ตอนที่ 2 ลูกคือความผิดพลาด
ช่วงหัวค่ำ
อัญญารินทร์กำลังฝึกเอาลูกเข้าเต้าอย่างทุลักทุเลเพราะแม่และแม่สามีลงไปชั้นล่างเพื่อหาอะไรกิน แขนเรียวข้างหนึ่งโอบประคองตัวลูกส่วนมืออีกข้างพยายามจับเต้านมเข้าปากลูกที่ร้องไห้งอแงเพราะความหิว แต่ด้วยความที่เป็นคุณแม่มือใหม่ไม่เคยทำลูกก็เอาแต่ร้องไห้จนเธอร้องไห้ตามไม่รู้ว่าจะทำให้ลูกดูดนมได้ยังไงจึงเรียกพยาบาลให้เข้ามาช่วย
คุณแม่มือใหม่นั่งปาดน้ำตามองลูกร้องไห้พยายามเอาลูกเข้าเต้าอีกครั้ง สักพักเสียงเปิดประตูห้องก็ทำให้ใจชื้นคิดว่าพยาบาลเข้ามาช่วย ทว่าคนที่เข้ามากลับเป็นธนาสามีที่พึ่งโผล่หน้ามาเห็น ดวงตาสวยพร่ามัวไปด้วยน้ำตาเอ่อล้น ธนาสวมชุดกาวน์ใส่แว่นกรอบใสเดินเข้ามานั่งลงข้างเตียงหยิบหมอนมารองแขนคุณแม่ที่ประคองกอดลูกแล้วจับมืออีกข้างของเธอเขี่ยจุกหัวนมบนปากลูกเบา ๆ จนลูกที่ร้องงอแงพยายามอ้าปากงับ เขาจับมือเธอค่อย ๆ ยัดจุกเข้าไปในปากของลูกน้อยที่พอได้งับจุกนมแม่ก็ดูดจ้วบ ๆ หิวโหย อัญญารินทร์ก้มมองลูกแล้วยิ้มกว้างทั้งน้ำตาแม้หน้าซีดเซียวเสียเลือดมากแต่รอยยิ้มเธอช่างสวยหวานน่าหลงใหล ธนาหยิบทิชชูมาเช็ดน้ำตาบนแก้มใสทำให้เธอแปลกใจเงยมองหน้าสามี
“เดี๋ยวน้ำตาเค็ม ๆ จะร่วงเข้าตาลูก” เสียงทุ้มเรียบเฉยมองหน้าลูกไม่สบตากับแม่สักนิด
“ทำไมพึ่งมา?”
“...........”
“พี่จะไม่หือไม่อือทำร้ายใจแบมแค่ไหนก็ได้ แต่ช่วยสนใจลูกหน่อยอย่างน้อยก็ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อ” เสียงหวานสั่นเครือน้ำตารื้นขอบเบ้าอีกครั้ง
“ลูกยังอยู่อีกนานไม่จำเป็นต้องมาดูแลแค่วันนี้หรอกมั้ง”
“แต่วันนี้มันเป็นวันที่แบมเจ็บตัวเสียเลือดเยอะจนเพลียดูแลแค่ตัวเองยังไม่ไหวไหนจะดูแลลูกที่เลี้ยงเองไม่เป็นอีก แทนที่พี่จะมาช่วยกันแต่...” ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบสามีตัวดีก็ลุกพรวดหันหลังให้อย่างเฉยชา
“จ้างพยาบาลพิเศษไว้แล้วเดี๋ยวก็มาช่วย”
“ถ้าคุณตารู้ว่าพี่จะทำร้ายใจแบมแบบนี้คุณตาจะไม่มีวันให้เราแต่งงานและมีลูกด้วยกัน” เธอตะคอกแววตาปวดร้าวแทบจะแตกสลายกับการกระทำของเขาเข้าไปทุกที ธนาหันมองหน้าบึ้งตึงก่อนจะพูดประโยคที่เสียดแทงหัวใจดวงน้อยซ้ำเข้าไปอีก
“ต้องให้พูดย้ำอีกกี่ครั้งว่าแบมเป็นคนอยากแต่งงานกับพี่เอง ถ้าคืนนั้นแบมไม่อ่อยพี่ตอนเมาเราก็ไม่ต้องมีลูกที่เป็นความผิดพลาดออกมาแบบนี้ หัดโทษการตัดสินใจของตัวเองซะบ้างคุณหนูอัญญารินทร์ ไม่ใช่จ้องจะโทษแต่คนอื่น!”
“แบมโทษตัวเองที่โง่เลือกพี่มาทำผัวแต่พี่ก็ผิดที่ทำแบมท้อง คืนที่พี่เมาแบมอ่อยจริงอันนี้ยอมรับแล้วคืนอื่นล่ะ พี่มาเอากับแบมบ่อย ๆ มันคืออะไร!”
“ก็แค่เซ็กซ์ไง มันต้องมีอะไรมากกว่านั้นด้วยเหรอ แบมเองก็สมยอมชอบให้พี่แตะต้องอยู่แล้วนี่จะโยนความผิดมาที่พี่คนเดียวได้ไง!”
“พี่แม่งโคตรเห็นแก่ตัว” หน้าสวยแดงก่ำน้ำตาร่วงตัดพ้อสามีน้ำเสียงสั่นเครือ
“เราสองคนมันก็พอกันนั่นแหละถึงอยู่ด้วยกันได้ไง” สายตาของเขาช่างว่างเปล่าและเย็นชาก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากห้องพักผู้ป่วยไม่หันมามองภรรยานั่งให้นมลูกน้ำตานองหน้าสะอึกสะอื้นนึกถึงวันวานแล้วได้แต่โทษตัวเองที่ตัดสินใจพลาดจนไม่อาจกลับตัวไปแก้ไขใด ๆ ได้เลย...............
ย้อนไปเมื่อหนึ่งปีก่อน
คฤหาสน์หลังใหญ่หรูหราของท่านประธานศาสตราจารย์ดอกเตอร์เจตจำนง เจ้าของโรงพยาบาลระดับพรีเมี่ยมใจกลางเมืองสำหรับผู้มีฐานะโดยเฉพาะ
ภายในห้องรับแขกสีขาวสะอาด
ดร.เจตจำนง ในวัยเก้าสิบสามผิวขาวซีดผมหงอกแต่ยังดูสุขภาพดีใบหน้าสดใสดูแลร่างกายและจิตใจมาเป็นอย่างดี ท่านมีลูกสาวเมลินดาซึ่งเป็นสาวสังคมเกิดมารวยมหาศาลสายปาร์ตี้จนสามีต่างชาติเลิกราแต่ก็ยังมีทายาทคืออัญญารินทร์เป็นดวงใจของคุณตาที่รักมากและจะเป็นคนเดียวที่ได้รับมรดกมหาศาลนี้ไป
บนเก้าอี้โซฟาข้าง ๆ คือทัตชาติลูกชายของคุณทิชาพรน้องสาวของดร.เจตจำนงที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุนั่งอยู่ใกล้กับวีณาภรรยาใหม่มีลูกติดชื่อธนาซึ่งเป็นคุณหมอคนเก่งก้าวขึ้นเป็นอาจารย์หมอจากโรงพยาบาลรัฐด้วยความสามารถฉลาดและมีฝีมือ
“แบมเรียนจบแล้วกำลังจะกลับมา” ดร.เจตจำนงใบหน้าเปื้อนยิ้มดีใจหลานสาวจะกลับมาหลังไปศึกษาต่อปริญญาโทต่างประเทศสองปี
“ดิฉันจะสั่งอาหารมาเลี้ยงต้อนรับนะคะ” วีณายิ้มอ่อนประจบประแจงเอาใจลุงของสามี
“คุณลุงจะคุยกับพวกผมเรื่องงานแต่งของธนากับแบมใช่ไหมครับ” ทัตชาติเอ่ยถามค่อย ๆ วางแก้วชาลงบนโต๊ะรับแขก
“ใช่ ลุงเกริ่นกับแบมแล้ว ทางเราล่ะได้คุยกับลูกหรือยัง”
“คุยเรียบร้อยค่ะ ธนาเอ็นดูหนูแบมอยู่ไม่น้อยเลยยินดีที่จะแต่งงานกับหนูแบมค่ะ” วีณายิ้มแย้มสดใสมีความสุขแต่ก่อนหน้านี้ที่คุยกับลูกชายไม่ง่ายเลยเพราะเขายืนยันจะไม่แต่งงานเถียงหัวชนฝาจนต้องเอาเรื่องบุญคุณที่เธอลำบากหาเลี้ยงอ่อยผู้ชายรวยมาติดกับดักทำให้ลูกมีชีวิตที่ดีและได้รับการศึกษาจนได้เป็นอาจารย์แพทย์ก็เพราะเธอ ธนาจึงยอมตกลงทำตามใจแม่ให้ได้สมหวังและเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะทำเพื่อตอบแทนบุญคุณ
“ถ้างั้นก็ดีทัตชาติดูแลบัญชี แบมดูแลบริหารส่วนธนาเป็นหมอมีความรู้เกี่ยวกับการรักษาและวิวัฒนาการจะได้ช่วยสนับสนุนกันให้โรงพยาบาลของเราล้ำหน้าและมั่นคง” ดร.เจตจำนงพอใจเป็นอย่างมากเพราะต้องการให้งานบริหารทุกส่วนเป็นของคนในครอบครัวอีกทั้งยังรู้ว่าอัญญารินทร์รักธนามานานซึ่งธนาก็เป็นคนดีมีความสามารถเหมาะสมกับจะมาเป็นหลานเขยของตระกูล
เมลินดากลับมาจากปาร์ตี้ยืนฟังอยู่สักครู่ก็ปรบมือเสียงดังแล้วเดินเหยียดยิ้มเข้ามาในห้องรับแขกสีหน้าแววตาไม่สบอารมณ์
“น่ายินดีจริง ๆ เลยนะคะ เรือล่มในหนองทองจะไปไหน จับลูกสาวของลินแต่งงานกับลูกติดไม่มีหัวนอนปลายเท้าที่มาเนียนเป็นลูกหลานของตระกูลแล้วกำลังจะผลักดันได้ขึ้นเป็นหนึ่งในผู้บริหารมีสิทธิในมรดกครึ่งหนึ่งเพราะแต่งงานกับหลานสาวสุดที่รักของท่านดร.เจตจำนง ทั้งหมดนี้ดูวางแผนกันมาอย่างดีเลยนะคะว่ามั้ย”
“เรื่องนี้พวกเราปรึกษากันดีแล้ว คนที่ไม่สนใจอะไรอย่างลินไม่ต้องยุ่ง” ดร.เจตจำนงถอนหายใจกับลูกสาวนอกคอกไม่เคยได้ดั่งใจเลยสักอย่างแต่ท่านก็รักมากปล่อยให้ทำอะไรตามใจแม้ไม่ได้เรื่องก็จะหาคนมาปกป้องเพื่อให้ลูกมีชีวิตที่ดีฟุ้งเฟ้อแบบนี้ได้ต่อไป
“ก็คุณพ่อไม่เคยให้โอกาสหนูช่วยคิดแล้วจะให้หนูสนใจอะไรล่ะคะ” เมลินดามองเคือง ดร.เจตจำนงจึงบอกให้ทุกคนแยกย้ายแล้วลุกเดินหนีลูกสาวขาวีนไปดื้อ ๆ
“คุณพ่อทำเหมือนหนูเป็นอากาศอีกแล้วนะคะ” เมลินดาบ่นตามหลังกระทืบเท้าหน้าง้ำงอพลางเหล่มองทัตชาติกับวีณากำลังเดินหนีเธอไปด้วยอีกคนอย่างหงุดหงิด…
