บท
ตั้งค่า

บทที่1. จบตอน

แต่นางจะไม่มีวันยอมให้อรอาภาได้มรดกชิ้นนี้ไปอย่างแน่นอน มันจะต้องเป็นของนางกับลูกสาวเท่านั้น แม้ว่ามรดกส่วนที่เป็นของคุณอนุวัฒน์นั้นนางได้บีบบังคับให้คุณอนุวัฒน์ยกให้ตนทั้งหมดก็ตาม แต่นางต้องการทั้งหมด...

ครอบครัวอภิรัตนกุลมีทรัพย์สินมากมายแม้ไม่ต้องทำงานก็ยังมีรายได้จากหุ้นที่ถืออยู่ตั้งแต่สมัยคุณหญิงอรพินท์เป็นประธานบริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของตนและท่านยังมีหุ้นในโรงแรมและโครงการที่อยู่อาศัยอีกหลายแห่งเรียกได้ว่ารายได้ในแต่ละปีมากโขพอสมควร ซึ่งคุณหญิงอรพินท์นั้นแบ่งทรัพย์สินต่างๆ ให้ลูกๆ ทั้งสามเท่าๆ กันซึ่งลูกทั้งสามคนก็ต่างไปมีชีวิตและมีธุรกิจของตัวเอง

ลูกสาวทั้งสองของคุณหญิงอรพินท์ได้สามีชาวต่างชาติและได้ย้ายไปอยู่กับสามีที่ต่างประเทศจะกลับมาเยี่ยมท่านปีละสองครั้ง แต่เมื่อทั้งคุณอรพินท์กับคุณอนุวัฒน์ เสียชีวิตไปแล้วลูกๆ ทั้งสองของท่านก็ไม่ค่อยกลับมาอีกและนางเองก็พยายามกีดกันไม่ให้ลูกสาวของคุณอรพินท์ทั้งสองคนได้พบกับอรอาภาเพราะกลัวว่าพวกเขาจะมาพาอรอาภาไปอยู่ด้วย

“นังแก่สารพัดพิษ ขนาดตายไปแล้วยังคอยทิ่มแทงใจกู คอยดูนะของของมึงทุกอย่างก็จะต้องเป็นของกู” คุณพิสมัยมองไปยังเรือนรื่นรมย์ที่ยังคงสวยงามเด่นสง่าอยู่ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี

“ถึงไม่มีนังอ่อนแต่เราก็ยังไม่ได้เป็นเจ้าของบ้านโดยสมบูรณ์ ไหนจะหุ้นบริษัทที่เหลืออีก หากเราได้พินัยกรรมที่เหลือมามันคงจะง่ายกว่านี้ หรือเราจะรอวันเปิดพินัยกรรมแล้วบังคับให้นังอ่อนมันยกให้เรา แต่เราจะทำยังไงให้มันยอม” คุณพิสมัยครุ่นคิดเคร่งเครียดเพราะความโลภและริษยา

“มันไปอยู่บ้านนอก ถ้ามันอยู่ไม่ได้มันก็อาจจะหนีไปหรือไม่ก็คงอกแตกตายไป แต่ยังไงมันก็จะไม่มีวันกลับมาที่นี่ เมื่อไม่มีมัน ทุกอย่างก็จะต้องเป็นของเราอยู่แล้วนี่นา ทำไมคิดไม่ได้นะ.. แต่.. เรายังฆ่ามันไม่ได้ เก็บมันไว้ก่อนทรมานมันให้สาแก่ใจก่อน หึหึ.. อีอาภามึงดูสิ ลูกมึงยิ่งกว่าขี้ข้ารองมือรองตีนกูฮ่าๆ” คุณพิสมัยพูดแล้วหัวเราะลั่นเหมือนคนไร้สติ ดวงตาวาววับด้วยความชั่วร้าย

ความสุขสบายของอรอาภาคือสิ่งที่นางไม่ต้องการ..

นางรู้ดีว่าอาทั้งสองของอรอาภานั้นรักอรอาภามากและพยายามจะมาขอพาอรอาภาไปอยู่ด้วยหลายครั้งหลังจากที่คุณหญิงอรพินท์เสียชีวิต และนางก็ต้องแสดงละครเป็นแม่เลี้ยงที่แสนดีพูดจาหว่านล้อมให้อาทั้งสองของอรอาภาเข้าใจว่าหลานสาวของตนอยู่สุขสบายดีเพื่อที่อรอาภาจะยังคงอยู่ให้นางกลั่นแกล้งทรมานให้สาแก่ใจที่คั่งแค้นมานาน

“หึ.. นังอรอาภาแกจะต้องไม่มีความสุขเหมือนที่แม่แกเคยเป็น พวกแกจะไม่มีวันได้พบกับความสุข ไงคะคุณพี่ ในที่สุดคุณพี่ก็ปกป้องไม่ได้ทั้งเมียทั้งลูก ฮ่าๆ สะใจอีพริ้งเสียจริง.. ถ้าพี่รักพริ้งแต่แรกทุกอย่างมันคงไม่เป็นแบบนี้หรอก แต่เพราะคุณพี่รักมัน รักอีอาภา รักลูกมัน ทุกคนรักมัน เป็นไงล่ะ แล้วเป็นไง.. มันก็ตายตามๆ กันไปไงล่ะ ฮ่าๆ สมน้ำหน้าตายไปเสียได้ก็ดี”

คุณพิสมัยหัวเราะกับรูปของคุณอนุวัฒน์ นางมองภาพชายตรงหน้าด้วยความทั้งรักทั้งเกลียด และคิดเข้าข้างตัวเองเสมอว่าควรเป็นผู้ที่ได้ทุกอย่าง และคนที่ขัดขวางความสุขของตนคือคนเลวจะต้องกำจัดออกไปให้พ้นทาง

“ยังไงมึงก็เหมือนลูกไก่ในกำมือกูอยู่ดีนั่นล่ะ ไม่ว่ามึงอยู่ไหนก็ไม่พ้นมือกูหรอกนังอ่อน..”

ดวงตาของคุณพิสมัยเต็มไปด้วยความชิงชังเคียดแค้น ด้วยความที่เคยอยู่เหนือแม่ของอรอาภามาเสมอและคิดมาตลอดว่าแม่ของอรอาภาต่ำต้อยกว่าตนเมื่อได้แต่งงานกับคุณอนุวัฒน์ คนที่นางแอบรักและแม่ของอรอาภาก็มีชีวิตที่ดีมีความสุขทำให้นางทนไม่ได้ คิดหาวิธีการแก้แค้นอยู่เสมอและความรู้สึกนั้นก็หยั่งรากลึกในใจเกินกว่าที่นางจะปล่อยวาง และไม่ว่าใครก็ห้ามหรือเปลี่ยนความคิดนางไม่ได้แม้แต่คนที่รักนางอย่างจริงใจอย่างพ่อที่แท้จริงของอรสินี...

“อ้ายเคน คนนั้นอีหลี ติว่าที่เจ้าสาวอ้าย” อ่อมกับเอกบุ้ยใบ้ให้เคนมองดูหญิงสาวที่ขับรถออกไป เคนมองตามแต่เขาไม่เห็นเธอชัดเจนนัก ชายหนุ่มเบ้ปากอย่างไม่ชอบใจ

“ก็ดูงามอยู่”

“ป้าด สายตาคือดีจังเลยขนาดรถติดฟิล์มยังมองเห็น”

“คนอย่างกูผ่านผู้หญิงมาเยอะเห็นแค่เส้นผมก็รู้แล้วเว้ยว่าสวยหรือไม่สวย” ได้ทีเคนคุยโอ่ทันทีจะว่าไปเขาก็ไมได้โม้เกินจริง เมื่อตอนอยู่ออสเตรเลียเขานี่ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเพลย์บอยเนื้อหอมเลยทีเดียว

“แล้วเอายังไงต่อล่ะอ้ายเคน”

“ต้องสืบให้แน่ใจก่อนสิวะ จะได้รับมือถูก อย่างน้อยๆ ก็ให้รู้ว่าเป็นคนแบบไหน”

“อ้ายเคนเว้ามีเหตุผล” ลูกน้องทั้งสองพยักหน้าเห็นด้วย

“บักอ่อม มึงลองเข้าไปเลียบๆ เคียงๆ สิ ว่ายังไง”

“ทำแบบไหนพี่..” อ่อมทำหน้างงๆ ใบหน้าซื่อๆ นั้นยิ่งดูซื่อเข้าไปอีก เคนส่ายหน้ากับความซื่อของไอ้อ่อม ซึ่งเป็นคนที่ค่อนข้างจะคิดช้าทำอะไรช้าเซ่อ ซื่อๆ ไม่ค่อยทันคน ผิดกับไอ้เอกผู้เป็นน้องที่ฉลาดหัวไว ทะเล้นเจ้าเล่ห์ หัวแหลมเหมือนหัวลิง

“เออ กูลืมไปว่าใช้คนผิดงาน ไอ้เอก มึงไป” เอกยิ้มเผล่แล้วรีบลงจากรถไปหยิบไม้กวาดมาแบกแล้วเดินไปด้วยตะโกนไปด้วย

“ไม้กวดครับไม่กวาด ไม้กวาดดอกหญ้าคุณภาพดีจากแหล่งผลิตจ้า..”

เอกทำทีเป็นพ่อค้าแบกไม้กวาดขาย ร่างสูงเก้งก้างสมใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ดูมอซอและท่าทางหิวโหย แล้วเอกก็เดินผ่านหน้าบ้านหลังงามซึ่งเป็นเป้าหมาย มีลุงแก่ๆ คนหนึ่งท่าทางน่าจะเป็นคนทำสวนกำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่แล้วพอไปถึงเอกก็ทำทีเป็นร้องขายไม้กวาดแล้วก็ทำท่าโงนเงนๆ แล้วล้มลงทันที

“เฮ้ย.. คนเป็นลม ตายล่ะหวา นังส้มเช้งออกไปดูหน่อยเร็ว เรียกได้หวังไปด้วย” ชายคนนั้นบอกไม่นาน ก็มีหญิงชายคู่หนึ่งวิ่งออกมาจากบ้านเข้ามาประคองเอกไปนั่งหลบแดดใต้ร่มไม้ที่โน้มกิ่งใบเลยรั้วออกมาทั้งคู่ช่วยกันปฐมพยาบาลเอกอยู่ครู่หนึ่ง...

เคนกับอ่อมซึ่งนั่งอยู่ในรถที่จอดอยู่เยื้องกับบ้านเป้าหมายเฝ้าดูสถานการณ์เงียบๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel