บท
ตั้งค่า

บทที่5.

ชบาบอกตามความจริงเพราะเคนรูปร่างสูงใหญ่แบบคนเลือดผสมอยู่แล้วทั้งร่างกายก็คร้ามแดดจนผิวสีแทนเข้ม ผมเผ้าก็ยาวไม่เป็นทรงทั้งหนวดเคราก็เต็มหน้าดูราวมหาโจร ท่าทางอรอาภากลัวเคนอยู่ไม่น้อย นี่หากไปเจอกันที่อื่นโดยไม่รู้จักกันมาก่อนคงคิดว่าเคนคือโจรใจโฉดแน่นอน

“อีหลีติ”

“แม่นแล้ว ใช่ เยสสสส..” ชบาตอบทะเล้นๆ เคนจึงตบกบาลชบาเบาๆ แต่ชบาก็แอคติ้งเยอะทำทีเซเซดๆ จนน่าหมั่นไส้ อรอาภาเห็นชบาเซจะล้มก็รีบเข้าไปพยุงชบาไว้

“เป็นอะไรมากไหมชบา อ้ายเคนทำร้ายชบาทำไมคะ”

อรอาภาหันมาทำตาเขียวๆ ใส่เขาอย่างลืมตัว เคนชะงักเมื่อเจอแววตาดุๆ ของสาวเจ้า แต่ก็ต้องรักษามาดของตนไว้

“ยังไม่ได้ทำอะไรเลย พูดมากน่าจะไปกันรึยัง”

“ไม่มีอะไรค่ะคุณหนูอ่อน ไปกันเถอะค่ะ”

“จริงหรือ แต่เมื่อกี้ชบาจะล้มเลยนะ” อรอาภาทำท่าไม่เชื่อ

“ก็ชบาแกล้งอ้ายเคนน่ะค่ะ”

“อ้อ.. หรือจ๊ะ”

ชบาพยักหน้ายิ้มแหยๆ แล้วพาอรอาภาเดินไปที่รถ ซึ่งเคนติดเครื่องรอแล้วชบารู้ตัวดีว่าต้องไปนั่งตรงไหนจึงกระโดดอย่างรวดเร็วไปนั่งข้างหลังโดยลืมไปว่าสาวชาวกรุงไม่เคยขึ้นรถอีแต๋นมาก่อนนั้นได้แต่ยืนเมียงๆ มองๆ ไม่รู้ว่าจะขึ้นไปแบบไหนเพราะจากพื้นถึงที่เหยียบขึ้นรถนั้นมันสูงเอาการอยู่

“เอ๊า สิยืนบื้ออยู่เฮ็ดหยัง” เคนทำหน้าดุใส่แล้วทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอแล้วกระโดดลงมาเดินมาหาเธอ อรอาภาทำท่าตกใจมองเขาหน้าตื่น ทำท่าจะผวาหนีเมื่อเขาเข้าใกล้

“ไม่ต้องมาทำเหมือนอ้ายเป็นมหาโจร มานี่จะช่วยชักช้าน่ารำคาญ”

ทางด้านชบาที่ยืนเกาะราวด้านหลังที่นั่งซึ่งมีแค่ที่นั่งคนขับกับที่นั่งผู้โดยสารซึ่งก็กว้างพอจะนั่งได้สามคนนั่นแหละ แต่เธอรู้ดีว่าอ้ายเคนคนหล่อคงไม่อยากให้ตนไปนั่งเกะกะ ชบาอมยิ้มน้อยๆ มองหนุ่มสาวที่ต่างก็นั่งเงียบทั้งคู่อย่างพอใจ เรื่องนี้เธอจะต้องรายงานแม่ใหญ่ให้รับทราบ...

เหวยๆ อ้ายเคนหูแดงๆ ด้วย สงสัยจะเขิน.. อ้ายเคนแอบรักคุณหนูอ่อนแน่ๆ เธอมั่นใจ... ชบายิ้มเจ้าเล่ห์ทำตัวเป็นผู้ติดตามที่ดีจนรถอีแต๋นคันเก่งวิ่งเข้าสู่ตัวเมือง...

เคนจอดรถอีแต๋นคันเก่งไว้ใต้ร่มไม้ใหญ่ ตลาดอำเภอโคกอีแร้งที่เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น อำเภอโคกสมบูรณ์ ประวัติความเป็นมาของอำเภอโคกอีแร้งก็คือ สมัยเมื่อเกือบร้อยก่อนนั้นพื้นที่บริเวณอำเภอนี้ที่กว้างใหญ่ไพศาลมันแห้งแล้งมาก ชาวบ้านก็อยู่อย่างอดอยากแร้นแค้นทั้งฝนก็ไม่ตก เกิดภัยแล้งหนักข้าวในนาก็แห้งตาย ชาวไร่ชาวนาต่างก็ทุกข์เข็ญเป็นอยู่กันด้วยความน่าเวทนา เกิดโรคระบาด ทั้งยังมีโจรร้ายปล้นฆ่าชิงทรัพย์ชาวบ้าน ทั้งที่ทุกคนต่างก็ยากจนแทบไม่มีจะกิน เกิดล้มตายจากทั้งโรคระบาดและถูกปล้นฆ่าชิงทรัพย์ ชาวบ้านที่เหลือจึงพากันนำศพของคนตายทั้งลูกเต้าผัวเมียพ่อแม่ญาติมิตรไปทำการเผาบนเชิงตะกอน ศพบางส่วนถูกทิ้งไว้ที่ทุ่งร้างว่างเปล่าเพราะคนตายเยอะมากจนไม่สามารถทำการเผาศพได้หมด ซึ่งทุ่งอันแห้งแล้งกันดารนี้มีฝูงอีแร้งฝูงใหญ่อาศัยอยู่ อีแร้งนับร้อยนับพันตัวโฉบลงมาจิกทึ้งซากศพจนพื้นที่ตรงนั้นกลายเป็นสีดำและเสียงอีแร้งที่แผดก้องก็น่ากลัวจนชาวบ้านต่างหวาดผวาทั้งโจรก็ชุม พอค่ำทุกครัวเรือนต้องเข้านอนดับฟืนดับไฟกันเงียบกริบ บรรยากาศของที่นี่จึงเงียบสงัดราวป่าช้า...

แล้วเหมือนมีแสงสว่างสาดส่องลงมาที่โคกอีแร้งซึ่งกลายเป็นชื่อของเมืองนี้ไปแล้ว เมื่อมีนายอำเภอหนุ่มนามว่า เพลิง โคกสมบูรณ์ เข้ามารับหน้าที่นายอำเภอที่นี่ นายอำเภอหนุ่มรู้ปัญหาของชาวบ้านและสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี เขาทำการปราบปรามโจรร้ายทั้งยังดึงหัวหน้าชุมโจรมาเป็นพวกเพื่อช่วยจัดการกับโจรกลุ่มต่างๆ ไปในตัว ดังนั้นหากได้ยินชื่อนายอำเภอเพลิงกับ สมิงขาว หัวหน้าชุมโจรชื่อดังที่ไหนโจรก็หนีหายไม่กล้าลองดีกับนายอำเภอคนเก่งและด้วยความที่เป็นคนตรงไปตรงมาทำงานจริงจังและจริงใจกับชาวบ้าน นายอำเภอเพลิงพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวบ้านให้ดีขึ้นตามลำดับ แต่ก็ยังไม่มากพอ มีคนพูดปากต่อปากกันว่านายอำเภอเพลิงเขียนจดหมายถึงพระราชา กราบทูลถึงความเป็นอยู่ของชาวบ้านและหลังจากนั้นไม่นานชาวบ้านโคกอีกแร้งก็ได้รับน้ำพระทัยจากพระองค์ท่าน มีความช่วยเหลือจากส่วนกลางหลั่งไหลมา มีของมาแจกจ่ายชาวบ้านที่ข้างๆ ถุงนั้นเขียนว่า ถุงยังชีพพระราชทาน มีทหารและเจ้าหน้าที่ภาครัฐหลายส่วนมาช่วยชาวบ้านขุดสระน้ำเพื่อให้ชาวบ้านมีน้ำกินน้ำใช้ ขุดคลองและช่วยกันปลูกต้นไม้สร้างบ้านให้ชาวบ้านที่ยากไร้ ไม่นานพื้นที่รกร้างแห้งแล้งแร้นแค้นก็เริ่มเขียวขจี ความเป็นอยู่ของชาวบ้านโคกอีแร้งดีขึ้น ชาวบ้านหน้าชื่นตาบานสดชื่นแจ่มใส เมื่อได้ข่าวว่าพระราชาจะเสด็จมาเยี่ยมเยียนราษฎรทุกคนต่างก็ปลาบปลื้มยินดี ดังคำที่เคยกล่าวไว้ว่าไม่มีพื้นที่ไหนที่พระราชาไปไม่ถึงและทุกพื้นที่ที่พระองค์ไปก็อุดมสมบูรณ์ชุ่มฉ่ำไพร่ฟ้าหน้าใสเต็มไปด้วยความอิ่มใจ...

จากความอดยากแร้นแค้นก็มีกินมีใช้เพราะดำเนินชีวิตตามรอย ศาสตร์จากพระราชา เหล่าโจรร้ายที่เฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงและการทำงานของนายอำเภอเพลิงก็ยอมรับในความสามารถและความจริงใจของเขาต่างเข้ามามอบตัว และขอโอกาสกลับตัวกลับใจ จากบ้านโคกอีแร้งก็เปลี่ยนชื่อเป็น บ้านโคกสมบูรณ์ เพื่อเป็นเกียรติให้กับนายอำเภอคนเก่ง นายอำเภอเพลิงได้แต่งงานกับสาวชาวบ้านโคกอีแร้งและอยู่กันอย่างมีความสุขมาหลายชั่วอายุคน ลูกหลานของพวกเขาต่างก็มีครอบครัวแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง แต่ต้นตระกูลนั้นยังคงอยู่ที่นี่และผู้คนต่างก็ให้ความเคารพนับหน้าถือตาคนตระกูลโคกสมบูรณ์มาตลอดทุกชั่วอายุคน

อรอาภาฟังชบาเล่าเรื่องความเป็นมาของบ้านโคกอีแร้งที่ยังคงเรียกขานกันอยู่ประสาชาวบ้านด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและปลาบปลื้มใจ ตั้งแต่เล็กจนโตเธอก็ได้ยินคุณหญิงย่าเล่าเรื่องพระราชาให้ฟังเสมอ เธอเองก็เห็นพระองค์ท่านในช่วงข่าวพระราชสำนักเพราะคุณหญิงย่ามักจะเปิดข่าวช่วงเวลานี้ดูเป็นประจำ และสิ่งที่เคยคุ้นตามาตั้งแต่จำความได้คือพระองค์ท่านทรงเสด็จไปทุกที่ของประเทศไทย ในมือมีแผนที่และมีกล้องถ่ายรูปคล้องคออยู่เสมอ ภาพการทรงงานของพระองค์ยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำ แม้ว่าในวันนี้จะไม่มีในหลวงผู้เป็นดั่งเทวดาเดินดินในข่าวอย่างที่เคยเห็น แต่ ในหลวงรัชกาลที่๙ ก็ยังอยู่ในความทรงใจในใจของชาวไทยทุกๆ คน สิ่งที่พระองค์ท่านได้สร้างได้ทำไว้ให้กับคนไทยไม่เพียงคนไทยได้ประโยชน์เท่านั้น แต่คนจากหลายๆ ประเทศก็ได้ประโยชน์จากสิ่งที่พระองค์สร้างไว้เช่นกัน โดยเฉพาะศาสตร์ความรู้ในเรื่องการทำการเกษตร การบริหารจัดการน้ำ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ ฝนหลวง และไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนจะไม่มีใครลืมพระองค์ได้เลย..

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel