บทที่3.จบตอน
เคนไล่ลูกน้องไปเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกบางอย่างของตน พอลับหลังอ่อมแล้วชายหนุ่มก็กมมองอาหารตรงหน้าแล้วยิ้มบางๆ มันก็ไม่ได้เลวร้ายนักหรอกกับอาหารไทยๆ ที่ดูจืดชืด ต้มจืด ผัดผัก กับยำรวมมิตรสีสันอ่อนๆ
“คุณหนูอ่อนไปช่วยแม่ครัวทำอาหาร พวกแม่ครัวชมกันใหญ่ว่าคุณหนูอ่อนทำอาหารอร่อย แล้วก็ทำอาหารบ้านเราได้หลายอย่าง มันอร่อยมาก มันจึงเหลือไม่ถึงพี่”
เสียงอ่อมลอยมาแว่วๆ ทั้งยังหันมายิ้มล้อเลียนลูกพี่ของตน ก่อนจะวิ่งลิ่วไปอย่างรวดเร็วเมื่อเคนหยิบก้อนหินปามาตามหลัง
“เล่นด้วยแล้วลามเหมือนขี้กลาก”
เคนบ่นลูกน้องแล้วหันมามองอาหารตรงหน้าอีกครั้งก่อนจะล้างมือแล้วกินข้าวด้วยมือ หรือที่เรียกว่าเปิบมือแบบชาวบ้านๆ ชายหนุ่มเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยใบหน้าดุดันที่เต็มไปด้วยหนวดเครามีรอยยิ้มบางๆ ระบายเต็มดวงหน้า เมื่อกินเสร็จชายหนุ่มก็เดินไปที่คอกควายของตนเพื่อไปสุมไฟไล่ยุงให้ อีหมี ควายแม่ลูกอ่อน
อีหมี เงยหน้าขึ้นทำเสียงมอเมื่อเห็นเขาเคนลูบหัวมันแล้วลูบหัว ไอ้สีหมอก ลูกควายเพศผู้ของอีหมี ไอ้สีหมอกยังเป็นลูกควายตัวน้อยๆ อยู่ แต่อีกไม่นานก็คงจะเป็นควายหนุ่มบึกบึน เหมือน ไอ้บุญรอด ลูกตัวแรกของอีหมีนับตั้งแต่มันมาอยู่กับเขา ไอ้บุญรอดเป็นควายตัวเก่งที่เขาใช้มันไถนาและมันก็เป็นควายหนุ่มที่เชื่องแสนรู้แต่ก็มีความซุกซนกวนๆ อยู่ไม่น้อย
“ไงอีหมีของพ่อนอนสบายพุงเลยนะ พ่อจะมีเมียแล้วนะ ดีใจไหม..” อีหมีแม่ควายตัวอ้วนพีหันมามองค้อนแล้วถอนใจก่อนจะเมินหน้าหนีอย่างแง่งอน เคนหัวเราะแล้วลูบหัวมันเบาๆ
“คนนี้รับรองมึงต้องชอบ แต่เขาอาจจะไม่ชอบพ่อ มึงต้องช่วยพ่อนาอีหมี”
อีหมีทำท่าฟึดฟัดไม่มองหน้าเหมือนงอน อีหมีมันเป็นแม่ควายที่เขาช่วยเหลือมันมาจากการถูกเชือดได้เฉียดฉิว ตอนนั้นมันก็กำลังท้องแก่และกำลังจะถูกนำไปเชือดที่โรงฆ่าสัตว์ด้วยความรักชีวิตมันดิ้นหนีสุดแรงเกิดจนหลุดจากรถที่บรรทุกมันมา แม่ควายท้องแก่วิ่งหนีความตายจ้าละหวั่นจนเกิดความโกลาหลวุ่นวายไปทั้งตลาดเมื่อมันวิ่งเข้าในในตลาดโคกอีแร้งในวันที่มีตลาดนัดประจำอำเภอ พอเจ้าของคนใหม่ที่กำลังจะพามันมาขายมันจับได้จะใช้ค้อนทุบหัวมันด้วยความโกรธที่มันวิ่งหนีจนเกิดความวุ่นวายแม่ควายก็ร้องเสียงดังน้ำตาของมันไหลพราก เคนเห็นแล้วก็เกิดความเวทนาสงสารจึงเข้าไปขวางไว้และพอได้สบตาที่มีแววเศร้าสร้อยปนร้องขอและเห็นว่ามันมีน้ำตาคลอๆ เขาก็จึงขอซื้อมันต่อจากชายคนนั้น ตอนนั้นเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันท้องแก่จนเมื่อเขาพามันมาที่บ้านวันรุ่งขึ้นมันก็คลอดลูกควายออกมาสร้างความตื่นเต้นดีใจให้กับทุกคนมาก
อีหมีมันรักเขามากเรียกได้ว่าเขาไปไหนมันก็เดินตามไปแทบทุกที่ คอยอยู่ข้างๆ เหมือนเงาตามตัวเลยก็ว่าได้ไม่ว่าจะขยับไปไหนมันก็จะคอยเหลียวมองและคอยเดินตาม และที่สำคัญหวงเขามากด้วย สาวๆ คนไหนทะเล่อทะล่าเข้ามาหาเขาต้องเจอหน่วยสกัดดาวรุ่งที่ชื่ออีหมีก่อน คนไหนมากรี๊ดกร๊าดวี้ดว้ายมาวุ่นวายกับเขามากๆ อีหมีจะวิ่งไล่เลยทีเดียว บางทีมีใครที่ไม่ประสงค์ดีเข้ามาวุ่นวายในบ้าน มันจะทำเสียงขู่ในลำคอแล้วตะกุยเท้ากับพื้นทำท่าเหมือนจะพุ่งชนข่มขู่ รายไหนรายนั้นเผ่นแนบทุกราย จนใครๆ ก็ว่ามันดุเหมือนแม่หมามากกว่าแม่ควาย หลายปีมานี้มันอยู่เคียงข้างเขามาตลอดทั้งช่วยไถนาเฝ้าบ้านและเป็นเพื่อนรู้ใจพอๆ กับเอกและอ่อมแต่คนที่ขี่หลังมันได้มีแค่เขาคนเดียว
“อย่าทำงอนน่าอีหมี คนนี้พ่อเอาจริง เวลาเจอเขาก็ทำตัวน่ารักๆ ไว้นะ ไว้หน้าพ่อด้วยเดี๋ยวเขาจะกลัวหนีกลับกรุงเทพฯ ไปก่อน”
อีหมีทำเสียงครืดคราดในลำคอเหมือนไม่ยอมรับแล้วเดินสะบัดตูดไปนอนไกลๆ จากเขา เคนหัวเราะท่าทางของมันแล้วลูบหัวเจ้าสีหมอกซึ่งเป็นควายเผือกเพราะพ่อของมันเป็นควายเผือกของเจ้าของนาที่อยู่ติดกัน และเจ้าของพ่อเจ้าสีหมอกก็เป็นเพื่อนกับเขานี่เอง
“สีหมอกลูกรัก มึงก็ต้องช่วยพ่อนะลูก”
เจ้าสีหมอกเป็นควายเด็กที่กำลังซุกซนและแสนรู้ทำท่าระริกระรี้เหมือนบ่งบอกว่ามันสนับสนุนคุณพ่อเต็มที่ เคนยิ้มออกแต่ก็อดมองอีหมีอย่างหวั่นใจไม่ได้เพราะหากอรอาภาเข้ากับอีหมีไม่ได้ หายนะแน่ๆ
รักฉันก็รักควายฉันด้วย..
“โผล่หน้ามาจนได้นะ” พ่อใหญ่ปีเตอร์กอดอกมองลูกชายที่ยังคงทำตัวลอยไปลอยมาเหมือนไม่สนใจอะไรเหมือนเดิม โดยเฉพาะเคนทำเหมือนไม่สนใจว่าที่เจ้าสาวของตน งานเลี้ยงต้อนรับอรอาภาก็ไม่โผล่หน้ามา
“ก็คนยุ่งๆ อยู่น่าพ่อใหญ่”
“ก็ดี.. ยุ่งไว้น่ะดี จะได้ไม่มาเกาะแกะลูกสาวแม่” แม่ใหญ่ไพลินเอ่ยขึ้นพร้อมกับยกถาดอาหารมาวางตรงหน้า ทุกเช้าพวกเขาจะนั่งล้อมวงรับประทานอาหารอยู่ที่นอกชานซึ่งร่มรื่นจากชายคาบ้านและมีร่มจากกิ่งก้านของต้นมะม่วงต้นใหญ่ซึ่งอายุหลายสิบปี ทั้งรอบๆ ระเบียงก็มีกระถางต้นไม้ดอกไม้เรียงรายสวยงาม
“อ้าว เดี๋ยวดีแม่ใหญ่มีลูกสาวแล้วรึ แล้วข้อยล่ะ” เคนทำทีแซวแม่ของตน แม่ใหญ่ไพลินหันมาค้อน
“ก็ใช่น่ะสิ มีลูกสาวแล้วและไม่ง้อลูกชายแล้วด้วย เพราะอีกหน่อยก็จะมีลูกเขย” แม่ใหญ่ไพลินยิ้มร้ายกาจซึ่งท่าทางแบบนี้เคนรู้ดีว่าแม่ของตนมีแผนอะไรในใจแน่ๆ
“หมายความว่ายังไงอีแม่..”
“ก็หมายความว่า ในเมื่อเคนบ่สนใจหนูอ่อน แม่ก็ไม่ว่าหากจะมีผู้ชายคนไหนเข้ามาแจกขนมจีบหนูอ่อนของแม่ พ่อใหญ่ก็เห็นใช่ไหมว่าเมื่อคืนกำนันตันน่ะชื่นชมหนูอ่อนมาก บอกว่าจะทาบทามหนูอ่อนให้ตาต้นลูกชายแก ผู้ใหญ่แสงนั่นก็อีกอยากได้หนูอ่อนไปเป็นสะใภ้จนตัวสั่น แม่ใหญ่บุญหลายก็อยากได้หลานสะใภ้ เฮ้อ.. แม่นี่ดีใจมากเลยนะที่ใครๆ ก็เอ็นดูหนูอ่อนของแม่ แบบนี้จะเก็บหนูอ่อนไว้แต่ในเรือนทำไม”
“อ้าว ก็ไหนอีแม่บอกว่าหนูอ่อนจะต้องมาเป็นเมียข้อย” เคนหน้าตื่นเสียงดัง
“บักเคน..” พ่อใหญ่ปีเตอร์เสียงเข้มปรามลูกชายเบาๆ ซึ่งเขาไม่ค่อยได้ทำเสียงแบบนี้ใส่ลูกชายบ่อยนัก เคนหน้างอเมื่อเห็นแล้วว่าแม่กับพ่อเริ่มไม่เห็นเขาในสายตาทั้งยังจะยกว่าที่เจ้าสาวของตนให้คนอื่นอีก
