
บทย่อ
คำโปรย ความสุขราวกับอยู่ในเทพนิยายของเจ้าสาว วัย 25 ปี จะต้องสิ้นสุดลง...เมื่ออยู่ๆ เธอก็เป็นลมหมดสติไปในงานแต่งงานของตัวเอง และตื่นมาอีกที ในร่างของใครก็ไม่รู้! อารัมภบท หญิงสาวมองตัวเองในกระจกเป็นครั้งแรก หลังจากได้วิ่งวนตามหาเจ้าบ่าวของตัวเองไปจนทั่ว เธอพบเจอเขาแล้ว พบเจอทุกคนที่เธอรู้จัก แต่ทว่า เหมือนไม่มีใครรู้จักเธอเลยสักคน “โอ้...มายก็อด นี่เราอยู่ในร่างใครกันเนี่ย?” ผมเผ้ายุ่งเหยิงในกระจก สอดรับกับใบหน้าซีดเซียวที่เหมือนไม่ได้มีเลือดไปเลี้ยง กับริมฝีปากเทาปนเขียวที่ทำให้เธอต้องกัดเม้มริมฝีปากตัวเองไปหนึ่งที “ถึงว่า...ทำไมใครๆ ก็พากันวิ่งหนี หน้าอย่างกับผี...” เธอว่าพร้อมจับใบหน้าของผู้หญิงในกระจกไปมา ก่อนจะเหลือบไปมองชายร่างสูงที่วิ่งตามเธอไปทุกที่ตลอดการวิ่งวน และตอนนี้ก็มายืนอยู่ด้านหลังเธอ ในห้องน้ำหญิงของโรงพยาบาลแห่งนี้ กระจกเงาตรงหน้าสะท้อนความคมคายได้สัดส่วนของเรียวหน้านั้น แววตาคมปลาบทอประกายอบอุ่น พร้อมปกป้อง ปะปนไปด้วยความสงสาร แตกต่างจากทุกสายตาที่เธอได้พบเจอ ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ยอมรับเลยว่ามันทำให้ใจที่ร้อนรนของเธอค่อยๆ ผ่อนลงได้ ก่อนหันไปเผชิญหน้ากับชายผู้นั้น พร้อมเอ่ยถามว่า... “เป็นผัวคนนี้เหรอ?” เรื่องราวมันจะเป็นยังไง เธอไปอยู่ร่างของใคร ? เธอจะติดต่อกับครอบครัวแท้จริงได้หรือไม่ ? จะมีคนเชื่อในสิ่งที่เธอพูดไหม ? แล้วสุดท้ายเธอจะได้กลับไปอยู่ในร่างเดิมของตัวเองได้หรือเปล่า ? ฝากติดตามและเป็นกำลังใจให้เจ้าสาวที่เปียกฝนคนนี้ด้วยนะคะ เทพีปรัมปรา พฤษภาคม 2567
บทที่ 1 เจ้าสาวที่โชคดีที่สุดในโลก
“เหมาะสมกันยิ่งกว่ากิ่งทองกับใบหยก”
“นั่นสิคะ ในแผ่นดินนี้ ไม่รู้จะมีบ่าวสาวคู่ไหน...เหมาะสมกันเท่ากับคู่นี้อีกรึเปล่า” บทสนทนาของแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมแสดงความยินดี ในค่ำคืนนี้ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน
บรรยากาศในงานถูกตกแต่งไปด้วยดอกไม้สีขาวและคริสตัล ที่เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของความฝัน ตามสไตล์ Fairy Tale
ฉากในงานจำลองจนเหมือนเดินเล่นอยู่ในงานเลี้ยงสุดหรู ของพระราชวังขนาดใหญ่ สีขาวของดอกไม้ตัดกับคริสตัลที่ถูกประดับไว้ในเครื่องเรือนต่างๆ ส่องประกายวิบวับ สะท้อนเข้ากับรอยยิ้มของผู้คนในงาน
“ขอบพระคุณสำหรับเสียงปรบมือครับ...” นักร้องหนุ่มเสียงมีพลัง กล่าวขึ้นหลังโชว์พลังเสียงสร้างบรรยากาศให้กับงาน ราวกับเป็นระฆังเงินของค่ำคืนนี้
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสมามอบบทเพลงสุดพิเศษให้กับน้องสาว ที่ผมรู้สึกชื่นชมเธอในฐานะนักร้องคุณภาพ ที่มีชื่อเสียงไปไกลระดับโลก ไปพร้อมๆ กับการเป็นน้องสาวที่น่ารัก และนอบน้อมกับทุกคนมาเสมอ” บู๊ด บั๊บเบิ้ล นักร้องที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานข้ามกาลเวลา มาร่วมร้องเพลงให้กับน้องสาวในวงการอย่าง หยาดฝน Rain for Love
เจ้าของเสียงเพลงทรงพลังและแว่วหวาน สร้างตำนานดังไปทั่วโลก ตั้งแต่อายุ 13 ปี จนวันนี้...ที่เธอมีอายุ 25 ปีแล้ว
เส้นทางในวงการที่งดงาม ทำให้ใครๆ ก็ต่างเรียกขานว่าเธอคือเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง
“พี่บู๊ด ขอให้น้องทั้งสองถือไม้เท้ายอดทองตะบองยอดเพชร มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมืองเลยนะครับ” แล้วเสียงปรบมือก็ดังลั่น ตามมาด้วยนักร้องรับเชิญที่ได้มาร่วมร้องเพลง
ให้ฉากงานวิวาห์ที่เหมือนพระราชวังโออ่า เต็มไปด้วยบทเพลง
“ขอบคุณนะครับ...ที่มาเป็นเจ้าสาวของพี่” น้ำเสียงนุ่มทุ้ม ดังขึ้นมาอีกรอบ เมื่อมองเห็นรอยยิ้มกว้าง แววตาที่เต็มไปด้วยความสุขของผู้เป็นเจ้าสาว
หัสนัย เลิศมนตรี เป็นนักธุรกิจหนุ่มชื่อดัง ที่ดูแลบริษัท H-entertainment ของตัวเองมายาวนานกว่า 20 ปี ตอนนี้เขามีอายุ 35 ปีแล้ว เป็นหนุ่มใหญ่ที่พร้อมจะสร้างครอบครัว
หลังจากที่ตามจีบนักร้องซุปเปอร์สตาร์สาวอย่างหยาดฝนสำเร็จ เขาก็พูดถึงเรื่องงานแต่งงานมาเรื่อยๆ แต่กว่าที่เธอจะพร้อมตกลงปลงใจ ก็ย่างเข้าปีที่ 5
ซึ่งก็คือปีนี้...
“ขอบคุณเหมือนกันนะคะเบ๊บ ที่เนรมิตงานวิวาห์ที่เหมือนได้เป็นเจ้าหญิงในนิทานจริงๆ ให้บี๋แบบนี้” หยาดฝน เชื้อสกุล ยิ้มแฉ่งให้กับเขา พร้อมคล้องแขนแนบแก้มเข้าหาต้นแขนล่ำสัน ที่มีชุดเจ้าบ่าวสีขาวสวมทับอยู่
วันนี้คู่บ่าวสาว สวมใส่ชุดสีขาวเข้ากัน หยาดฝนใส่ชุดราตรียาวเฟื้อยสีขาวนวลดุจไข่มุก มีโบว์ประดับช่วงเอวด้านหลังอย่างโดดเด่น เนื้อผ้าคาดบริเวณเนินอกประดับไปด้วยคริสตัลระย้า ประกายแสงวับวาว ส่งให้ปลีไหล่ของเธอนวลผ่องขึ้น
“ก็น้องฝนเป็นเจ้าหญิงของพี่จริงๆ นี่ครับ...จะไม่ให้พี่เนรมิตให้ได้ยังไง” แล้วทั้งสองก็เดินไปทักทายแขกเหรื่อที่มาร่วมแสดงความยินดีจนเต็มงาน
มีทั้งเพื่อนในวงการธุรกิจของหัสนัยและเพื่อนในวงการบันเทิงของหยาดฝน ซึ่งต่างก็เป็นผู้มีชื่อเสียงกันทั้งสิ้น
“นี่แก...พี่เจผู้จัดมาด้วยนะ อยู่ด้านหลัง เจอกันยัง” พิมพ์แข ขวัญพินิจ ผู้จัดการสาวสวย ที่ช่วยวิ่งดูแลความเรียบร้อยของงาน โผล่มากระซิบจากทางด้านหลัง ในขณะที่เจ้านายกึ่งเพื่อนของเธอ กำลังพูดคุยทักทายแขกฝั่งเจ้าบ่าวอยู่
“ยังเลยแก...เดี๋ยวรอสักครู่นะ เดี๋ยวฉันไป” ฉีกยิ้มตอบรับพร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่พอได้ยินกันสองคน เพราะรู้ดีว่าแขกคนนี้สำคัญแค่ไหน
ท่ามกลางความราบรื่นก็ยังมีความวุ่นวาย เพราะนักร้องสาวชื่อดัง มีแผนว่าจะออกอัลบั้มเพลงใหม่ หลังแต่งงานเสร็จอยู่พอดี
“อ้าว ยัยกิ่ง...ทำไมมาช้า” แต่ไม่ทันที่จะได้ก้าวไป แพทย์หญิงกิ่งฉัตร มาลัยกุล เพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาล ก็มาในชุดสีฟ้าน้ำทะเล เข้าธีมงาน สีขาว-ฟ้า ตามที่เจ้าของงานได้ให้รายละเอียดในการ์ดแต่งงานไป
“เพิ่งผ่าตัดเสร็จน่ะ...ดูสิ หน้ายังซีดอยู่เลย” ว่าเชิงขอลุแก่โทษ แต่ก็ส่งสายตาที่แสดงว่ายินดีกับเพื่อนอย่างสุดซึ้งจริงๆ
“ซีดอะไรสวยขนาดนี้ ขอบใจนะที่มาได้” หยาดฝนว่าออกจากใจ เพราะเธอลุ้นแทบตาย ว่าขอให้เพื่อนไม่มีผ่าตัดด่วนในค่ำคืนนี้ แต่ก็มีจนได้...
ใช่ กิ่งฉัตรต้องไปผ่าตัดด่วนตอนบ่ายสามและยาวมาจนถึงเวลานี้
“ฉันยินดีกับแกและพี่นัยด้วยนะ สวยหล่อกันทั้งคู่เลย ขอให้ทั้งคู่มีความสุขมากๆ นะ...ของขวัญฉันเอาไว้หน้างานให้แล้ว” หยาดฝนพยักหน้าน้ำตาเอ่อ เอาจริงๆ เธอก็ไม่คิดเหมือนกันว่างานแต่งงาน จะทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งรู้สึกมีความสุขได้ขนาดนี้
การได้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศอันสวยสดงดงาม ได้ใส่ชุดสวย ได้รายล้อมไปด้วยคำอวยพร รอยยิ้ม ของคนที่รักเราทั้งหมด มันบรรยายความรู้สึกออกมาได้ ไม่หมดสิ้นจริงๆ
“ขอบคุณมากเลยนะครับ ฝนบ่นกับพี่และชะเง้อหาหมอกิ่งตลอดงานเลย...ถ้าเพื่อนรักมาไม่ได้ งานนี้ต้องมีร้องไห้ขี้มูกโป่งแน่” หัสนัยเย้าเจ้าสาวของตัวเองเล่น จนทำให้สองสาวหัวเราะกันคิกคัก
“ฉันดีใจกับแกจริงๆ นะ...ดีใจมากจริงๆ ฝากดูแลยัยฝนเพื่อนกิ่งด้วยนะคะพี่นัย” หัสนัยรับปากอย่างไม่หวั่นไหว เพราะเขาตั้งใจว่าชีวิตทั้งหมดเหลือ เขาจะใช้กับผู้หญิงคนนี้คนเดียวเท่านั้น
แล้วคู่บ่าวสาวก็ถูกเชิญขึ้นบนเวที หลังจากที่ญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายและแขกกิตติมศักดิ์ ได้ขึ้นไปกล่าวคำอวยพรให้กับคู่บ่าวสาว
หัสนัยค่อยๆ จูงมือเจ้าสาวของเขาขึ้นไปบนเวทีด้วยกิริยาที่อบอุ่น ทำเอาเกิดเสียงฮือฮากันทั้งงาน ที่ผู้ชายคนนี้ทำแบบนี้มาตลอด 5 ปี
คือทั้งรักและดูแลอย่างดี แม้ในช่วงที่เริ่มคบกันใหม่ จะได้รับการกังขาไม่น้อย จากทั้งทางแฟนคลับ เพื่อนในวงการ หรือแม้แต่คนในครอบครัว
เพราะว่าเขาอายุมากกว่าเธอตั้ง 10 ปี แถมยังเคยมีข่าวควงสาวไม่ซ้ำหน้า แต่ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เขาก็ได้พิสูจน์ตัวเองจนทุกคนยอมรับแล้วจริงๆ
“ก่อนอื่น ผมต้องขอขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ที่สละเวลามาร่วมแสดงความยินดีกับเราทั้งสองคนในวันนี้ ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ทั้งฝ่ายผมและฝ่ายน้องฝน ที่เมตตาและส่งเสริมให้เราสองคนได้มีวันนี้
และคนที่ผมจะต้องขอบคุณมากที่สุดก็คือ...ฝนครับ ขอบคุณที่เลือกมาอยู่เคียงข้างพี่ ให้โอกาสพี่ได้ดูแล ได้รักและเคียงข้างกันตลอดไป พี่รักฝนนะครับ” แล้วเสียงปรบมือและพลุกระดาษก็ลอยฟุ้งไปทั่วงาน
ทุกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ส่งมา เป็นภาพที่หยาดฝนไม่เคยคิดมาก่อน ว่ามันจะทำให้คนที่อยู่บนเวที รู้สึกดีได้ขนาดนี้ น้ำตาของเธอไหลมาตอนไหน หญิงสาวแทบไม่รู้ตัวเลย
“ขอบคุณพี่นัยเหมือนกันนะ ที่พยายามเพื่อฝนมาตลอด ฝนเชื่อนะคะว่าฝนเลือกคนไม่ผิด...ฝนรักพี่นัยที่สุดที่สุดเลยค่ะ วันนี้ฝนได้เป็นเจ้าสาวที่โชคดีที่สุดในโลกแล้ว...”
แล้วเสียงปรบมือและโห่แซวก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง แต่ในความปลาบปลื้มยินดีทั้งหมดนั้น มีความรู้สึกหนึ่งวนเวียนเข้ามา
หยาดฝนรู้สึกเหมือนตัวเองหายใจติดขัด เสียงผู้คนเริ่มลอยห่างออกไป ความแน่นที่หน้าอกฉับพลันทำให้เธอทรุดตัวลง
“ฝน! เป็นอะไรรึเปล่า” หัสนัยรับร่างเจ้าสาวของตัวเองเอาไว้ ท่ามกลางความตกใจของคนทั้งงาน
หยาดฝนเหมือนไม่ได้ยินอะไรแล้ว เธอรู้สึกเหมือนโลกของเธอกำลังดับ ทุกเสียงลอยห่างออกไป จนไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
“ฝน! ช่วยด้วยครับ เรียกรถพยาบาลด้วย!” หัสนัยร้องเสียงดัง ผู้คนเริ่มกรูเข้ามา มีคนตะโกนหาแพทย์หญิงกิ่งฉัตรจนทั่วงาน
“หมอกิ่งอยู่ไหน หมอกิ่ง!”
