลอดภัย ทำให้หญิงสาวไปไม่เป็นไปชั่วขณะ อยู่ๆ ใจของเธอก็เต้นแรงขึ้นมา

เธอเห็นว่าความรู้สึกลึกๆ ของปานฝัน ก็มีความปลื้มสิชลอยู่ในนั้นไม่น้อยเหมือนกัน...

ที่แท้ เธอก็มีใจให้ผู้ชายคนนี้สินะปานฝัน

หยาดฝนแนบใบหน้าลงไปในแผ่นหลังของเขาให้สนิทมากขึ้น ซึมซับความรู้สึกดีดีที่สองเรือนร่างมีให้กัน แล้วนึกไปถึงหนุ่มคนรัก ที่ไม่รู้ว่าป่านนี้เขาจะเสียใจแค่ไหน กับการนอนหลับไม่ตื่นของเธอ

ฝนคิดถึงพี่นัยจัง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel