บท
ตั้งค่า

บทที่5.ต่อ

“ดีใจแทนชาวบ้านจังเลยเนอะที่ได้รับน้ำพระทัยจากพระองค์ท่าน”

“ใช่ค่ะแม้ชบาเกิดไม่ทันแต่ได้ฟังเรื่องนี้ทีไรน้ำตาไหลทุกทีเลยค่ะ” ชบาเช็ดน้ำตาที่ซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอเองก็เช่นกันอรอาภาใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาที่คลอๆ เบาๆ

“รู้ไหมคะว่านายอำเภอเพลิงน่ะเป็น ปู่ของปู่ๆๆ และปู่ของปู่อ้ายเคน” ชบาทำท่านับนิ้วไปด้วย

“จริงเหรอ”

“จริงค่ะ ส่วนลูกหลานของเสือสมิงขาวก็เป็นคนใหญ่คนโตของที่นี่ นายอำเภอเพลิงกับเสือสมิงขาวเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันค่ะ นั่นซุปเปอร์มาร์เก็ตของ ตระกูลสมิงทอง เป็นซุปเปอร์มาเก็ตใหญ่ที่สุดของอำเภอค่ะที่นี่ไม่มีร้านสะดวกซื้อและไม่มีห้าง เราทุกคนที่นี่พอใจกับการมีร้านค้าแบบดั้งเดิม มีซุปเปอร์ฯ แห่งแรกและแห่งเดียวของเรา ร้านทองนั่นก็ใช่ คนครอบครัวนี้ค่อนข้างดุค่ะ แต่ก็ใจดีทุกคน ใครมาดีก็ดีกลับใครมาร้ายตายหยั่งเขียดค่ะ” อรอาภาพยักหน้าหงึกๆ มองไปรอบๆ อำเภอเล็กๆ แห่งนี้อย่างชื่นชม

ที่นี่ยังคงมีกลิ่นอายของชนบทไทยสมัยก่อนอยู่มาก ร้านรวงต่างๆ ยังเป็นแบบห้องแถวไม้กึ่งปูน ประตูเป็นแบบไม้บานพับบ้าง ใส่กลอนบ้างมีไม้ยาวๆ ขัดเงาวับขัดด้านใน บางแห่งเป็นอาคารพาณิชย์ที่มีอยู่ไม่กี่หลังและไม่สูงเกินสามชั้น ธนาคารมีอยู่หลายธนาคารและบางธนาคารก็สร้างกลมกลืนไปกับห้องแถวมีเพียงป้ายธนาคารสีต่างๆ ตั้งเด่นเป็นสง่าให้รู้ว่าอยู่ตรงไหน ถนนสะอาดสะอ้านร้านรวงต่างๆ สวยงามผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส และที่สำคัญที่นี่มีควายเทียมเกวียนเป็นพาหนะพานักท่องเที่ยวชมเมือง

อรอาภายิ้มกว้างเมื่อเห็นว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลายคนนั่งเกวียน บางคนถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานและควายแต่ละตัวก็ถูกจับแต่งตัวเสียน่ารัก มีบางตัวใส่หมวก ใส่เสื้อสีสันสดใส ทาสีบนตัวก็มี และเกวียนก็ตกแต่งสวยงามเก๋ไก๋ไม่แพ้กัน นอกจากนี้แม่ค้าพ่อค้าบางร้านก็แต่งกายด้วยเสื้อผ้าหลากสีสันทั้งแบบสมัยใหม่และร่วมสมัย ผู้ชายใส่เสื้อหม้อฮ่อมแขนสั้น นุ่งกางเกงขาก๊วยสีกรมท่าคาดเอวด้วยผ้าขาวม้าสีสันสดใส ผู้หญิงก็สวมเสื้อแขนกระบอกทั้งแบบสีพื้นและมีปักลวดสายสวยงาม บ้างก็นุ่งซิ่นหมักโคลน หรือไม่ก็ซิ่นย้อมคราม ซึ่งเป็นผ้าฝ้ายและผ้าไหมทอมือของชาวบ้านเอง บางคนก็สวมใส่เสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดแต่งหน้าทำผมเหมือนในละครมนต์รักลูกทุ่ง ซึ่งภาพที่ปรากฏในสายตาผู้พบเห็นคือความสวยงามอลังการแค่ก็เรียบง่ายสบายตา ซึ่งเป็นการผสมผสานหลอมรวมเข้ากันได้อย่างกลมกลืน

“หนูอ่อนคิดว่าตัวเองมากองถ่ายละครมนต์รักลูกทุ่งกับกองถ่ายละครนาคีเลยนะเนี่ย” อรอาภาพูดออกมาอย่างตื่นเต้น

“ไม่แปลกหรอกค่ะที่รู้สึกแบบนั้น มันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ค่ะ ทางอำเภอเขาก็ส่งเสริมให้พวกเราอนุรักษ์ความเป็นไทยวิถีชีวิตของพวกเราเอาไว้ และมันก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำเงินให้กับชาวบ้านด้วยค่ะ”

“ดีจังเลย ดูร้านนั้นสิ แม่ค้าสวยจัง”

“อี๋.. สวยค่ะแต่นิสัยไม่ดี นั่นร้านยายสารพัดพิษ”

“คนอะไรชื่อสารพัดพิษ”

“อ้อ เขาชื่อสารภีค่ะ แต่มันร้ายกาจมันแอบรักอ้ายเคนและชอบทำตัวเป็นเจ้าของอ้ายเคน..” ชบาเล่าไปก็ทำปากเบ้ไปด้วยเหมือนไม่ชอบใจ

“ชบา.. เว้าหลายไปแล้ว”

เคนเอ่ยขัดหลังจากเงียบมานานเพราะฟังสองสาวคุยกันมาเงียบๆ ชายหนุ่มเดินตามอรอาภากับชบามาห่างๆ และทันได้ยินชบาพูดเรื่อง สารภี สาวสวยเจ้าของร้านส้มตำ ครกทอง ร้านส้มตำที่จัดว่าเด็ดเผ็ดเริดที่สุดในอำเภอ

สารภีเป็นสาวสวยทันสมัยเผ็ดแซ่บที่สุดในอำเภอ เป็นคนที่มีชื่อเสียงสาวๆ ในอำเภอต่างอยากสวยเหมือนสารภีกันทุกคน เพราะนอกจากความสวยแซบปากเหมือนตะไกรแล้ว สารภียังเป็นตัวแม่แห่งวงการแฟชั่นของสาวๆ โคกอีแร้งเลยก็ว่าได้ ทั้งเธอยังเป็นลูกสาวของ เถ้าแก่เฮง เจ้าของตลาดประจำอำเภอ และแม้ว่าสารภีจะเป็นลูกเมียรองของเถ้าแก่เฮง แต่เถ้าแก่เฮงก็รักและเอ็นดูสารภีมาก เช่นเดียวกับเมียใหญ่ของเขาก็รักสารภีมากเพราะทั้งสองไม่มีลูกสาว อีกทั้งพี่ชายต่างแม่ทั้งสองคนของสารภีก็รักน้องสาวคนนี้มากเช่นกัน ใครมาวอแวกับน้องสาวของตนโดนดีทุกรายหรือหากใครคิดจะมาจีบน้องสาวของพวกเขาก็ต้องผ่านด่านพี่ชายทั้งสองเสียก่อน แต่เท่าที่ผ่านมาก็ยังไม่เห็นจะมีใครผ่านด่าน เสี่ยเข้ม กับเสี่ยคราม ไปได้เลยสักคน

“บ่หลายดอกยายนั่นแทบสิลากอ้ายเคนเข้าไปกกในบ้าน”

“โอ๊ย.. ผู้หญิงนี่ช่างปากคือลิงกันทุกคนแท้”

เคนเปรียบว่าชบาและผู้หญิงช่างปากไวเหมือนลิง ซึ่งคำเปรียบเปรยแบบนี้อรอาภาเองก็เพิ่งเคยได้ยินหญิงสาวจึงรู้สึกขบขันกับคำเปรียบของเคน

“เจ้าหัวเราะเฮ็ดหยัง มันขำตรงไหน”

อรอาภาหุบยิ้มแต่ก็ยังรู้สึกขบขันไม่หายแก้มขาวนวลจึงพองๆ ยุบๆ แดงปลั่งน่ามอง เคนทำทีเมินไม่มองทั้งที่อยากมองใบหน้างามเปล่งปลั่งทั้งวันทั้งคืน

“ซัง ซุมคน เว้าหลาย เอ๊า.. สิซื้ออีหยังกัน”

“อ้ายเคนก็พูดดีๆ กับคุณหนูอ่อนหน่อยสิ แม่ใหญ่บอกว่าให้อ้ายเคนพูดภาษากลางกับคุณหนูอ่อนนะ”

ชบาติงอย่างไม่ต้องกลัวว่าเคนจะโกรธ เธออยู่กับครอบครัวเคนมาตั้งแต่เด็กๆ และยังเป็นญาติกัน ทั้งแม่ใหญ่ไพลินกับพ่อใหญ่ปีเตอร์ก็รักเธอเหมือนลูกหลานและเคนก็รักเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง เธอเองก็รักเคารพเคนอย่างพี่ชาย

“บ่เว้า อยากสิมาอยู่นี่ก็ต้องปรับตัวเข้ากับคนอื่นเขา บ่แม่นให้เขาปรับตัวเข้าหา ผีบ้าติสิให้คนทั้งอำเภอปรับตัวหาเจ้าของ”

เคนพูดแล้วมองหน้าอรอาภานิ่ง เขาอยากให้อรอาภาปรับตัวและเรียนรู้ที่จะเข้ากับคนที่นี่มากกว่าจะให้ใครๆ ปรับตัวเข้าหาเธอ

“แต่คุณหนูเพิ่งมาจะให้ปรับตัวอะไรกันล่ะอ้าย โอ๊ย.. พูดกับเจ้าแล้วข้อย หุนหวย ”

อรอาภามองทั้งสองสลับกันไปมาเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแต่ก็พยายามจะเข้าใจกลับไปเธอต้องไปเปิดสมุดที่ตนจดคำพูดภาษาอีสานไว้อ่านทบทวนเสียแล้ว

“หรืออ้ายจะให้คุณหนูเรียกอ้ายว่ามึง กูงั้นรึ”

“ชบา พูดไม่เพราะเลย..”

อรอาภากระตุกแขนเสื้อชบาแล้วกระซิบบอกเบาๆ อย่างเกรงใจและกลัวว่าเคนจะโกรธชบาไปด้วยเพราะดูท่าทางเขาไม่ชอบหน้าเธอนัก หญิงสาวหน้ายุ่งเป็นกังวล

“ฮ่วย ชบานี่ สิมาคาดคั้นอีหยังนำกู เอ๊ย อ้ายวะ..” เคนมีท่าทีอ่อนลงเล็กน้อยแล้วชายหนุ่มก็ถอนใจเบาๆ

“เอาเป็นว่าอ้ายจะพยายามก็แล้วกัน..พอใจยัง”

“แค่นี้ล่ะที่ชบาสิบอก อ้ายเคนคือเว้าไปไสไกลแท้”

“โตนี่มันสาระแนหลายชบา”

เคนผลักศีรษะชบาแรงๆ อย่างหมั่นไส้เมื่อเห็นแววตาระริกระรี้ล้อเลียนของชบาแล้วก็หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาจนต้องเมินหลบ...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel