บทที่4.จบตอน
“มึงสองตัวนี่มาทำอะไรกัน”
เคนทำเสียงดุๆ อรอาภาสะดุ้งมองเขาหน้าตื่นรู้สึกหวาดกลัวชายหนุ่ม แต่ก็รู้สึกใจเต้นแรงแปลกๆ หญิงสาวก้มหลบตาดุๆ ของเขารู้สึกหายใจติดขัดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
โมวววววว.. เจ้าควายทั้งสองส่งเสียงร้อง เสียงของพวกมันฟังดูทุ้มๆ ใหญ่ๆ น่าฟัง อรอาภายิ้มให้เจ้าตัวเล็กที่ยังไม่ยอมเดินไปหาเจ้านายของตนเหมือนเจ้าตัวใหญ่ที่ลำตัวอ้วนพีขนดำขลับดูสะอาดสะอ้าน
“บักสีหมอกกลับไปหาแม่มึงเลยไป”
เจ้าสีหมอกทำเสียงในลำคอเหมือนต่อต้านแล้วขยับมาใกล้ๆ หญิงสาวมากขึ้น อรอาภาลูบหัวมันอย่างอ่อนโยน
“ชื่อสีหมอกหรือจ๊ะ ชื่อเพราะจัง” หญิงสาวยิ้มให้เจ้าสีหมอก เจ้าบุญรอดเห็นดังนั้นรีบเดินกลับมาหาเธอแล้วทำท่าเหมือนให้เธอเรียกชื่อมันบ้างแล้วหันมามองเคนเหมือนกับจะบอกว่า บอกเขาไปสิว่าผมชื่ออะไร เคนเห็นท่าทางของเจ้าควายทั้งสองแล้วก็นึกหมั่นไส้พวกมัน
“มึงด้วยบักบุญรอดไปอยู่คอกเดี๋ยวนี้เลย” เจ้าบุญรอดทำท่าเหมือนฉีกยิ้มกว้างแล้วหันมาพยักหน้าหงึกๆ กับอรอาภา หญิงสาวยิ้มให้มันแล้วเรียกชื่อมันอย่างอ่อนโยน
“ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะบุญรอด เธอสวยมาก อุ๊ย ไม่สิ หล่อมากๆ” หญิงสาวลูบหัวมันเบาๆ และสังเกตว่ามันคือตัวผู้จึงรีบบอกมันอย่างจริงใจ ท่าทางเจ้าบุญรอดจะพอใจที่เธอชมมัน
“พวกมึงไปได้แล้วไป กูจะพาเขาไปธุระ เดี๋ยวกลับค่ำ..”
เหมือนเจ้าควายทั้งสองฟังรู้เรื่องมันค่อยๆ พากันเดินกลับไปที่คอกของตนทันที อรอาภามองพวกมันอย่างแสนเสียดาย ตอนนี้เธอไม่อยากไปไหนแล้วเธออยากเล่นกับควายมากกว่า หญิงสาวหน้าละห้อยแล้วนั่งนิ่งไม่รู้จะทำอย่างไรและไม่รู้จะวางตัวอย่างไรกับชายหนุ่มตรงหน้า คนที่เป็นว่าที่เจ้าบ่าวของเธอ
“จะไปรึยัง มาเร็วๆ อย่ามัวโอ้เอ้เสียเวลา”
“จะไปแบบนี้เหรอคะ” อรอาภาเอ่ยถามคนที่ทำท่าจะเดินนำหน้าไปหันขวับมามองหญิงสาวหน้าเสียทันที
“เป็นหยัง ไปแบบนี้มันเป็นหยัง” อรอาภาขมวดคิ้วพยายามตีความหมายของคำที่เขาพูดแต่ชบาก็สอนเธอแล้วหลายคำจำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่คำนี้เธอจำได้ว่าหมายความว่าอะไร
“ไม่เป็นอะไรค่ะ แต่อ้ายเคนไม่ใส่เสื้อหน่อยหรือคะ มันร้อน..” เธอบอกเขาอย่างที่คิดจริงๆ ไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่น
“เรื่องมากอีหลีว่ะแม่หญิงนี่..” เคนบ่นให้แล้วก็เดินไปหยิบเสื้อหม้อฮ่อมแขนสั้นที่แขวนอยู่กับตะปูหน้ากระท่อมมาสวมแต่ก็ไม่ได้ติดกระดุม
“ที่นี้จะไปได้รึยัง”
อรอาภาพยักหน้าเร็วๆ เพราะไม่รู้จะตอบอย่างไรดีเอเองก็ไม่เคยได้ใกล้ชิดผู้ชายสักเท่าไหร่จึงไม่รู้ว่าจะวางตัวแบบไหนกับคนอย่างเคนแต่เธอก็เดินตามร่างสูงใหญ่ที่เดินนำหน้าเธอไปเร็วมาก
“เร็วค่ะคุณหนูอ่อนเดี๋ยวอ้ายเคนจะดุเอา” ชบารีบตักน้ำมาให้หญิงสาวล้างมือล้างหน้าเพราะเห็นว่าเธอเล่นกับเจ้าสีหมอกกับเจ้าบุญรอด สองสาวรีบล้างมือแล้วเดินแทบจะกลายเป็นวิ่งตามเคนไปที่โรงรถประจำตัวของเคน
อีสำราญ คือ รถอีแต๋น.. มันคือพาหนะที่จะพาเธอเดินทางเข้าเมือง อรอาภามองรถอีแต๋นที่ดูเก่าคร่ำคร่าตรงหน้าอย่างสงสัยว่ามันจะพาเธอวิ่งไปถึงจุดหมายหรือไม่
“เห็นเก่าๆ แบบนี้มันวิ่งฉิวก็แล้วกัน”
เคนพูดขึ้นเหมือนรู้ว่าเธอคิดอะไร อรอาภาหันมามองเขาแล้วรีบหลบตา ท่าทางหงอๆ หวาดๆ ของเธอทำให้เคนรู้สึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อยทั้งยังนึกสงสัยว่าเขาน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือ
เดี๋ยวต้องถามไอ้เอกกับไอ้อ่อมเสียหน่อยว่าเขาดูน่ากลัวมากไหม แต่ถามชบาก่อนดีกว่า.. เคนคิดในใจแล้วดึงแขนชบาไปอีกฝั่งของรถ อรอาภามองท่าทางแปลกๆ ของแคนอย่างไม่เข้าใจ
“ชบา มานี่ๆ อ้ายถามหน่อย อ้ายเป็นตาย่านคักบ่”
เคนถามว่าเขาน่ากลัวมากไหม ชบาหัวเราคิกคักแล้วรีบหุบยิ้มเมื่อเจแววตาดุๆ ของเคน
“ก็เป็นยาย่านคักอยู่ คุณหนูอ่อนคือสิย่านอ้าย อ้ายก็โกนหนวดเคราหน่อยสิ”
ชบาบอกตามความจริงเพราะเคนรูปร่างสูงใหญ่แบบคนเลือดผสมอยู่แล้วทั้งร่างกายก็คร้ามแดดจนผิวสีแทนเข้ม ผมเผ้าก็ยาวไม่เป็นทรงทั้งหนวดเคราก็เต็มหน้าดูราวมหาโจร ท่าทางอรอาภากลัวเคนอยู่ไม่น้อย นี่หากไปเจอกันที่อื่นโดยไม่รู้จักกันมาก่อนคงคิดว่าเคนคือโจรใจโฉดแน่นอน
“อีหลีติ”
“แม่นแล้ว ใช่ เยสสสส..” ชบาตอบทะเล้นๆ เคนจึงตบกบาลชบาเบาๆ แต่ชบาก็แอคติ้งเยอะทำทีเซเซดๆ จนน่าหมั่นไส้ อรอาภาเห็นชบาเซจะล้มก็รีบเข้าไปพยุงชบาไว้
“เป็นอะไรมากไหมชบา อ้ายเคนทำร้ายชบาทำไมคะ”
อรอาภาหันมาทำตาเขียวๆ ใส่เขาอย่างลืมตัว เคนชะงักเมื่อเจอแววตาดุๆ ของสาวเจ้า แต่ก็ต้องรักษามาดของตนไว้
“ยังไม่ได้ทำอะไรเลย พูดมากน่าจะไปกันรึยัง”
“ไม่มีอะไรค่ะคุณหนูอ่อน ไปกันเถอะค่ะ”
“จริงหรือ แต่เมื่อกี้ชบาจะล้มเลยนะ” อรอาภาทำท่าไม่เชื่อ
“ก็ชบาแกล้งอ้ายเคนน่ะค่ะ”
“อ้อ.. หรือจ๊ะ”
ชบาพยักหน้ายิ้มแหยๆ แล้วพาอรอาภาเดินไปที่รถ ซึ่งเคนติดเครื่องรอแล้วชบารู้ตัวดีว่าต้องไปนั่งตรงไหนจึงกระโดดอย่างรวดเร็วไปนั่งข้างหลังโดยลืมไปว่าสาวชาวกรุงไม่เคยขึ้นรถอีแต๋นมาก่อนนั้นได้แต่ยืนเมียงๆ มองๆ ไม่รู้ว่าจะขึ้นไปแบบไหนเพราะจากพื้นถึงที่เหยียบขึ้นรถนั้นมันสูงเอาการอยู่
“เอ๊า สิยืนบื้ออยู่เฮ็ดหยัง” เคนทำหน้าดุใส่แล้วทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอแล้วกระโดดลงมาเดินมาหาเธอ อรอาภาทำท่าตกใจมองเขาหน้าตื่น ทำท่าจะผวาหนีเมื่อเขาเข้าใกล้
“ไม่ต้องมาทำเหมือนอ้ายเป็นมหาโจร มานี่จะช่วยชักช้าน่ารำคาญ”
อีสำราญ คือ รถอีแต๋น.. มันคือพาหนะที่จะพาเธอเดินทางเข้าเมือง อรอาภามองรถอีแต๋นที่ดูเก่าคร่ำคร่าตรงหน้าอย่างสงสัยว่ามันจะพาเธอวิ่งไปถึงจุดหมายหรือไม่
“เห็นเก่าๆ แบบนี้มันวิ่งฉิวก็แล้วกัน”
เคนพูดขึ้นเหมือนรู้ว่าเธอคิดอะไร อรอาภาหันมามองเขาแล้วรีบหลบตา ท่าทางหงอๆ หวาดๆ ของเธอทำให้เคนรู้สึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อยทั้งยังนึกสงสัยว่าเขาน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือ
เดี๋ยวต้องถามไอ้เอกกับไอ้อ่อมเสียหน่อยว่าเขาดูน่ากลัวมากไหม แต่ถามชบาก่อนดีกว่า.. เคนคิดในใจแล้วดึงแขนชบาไปอีกฝั่งของรถ อรอาภามองท่าทางแปลกๆ ของแคนอย่างไม่เข้าใจ
“ชบา มานี่ๆ อ้ายถามหน่อย อ้ายเป็นตาย่านคักบ่”
เคนถามว่าเขาน่ากลัวมากไหม ชบาหัวเราคิกคักแล้วรีบหุบยิ้มเมื่อเจแววตาดุๆ ของเคน
“ก็เป็นยาย่านคักอยู่ คุณหนูอ่อนคือสิย่านอ้าย อ้ายก็โกนหนวดเคราหน่อยสิ”
