บท
ตั้งค่า

บทที่5 เคลียร์ใจกันหน่อยเมื่อโอกาสมาถึง

ไม่ใช่ว่าสับสน ไม่ได้ผิดหวังในตัวพี่ชายแต่ที่ภีรพิชชาให้อิสรันพาออกมาก็เพราะรู้ดีว่าพี่ชายยังไม่พร้อมจะอธิบาย จึงถอยออกมาก่อน ที่ ๆอิสรันพาเธอมาก็คือสัตหีบถิ่นทหารเรือ ที่ ๆเธอชอบวิ่งเล่นตอนเด็กๆ

เสียงคลื่นลมพัดดังเป็นระยะทำให้ไม่เงียบจนเกินไป ตอนนี้ทั้งสองอยู่บนเรือยางลำหนึ่งที่จอดลอยทะเลอยู่ริมฝั่งไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน แค่เด็กสาวอยากนั่งบนเรือตากลมทะเลเย็นๆไม่ได้อยากจะไปไหน

“อารัน ไอ้นี่อาไรเหรอ” เด็กสาวเอ่ยถามอาหนุ่มที่นั่งกอดเข่าอยู่ข้างๆ พร้อมยื่นของที่สงสัยที่เก็บจากห้องของเจนจีราได้ให้หนุ่มเกือบใหญ่ดู

“อารันมันคืออะไร ทำไมไม่ตอบหรือแก่แล้วตาฝ่าฟางมองไม่เห็น” ภีรพิชชาเอ่ยถามในเชิงยั่วยุอารมณ์

“ไม่ได้แก่ซะหน่อย แค่35เอง” คนถูกหาว่าแก่แล้วตาฝ่าฟางเถียงขึ้นทันควัน ไม่อยากยอมรับเลยว่า35นี่เรียกว่าแก่รึเปล่า

เด็กสาวหัวเราะก่อนที่จะเอ่ยค้าน “ตั้ง35ต่างหากล่ะ อิอิ”

“ยัยหัวเหม่งเดี๋ยวจะโดนมิใช่น้อย” อิสรันหันหน้ามาคาดโทษแต่แล้วเด็กสาวก็ยังคงลอยหน้าลอยตาใส่เช่นเดิม

“กะ กะ กลัวที่ไหนเข้ามาเลยน๊า แล้วอย่าหาว่าหนูไม่เกรงใจ จะให้ลุยตอนนี้เลยก็ยังไหว แต่ลุงอย่าถอย ถอย ไปซะก่อน เดี๋ยวรู้กัน555”

“มะเหงกลงเหม่งสักทีจะรู้สึก” อิสรันพูดพร้อมกับมือที่ยกขึ้นขู่

แต่ภีรพิชชาก็ยังไม่ยอมจบ เด็กสาวเอ่ยบอกขึ้น “โธ่ๆท่านผู้เฒ่าชาวเลก็อย่าดุนักจิ เหลนแค่ถามเอ้ง”

“ไม่จบนะเหม่ง นี่แหนะ” ว่าพลางอิสรันก็มะเหงกใส่หน้าผากกว้างของเด็กสาวทันทีจนสาวน้อยต้องร้องตัดพ้อไม่จริงจัง “โอ๊ย! อารันรังแกเด็ก”

อิสรันส่ายหน้าแล้วแสร้งถามเสียงเข้ม “จะเอาอีกมั้ย”

“ไม่เอาแล้วเจ็บ” เด็กสาวบอกแล้วยกมือขึ้นลูบหน้าผากแต่ยังมองของที่อยู่ในมืออีกข้างอย่างสงสัยจนอิสรันต้องถามขึ้น “อยากรู้จริงเหรอว่าอันนี้เรียกว่าอะไร”

เมื่อโดนถามภีรพิชชาจึงเอ่ยบอกทันที “ก็อยากรู้จริง ๆอะดิ มันเป็นลูกโป่งเหรอ หนูภีร์เห็นอยู่ในห้องพี่จี”

“มันไม่ลูกโป่งหรอกเหม่ง มันคือ” อิสรันบอกขึ้นก่อนที่จะเงียบไปไม่เอ่ยต่อ จะให้บอกยังไงในเมื่อของตรงหน้ามันไม่ใช่ของที่จะบอกให้เด็กสาวรู้ มันค่อนข้างพูดยาก

“คืออะไร” เด็กสาวยังคงถามอย่างสนใจ

“โอ๊ย ไม่อยากพูด เอ้านี้ดูเอา เหมือนกันมั้ย” พูดพรางอิสรันยื่นสมาร์ทโฟนที่กดค้นหาในกูเกิ้ลเรียบร้อยให้แก่เด็กสาว

ภีรพิชชามองก่อนที่จะเบิกตากว้าง “ถะ ถะ ถุงยางอนามัย ยี้”

ไม่เพียงแค่ทำหน้าตาขยะแขยงเด็กสาวยังทิ้งเจ้าวัตถุที่สงสัยลงจากนิ้วเรียวยาวทันที

“หึหึ ไม่เห็นต้องรังเกียจขนาดนั้นเหม่ง มันยังไม่ถูกใช้เลยที่จะได้ขยะแขยงมัน อีกอย่างเพศสัมพันธ์มันไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดขนาดนั้น” อิสรันพูดเมื่อเห็นท่าทีขยะแขยงของอีกฝ่าย

ภีรพิชชาทำท่าขยะแขยงก่อนที่จะพูดอย่างทะเล้น “ไม่รู้อะมันก็ยังน่าขยะแขยง โอ๊ยไม่อยากมโนว่าหลานของภีร์มาได้ไง ยึ้ย”

“ทะลึ่งแล้วเหม่ง ทะลึ่งแล้ว” อิสรันพูดก่อนที่จะยิ้มออกมากับความอยากรู้อยากเห็นของเธอ

“ไม่ได้ทะลึ่งแค่ช่างมโน และสงสัยเท่านั้นแหละ ว่าพี่เถิกทำอะไรยังไงพี่จีถึงท้อง ทั้งที่มีไอ้เจ้านี่อยู่”

เมื่อฟังเจ้าหนูน้อยพูดอิสรันจึงเอ่ยสั้นๆ “ไม่รู้”

“ตอบง่ายอ่าา แน่ใจว่าไม่รู้ อารันผ่านโลกมาตั้งเยอะแยะ” ภีรพิชชาพูดพลางจะแวะกลับมาถึงคนผ่านโลกมาตั้งเยอะแยะหรือก็คือจะยั่วให้โมโหเรื่องความแก่อีก

“ไม่” อิสรันพูดยั๊วะๆ ก่อนที่ภีรพิชชาจะเอ่ยถาม “ไม่รู้เหรอ”

“ไม่จบใช่ไอ้เหม่ง แวะกลับมาเรื่องอาอีก” อิสรันว่าก่อนที่คนตัวเล็กจะหัวเราะ

“อิอิ”

เมื่อสาวน้อยหัวเราะเบาๆจนพอใจอิสรันจึงเอ่ยบอก “อันนี้ไม่ใช่ว่าจะป้องกันได้100%นะ ไม่ว่าจะเป็นถุงยางอนามัย ยาคุมฉุกเฉิน หรือการนับวันปลอดภัย ของพวกนั้นป้องกันได้แค่80-90% ทางที่ป้องกันได้ดีที่สุดคือไม่มีเพศสัมพันธ์เลยเท่านั้นแหละถึงจะปลอดภัย100%”

“มีสาระ ตบมือ” แปะ แปะ ว่าพลางตบมือราวกับนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ฟังอะไรมีสาระจากคนเป็นอา

“ไอ้เหม่ง นี่จะบอกว่าอาเพิ่งพูดมีสาระครั้งแรกรึไงฮึ” ชายหนุ่มพูดไม่ได้โกรธอะไรนึก

ภีรพิชชายิ้มแล้วพูดต่อ “ก็แล้วแต่จะคิดอ่ะนะ”

“อีกสักทีมั้ย ฮึ” พูดพรางอิสรันก็ยกมือขึ้นหมายจะเคาะหัวผากยัยตัวแสบแต่สาวน้อยจับมือหนาไว้พร้อมพูดด้วยรอยยิ้ม “โอะๆ ไม่เอา เจ็บแล้วจ้า”

“เรานี่ยังไงชอบกวนประสาทอาอยู่เรื่อย ถ้าอาหวั่นไหวขึ้นมาไม่ต้องกินแห้วเลยเหร้อ” อิสรันพูดอย่างตรงไปตรงมา เขาเป็นคนตรงไปตรงมาพอที่จะพูดในสิ่งที่เขาคิด

ภีรพิชชาตกใจอย่างมากก่อนที่จะพูดอย่างติดอ่างเล็กน้อย “วะ หวั่นไหวอะไร นี่หลานนะหลาน”

“รู้ๆกันอยู่นะเหม่ง เราไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย จริง ๆอาก็คิดมาสักพักแล้ว” พูดพรางอิสรันก่อนก็หันหน้ามองดาวแทน

เด็กสาวมองอาหนุ่มอย่างสงสัยก่อนที่จะถามออกไป “คะ คิดอะไร”

“คิดว่าเราไม่ควรใกล้กันเลย หนูภีร์ก็เริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ”

“อาพูดอะไรของอาเนี้ย” เด็กสาวถามอย่างสงสัย สับสนมึนงง ไม่รู้ว่าอาหนุ่มพูดหมายความว่าเช่นไรก่อนที่อาหนุ่มจะขยับหันมานั่งตรง ๆไปตามทางเดียวกับเรือ

“มา หันมาคุยกันหน่อยสิ”ว่าพรางจับเด็กสาวพลิกตัวมานั่งหันหน้ามาทางเขาแล้วพูดต่ออย่างตรงไปตรงมา “อาพูดตรง ๆนะ ได้มองเราแบบนี้แล้วอาใจเต้น”

“ไม่แปลกทุกคนก็ใจเต้นทั้งนั้นแหละอารัน ถ้าใครใจไม่เต้นก็คือคนไม่หายใจแล้ว” เด็กสาวพูดแกล้งไม่เข้าใจที่อาหนุ่มนอกใส่พูดออกมาก่อนที่อาหนุ่มจะสวนขึ้น “อาหมายถึงใจเต้นแรงกว่าปกติ อาไม่เป็นแบบนี้มานานแล้วนะหนูภีร์ อามักเป็นแบบนี้เมื่อเริ่มตกหลุมรัก”

“อั๊ยยะ มาไม้ไหนเนี้ยอารัน ตลกแหละทำอย่างกับกำลังจะบอกว่าจะเริ่มตกหลุมรักหนูภีร์งั้นแหละ” ภีรพิชชายังคงพูดราวกับไม่เชื่อแต่ก็ไม่วายถูกสวนกลับจนพูดไม่ออก “แล้วถ้าอาจะบอกแบบนั้นล่ะ แล้วถ้าอากำลังจะตกหลุมรักเรา เราจะทำยังไง”

“เอ่อ”

“ไม่ต้องพูดหรอก อาตัดสินเอง ตอนนี้อากำลังรู้สึกหวั่นไหว อาควรอยู่ห่างๆเราไว้ เพราะยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้” อิสรันพูดตัดบทไม่รอฟังคำตอบแล้วเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง “ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป อาจะพยายามไม่มาเจอหนูภีร์อีก อย่าก่อเรื่องนะ อย่าทำให้แม่เป็นห่วง”

ภีรพิชชาฟังด้วยสีหน้าเหมือนจะร้องไห้แต่เพราะคืนนี้จันทร์แจ้งทำให้อิสรันมองเห็นชัดก่อนที่สาวน้อยจะพูดออกมา “อารันเห็นแก่ตัว แค่กลัวว่าจะตกหลุมรักหนูภีร์ถึงขั้นต้องถอยห่าง ไม่เอานะ ตั้งแต่พ่อจ๋าจากไปจนอายุป่านนี้หนูภีร์มีแค่แม่ พี่ภีม แล้วก็อารันแต่อารันจะหายไปได้ยังไง หนูภีร์ไม่ยอมนะ”

อิสรันฟังแล้วตอบกลับทันที “หนูภีร์ ฟังอานะ อาไม่ใช่คนดี ถ้าอาหลงรักใครแล้วอาจะทำทุกอย่างเพื่อให้คนนั้นมอบกายและหัวใจให้เป็นของอา แล้วถึงวันนั้นหนูภีร์จะรักอา อาไม่อยากเห็นแก่ตัวแบบนั้นอีก ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าถ้าเราสองคนรักกันแล้วหนูภีร์จะไม่เป็นแบบวิ ไม่มีอะไรยืนยันว่าอาจะยังมีชีวิตอยู่อีกนานเท่าไหร”

“อารัน หนูภีร์ไม่อยากให้อาหายไปจากชีวิตหนูภีร์นะ อาเป็นเหมือนทั้งพ่อ ทั้งญาติผู้ใหญ่ทั้งพี่ชาย เป็นอะไรหลายๆอย่างในชีวิตหนู อยู่แบบเดิมไม่ได้เหรอ”สาวน้อยพูดด้วยน้ำเสียงวิงวอน

ชายหนุ่มมองแล้วเอ่ยตอบขึ้นทันที “อยู่แบบเดิมได้...ถ้าเรามั่นใจว่าจะไม่รักอาเด็ดขาด แค่เรามั่นใจว่าไม่มีทางรักอาแบบคนรักได้เราเป็นแบบเดิมได้ อาสามารถอยู่ให้หนูภีร์กวนประสาทได้ มั่นใจมั้ย”

เมื่อฟังจบเด็กสาวก็พูดแทบไม่ออก ใช่เธอไม่มั่นใจเลยว่าความรู้สึกของตัวเธอเองจะไม่พัฒนาจากหลานสาวกับอาหนุ่มไปเป็นความรู้สึกที่ดีกว่า

“หนูภีร์ไม่รู้ ไม่รู้ แต่อย่าทิ้งหนูภีร์ไปนะ” เธอพูดพร้อมขยับเข้ากอดร่างหนาไว้ อิสรันกอดตอบโดยไม่เข้าใจตัวเองทั้งสองคนกอดกันอยู่นานก่อนที่จะรู้สึกได้ว่าเด็กสาวนั้นหลับไปแล้ว อิสรันค่อยๆจับร่าบางลงนอนราบกับท้องเรือก่อนที่จะถอดเสื้อนอกออกห่มให้แล้วนอนลงข้างๆใช้แขนแทนหมอนให้คนตัวเล็กนอน แค่วันนี้เท่านั้นที่เขาจะได้อยู่ใกล้ๆเธอ หลังจากนี้เราไม่ควรจะใกล้กันอีก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel