เจ้าสาวของอิสรัน

101.0K · จบแล้ว
เวณิตา ทอฝัน / พิมพ์ธนภัส
36
บท
1.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เธอเป็นลูกสาวของครูฝึกที่เขารักดั่งพี่ชาย หน้าที่ของเขาคือการดูแลเธอ แม่และพี่ชาย แต่เมื่อเรื่องบานปลายเขาจึงจำเป็นต้องรักษาชื่อเสียงของเธอและพ่อของเธอด้วยการแต่งงาน บางครั้งความรักต่างวัยก็เกิดขึ้นได้หากใจคนสองคนผูกพันกันมาเนิ่นนาน มันไม่หวือหวา ไม่ใช่การตกหลุมรักปัจจุบันทันด่วน หากแต่ใช้เวลาถักทอเนิ่นนานกว่าจะเป็นความรัก นานกระทั่งกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ขาดกันไม่ได้เสียแล้ว

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักทหารแต่งงานสายฟ้าแลบรักหวานๆโตมาด้วยโรแมนติก

บทนำ

กริ้งๆๆ

สมาร์ทโฟนเครื่องบางเฉียบที่วางอยู่บนโต๊ะกรีดเสียงร้องพร้อมสั่นเป็นระยะจนทำให้มือหนาหยาบกร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆยื่นไปหยิบขึ้นมาแนบหู

“อิสรันครับ” เสียงทุ้มห้าวแต่แฝงไปด้วยอำนาจเอ่ยขึ้นก่อนที่ม่านตาจะขยายกว้างใบหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นจนแลดูดุดัน

“ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับคุณครูประภา” เสียงห้าวเอ่ยบอกก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้องไปทันที ร่างสูงสง่าภายใต้เครื่องแบบทหารเรือสีกากีสาวเท้าก้าวยาวๆลงจากเรืออย่างเร่งรีบ “นาวาโทอิสรัน กัญจนาภิวัฒน์” หรือที่ผู้ใต้บังคับบัญชาเรียกว่า “ผู้การสรัน” ผู้บังคับการเรือหลวง...วัย35ปีเดินตัวปลิวไม่สนใจผู้ใต้บังคับบัญชาที่ทำความเคารพเพราะตัวเขามีธุระเร่งด่วนที่ต้องรีบไปจัดการ

ไม่ช้าไม่นานต่อมากระบะสี่ประตูสีดำก็พุ่งทะยานจากฐานทัพเรือสัตหีบมาจนถึงโรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวเมืองชลบุรีก่อนที่เจ้าของรถอย่างอิสรันจะรีบลงจากรถแล้วมุ่งตรงไปยังห้องปกครองของโรงเรียนอย่างคุ้นเคย ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามาที่นี่และมายังห้องปกครองของที่นี่

ทันทีที่มาถึงหน้าห้องปกครองเขาก็เห็นหญิงชราวัย48ยืนรออยู่จึงทักทายและถามไถ่กันถึงสาเหตุที่ทำให้เขาต้องถ่อสังขารจากสัตหีบมาถึงที่นี่

“สวัสดีครับคุณครูประภาคราวนี้เรื่องอะไรอีกครับ”

“สวัสดีค่ะผู้การ ภีรพิชชาชกต่อยกับนักเรียนชายต่างโรงเรียนที่มาซ้อมกีฬาน่ะค่ะ”

หลังจากฟังคำตอบจากปาก “ครูประภา” ครูฝ่ายปกครองประจำโรงเรียนแล้วอิสรันก็ต้องถอนหายใจออกมา สาเหตุที่เขาต้องมาที่นี่ก็เพราะครูประภาโทรศัพท์แจ้งแก่เขาถึงการก่อเรื่องจนเข้าห้องปกครองของ “นางสาวภีรพิชชา มหารัตนมนตรี” เด็กสาววัย18ปีที่ถือเป็นเด็กสาวในปกครองของเขา

“นางสาวภีรพิชชา”หรือที่เขาเรียกติดปากมาตั้งแต่เด็กๆว่า “หนูภีร์” เป็นลูกสาวของ “ภควัต” ครูฝึกสมัยที่เขาเรียนอยู่โรงเรียนนายเรือก่อนที่จะขยับขึ้นมาเป็นหัวหน้าทีมในหน่วยพิเศษของหน่วยสงครามพิเศษทางเรือภควัตกับเขาสนิทกันมาก ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ๆทั้งที่ภควัตอายุมากกว่าเขาถึง5ปี

ภควัตจากไปขณะปฎิบัติหน้าที่ซึ่งตอนนั้นภควัตเอาตัวเองเข้ามาบังกระสุนให้กับเขา ภควัตจึงฝากฝังให้เขาช่วยดูแล “อรพิชชา” ผู้เป็นภรรยารวมถึง “ภีมภพ” และภีรพิชชาลูกชายคนโตและลูกสาวคนเล็กด้วย ในขณะนั้นภีรพิชชาอายุเพียง8ขวบส่วนคนพี่อายุ10ขวบ เขาดูแลส่งเสียสองพี่น้องมาถึง10ปีแล้ว ภีมภพไม่เคยทำให้เขาปวดหัวผิดกับภีรพิชชา ที่มีเรื่องถูกเรียกตัวเข้าห้องปกครองอยู่บ่อยครั้ง

“ไหน คนไหนมันมาต่อยลูกชายฉัน ฉันจะเอาเรื่องพ่อแม่มันให้ถึงที่สุด” เสียงเอะอะโวยวายดังมาจากทางเดินก่อนที่จะปรากฎร่างของหญิงวัยกลางคนแต่งตัวเนี้ยบหรูหราตั้งแต่หัวจรดเท้า นิ้วมือทุกนิ้วของหญิงวัยกลางคนสวมแหวนเพชรราคาเเพงแวววาวไปหมดในขณะที่ลำคอเหี่ยวย่นสวมใส่สร้อยทองแวววาวน้ำเสียงโกรธเกรี้ยวของอีกฝ่ายพร้อมกิริยาท่าทางยโสบ่งบอกให้อิสรันและครูประภารู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ลากมากดี

“เอ่อ สวัสดีค่ะ ดิฉันประภาค่ะ เป็นครูฝ่ายปกครองและเป็นครูประจำชั้นของภีรพิชชา เอ่อ คนที่มีเรื่องกับอานัทน่ะค่ะ” ครูประภาเอ่ยบอกด้วยท่าทีอ่อนลง เพราะเกรงกลัวตัวเองจะเดือดร้อน

“ภีรพิชชา เด็กผู้หญิงงั้นเหรอ เด็กทโมนนั่นอยู่ไหน ฉันจะเอาเรื่องทั้งนังเด็กนั่นทั้งผู้ปกครอง มันอยู่ไหน” หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามออกมาอย่างตกใจในครั้งแรกเมื่อรู้ว่าคู่กรณีของบุตรชายเป็นเด็กผู้หญิง ในตอนแรกเธอคิดว่าจะเป็นเด็กผู้ชายเหมือนกันแต่พอรู้ว่าเป็นเด็กสาวทำให้คิดว่าเด็กคนนี้คงจะต้องเป็นเด็กทอมๆห้าวๆชอบหาเรื่องเป็นแน่ หล่อนจะต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

“เอ่อ ครูว่าเชิญคุณแม่เข้าไปในห้องปกครองดีกว่าค่ะ ” ครูประภาเอ่ยบอกก่อนที่หญิงวัยกลางคนจะเดินเข้าอย่างเย่อหยิ่ง

“เชิญข้างในดีกว่าค่ะผู้การ งานนี้ครูขอไม่ยุ่งนะคะ เคลียร์กันเองแล้วกันค่ะ” ครูประภาหันกลับมาบอกอิสรันก่อนที่หนุ่มเกือบใหญ่จะเดินเข้าไปในห้องปกครองตามด้วยครูประภาที่ตามเข้าไปด้วยสีหน้าอ่อนใจ

เมื่อเข้ามาในห้องสิ่งที่ปรากฎตรงหน้าทั้งสามคนคือร่างท้วมนั่งอยู่หลังโต๊ะปกครอง ส่วนร่างของเด็กหนุ่มในเสื้อพละสีส้มกางเกงวอร์มดำใบหน้ามีรอยช้ำที่มุมปากและเบ้าตานั่งกอดอกอยู่ ในขณะที่เด็กสาวใส่เสื้อพละสีฟ้าอ่อนกางเกงวอร์มมีแถบเหลืองกำลังนั่งร้องห่มร้องไห้ซึ่งอิสรันทราบดีว่าเด็กสาวนั้นกำลังปั้นหน้าเศร้าเล่าความเท็จให้รอดพ้นจากการโดนลงโทษ พอเห็นแล้วอดที่จะทำให้อิสรันส่ายหัวอย่างเอือมระอาแม่สาวน้อยร้อยมายาผู้มีมารยาร้อยพันเล่มเกวียนขึ้นมาไม่ได้ที่ช่างมีสมองขบคิดเอาตัวรอดเก่งเสียจริง

“ หนูไม่ได้ตั้งใจนะคะ อึก เขาหาเรื่องหนูก่อนอ่าาา” นางสาวภีรพิชชา หรือ ภีร์ เอ่ยบอกผู้อำนวยการวัยกลางคนทั้งเสียงสะอื้น

“แล้วเขาหาเรื่องอะไรหนูล่ะ ภีรพิชชา” ชายร่างท้วมผู้มีศักดิ์เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้เอ่ยถามเด็กสาวผู้ช่างเข้าห้องปกครองบ่อยเสียยิ่งกว่าเข้าห้องน้ำ และทุก ๆ ครั้งที่เข้ามาก็รอดพ้นการลงโทษไปทุกที ทั้งเพราะมีข้อแก้ต่างดี ทั้งเพราะมารดาขอร้องและทั้งเพราะแม่หนูนี่ตีหน้าเศร้าจนเขาและครูปกครองหรือผู้ปกครองของคู่กรณียอมเลิกแล้วต่อกันทุก ๆ ครั้งไป

“เขาหาเรื่องหนูว่าหนู ฮือ หนูไม่กล้าพูดค่ะผอ.”

“ลูกชายฉันว่าอะไรหล่อนก็พูดมาสิยะ” คนเป็นแม่ของเด็กหนุ่มเอ่ยถามอย่างกระฟัดกระเฟียด ดูก็รู้ว่ายัยคนนี้ต้องตอแหลแน่ ๆ

“เขาว่าหนูไม่มีพ่อ เป็นเด็กมีปัญหาค่ะ ฮือๆ หนูเสียใจนะคะคุณป้า เอ้ย คุณน้า ฮือๆ” ภีรพิชชาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงสะอื้น เธอพูดไปตามความจริงแต่ตัวเธอนั้นไม่ได้เสียใจอย่างที่พูด เพราะเธอถูกมารดาสอนเสมอให้ทำใจ ทุกคนมีเกิดก็ต้องมีตายแต่ที่ทนไม่ได้เพราะเด็กหนุ่มมาหาว่าแม่ของเธอท้องไม่มีพ่อทั้งที่หาได้รู้ความจริงไม่ เพียงแค่ได้ยินจากพวกที่เคยมีเรื่องกับเธอซึ่งไม่เคยเห็นหน้าพ่อของเธอเลยสักครั้ง

“แถมยังมาหาว่าแม่หนูมั่วจนท้องไม่มีพ่อ ฮือๆ หนูทนไม่ไหวที่เขามาใส่ร้ายแม่หนูมาหาว่าหนูเป็นเด็กมีปัญหา” เธอพูดทำให้ผู้อำนวยการหนุ่มใหญ่นึกสงสารขึ้นมาไม่ต่างกับครูประภาที่สงสารเด็กสาว

“แล้วมันจริงอย่างที่เราพูดมั้ยล่ะ เต้มันบอกว่าเธออะไม่มีพ่อ ไม่เคยมีใครเห็นพ่อเธอ แม่เธอต้องท้องไม่มีพ่อแน่ ๆ” เด็กหนุ่มเอ่ยบอกอย่างไม่ได้สำนึกผิดก่อนที่จะหันมาทางมารดาของตนอย่างออดอ้อน “ผมไม่ยอมนะครับคุณแม่ คุณแม่ต้องจัดการให้ผมนะครับ”

เมื่อเหตุการณ์เป็นมาในทางนี้ครูประภาจึงต้องเอ่ยขึ้น “ครูขอพูดนะคะคุณแม่ คือ ตัวครูเองตั้งแต่มาทำงานที่นี่ก็ไม่เคยเจอพ่อของภีรพิชชาเลย แต่ถ้าเป็นก่อนหน้าที่จะมาทำงานที่นี่ครูเคยเจอค่ะ พ่อของภีรพิชชาเป็นผู้การทหารเรือ พ่อของน้องเสียชีวิตในหน้าที่ค่ะ น้องไม่ใช่ลูกไม่มีพ่อ แม่ของน้องก็เป็นคุณนายภรรยานายทหารเรือถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนหน้านี้น้องเรียนที่สัตหีบเพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่หลังจากพ่อน้องเขาเสียแล้วน้องเขาเรียนจบประถมนั่นแหละ”

“มีคนเคยบอกผมว่า ฟังไม่ได้ศัพท์อย่าจับไปกระเดียด อะไรที่ยังไม่รู้ความจริงก็ไม่ควรที่จะพูด ยิ่งบางเรื่องที่ไม่รู้จริงอย่าเที่ยวเอามาล้อเลียนคนอื่นหรือนินทาว่าร้ายเพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ผู้ดีความกระทำ” อิสรันเอ่ยขึ้นทำเอามารดาของเด็กหนุ่มรู้สึกสะอึกเหมือนมีไม้ท่อนใหญ่ๆมาฟาดเข้ากลางแสกหน้าด้วยการพูดกลายๆว่าไม่มีมารยาทผู้ดี

“นี่คุณว่าฉันเหรอคิดว่าตัวเองเป็นใครห่ะ” หญิงวัยกลางคนมาดผู้ดีแฝกเสียงใส่อย่างไม่พอใจ

อิสรันยิ้มร้ายใส่คนไม่พอใจก่อนที่จะเอ่ยบอก “ผมเป็นใครน่ะเหรอ ผมนาวาโทอิสรัน กัญจนาภิวัฒน์เป็นผู้ปกครองของภีรพิชชาครับ”

แค่ได้ยินว่านาวาโทหญิงวัยกลางคนก็ถึงกับพูดไม่ออกแล้วได้แต่แกล้งเชิดหน้าแล้วเอ่ยบอก “เอาเถอะ ที่คุณพูดมันก็ถูกไม่ใช่สิ่งที่ผู้ดีอย่างฉันกับลูกสมควรทำ เอาเป็นว่าเรื่องนี้ก็จบๆกันไปแล้วกัน ไปค่ะลูกนัทกลับบ้านกันลูก คุณแม่จะพาไปหาหมอนะคะทูนหัว”

“สรุป จบใช่มั้ยคะคุณแม่” ครูประภาถามออกมาเพื่ออยากฟังคำยืนยัน

“ก็จบสิยะ” หญิงวัยกลางคนท่าทางยโสเอ่ยบอกอย่างหัวเสียก่อนที่จะพาลูกชายออกไป

“ดวงแข็งจริง ๆนะเราเนี้ยะ ครั้งนี้บารมีผู้การช่วยไว้แท้ๆเจ้าตัวแสบ” ผู้อำนวยการร่างท้วมเอ่ยก่อนที่จะยิ้มให้สาวน้อยที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ยิ่งได้เจอยิ่งเอ็นดูเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวของอีกฝ่ายจนขนานนามว่าเป็น “ยัยตัวแสบ”เสียไม่ได้

“เชอะ อารันไม่ช่วยหนูก็เอาตัวรอดได้สบายๆ” คนที่เพิ่งตีหน้าเศร้าเสแสร้งแกล้งร้องไห้เอ่ยบอกบัดนี้น้ำหยดน้ำตาได้หดหายไปหมดแล้ว รอดไปอีกครั้ง

ครูประภาส่ายหน้าอยากจะเงยหน้ามองไปบนเพดานใส่คนเอาตัวรอดได้สบายนักแต่ติดที่เป็นกิริยาไม่เหมาะสม “อย่าคิดว่าจะรอดทุกครั้งนะภีรพิชชา ก่อนเรียนจบครูจะต้องลงโทษเธอให้ได้สักครั้ง”

กริ่งก่องงง

“จ้างให้ก็ไม่โดน555 กระดิ่งเลิกเรียนดังแล้วหนูไปเข้าแถวกลับบ้านล่ะนะ สวัสดีค่ะผอ. สวัสดีค่ะคุณครูประภา” ยัยตัวแสบประจำโรงเรียนเอ่ยบอกก่อนที่จะวิ่งออกจากห้องไปแทบมองตามไม่ทัน

“มันน่าตีจริง ๆเด็กคนนี้ แต่ตั้งแต่ม.1จนตอนนี้ม.6แล้วยังไม่ได้ตีสักครั้งเลย เฮ้อ ตีไม่ลงด้วยสิคะผอ. ผู้การ” ครูประภาพูดอย่างไม่จริงจังออกมาในแนวหมั่นไส้ระคนเอ็นดูแม่ตัวแสบเสียเหลือเกิน

ผู้การหนุ่มเกือบใหญ่ฟังครูสาวใหญ่ก่อนที่จะก่อนที่จะยิ้มแหย่ๆแล้วเอ่ยบอก “ทนอีกนิดเถอะครับคุณครูประภา อีกปีการศึกษาเดียวครับ เดี๋ยวแม่คนนั้นก็จบออกไปแล้ว”

“อะ จริงสิ ผมต้องขอตัวกลับแล้วล่ะครับ ยังไงก็ขอบคุณผอ.กับคุณครูมากนะครับที่ไม่เอาเรื่องเอาราวให้หนูภีร์ต้องเสียประวัติ” อิสรันเอ่ยก่อนที่จะก้าวออกจากห้องปกครองไปอย่างปวดหัวไม่น้อย ยังไงเขาก็ต้องทำโทษแม่ตัวแสบนี่ซะบ้างแต่ครั้งนี้ถือว่าตัวภีรพิชชาไม่ใช่ฝ่ายผิด ไม่ได้หาเรื่องก่อนไว้ครั้งต่อไปค่อยทำโทษแล้วกัน คิดพรางพ้นหายใจออกมาหนักๆ เฮ้อ