เจ็บที่รัก

66.0K · จบแล้ว
shinkiro
40
บท
1.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ต่อให้รักจนใจเจ็บ คนที่เขาไม่รักก็คือไม่รัก เกริ่นนำ “แบมอยากหย่า ไม่ไหวจะหลอกตัวเองและต้องทนกับสามีที่รักผู้หญิงคนอื่นมากกว่าลูกเมีย” “ไว้ค่อยคุยกัน” เสียงทุ้มแผ่วลงตาหวานฉ่ำค่อย ๆ โน้มจะจูบปากนุ่มแต่เธอเบือนหน้าหนี “แบมไม่อยากท้องอีก” “พี่หลั่งข้างนอกจะได้ไม่ท้อง” หน้าหล่อเคลื่อนเข้าใกล้คลอเคลียแก้มเนียน เธอนิ่วหน้าแววตาเศร้าฝืนทนไม่ไหวผลักเขาให้ห่างตัว “แบมไม่อยากนอนกับพี่อีก แบมเสียใจทุกครั้งที่เรามีอะไรกัน ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งพี่ก็คิดว่ามีอะไรกับพี่พลอยไม่ใช่แบม!” “ถ้าไม่แทนพลอยก็เอาไม่ลง” “ก็ไม่ต้องเอา! รู้ตัวไหมว่าตัวเองมัน... พออยากก็มาเอาครางชื่อเมียเก่าพอเสร็จก็ไป มันเหมือนกระชากแบมให้ตกเหวใช้ชีวิตน่าสมเพชไปวัน ๆ แบมจะไม่ทนเป็นอีตัวของพี่อีก ออกไปจากชีวิตแบมสักที” ****** เป็นอีกเรื่องของหมอธนา (แฟนเก่าของพลอยลดานางเอกจากเรื่อง มาเฟียคนนี้อยากได้คุณ) กับภรรยาที่เขาแต่งงานทั้งที่ไม่รัก เขาไม่ไยดีและหลบหน้าลูกเมียด้วยการทำงานหนัก ที่สำคัญในใจพระเอกยังรักและผูกพันกับคนรักเก่าคือพลอยลดา

ประธานหมอโรแมนติกแต่งงานก่อนรักมีลูกการแต่งงาน

บทที่ 1 ลูกเขยหายหัว

ภายในห้องพักผู้ป่วย

อัญญารินทร์รู้สึกตัวขึ้นดวงตาเศร้าลืมขึ้นช้า ๆ รู้สึกอ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรงริมฝีปากแห้งกระหายน้ำงดดื่มน้ำมาเกือบครึ่งวันก่อนคลอดลูกจนกระทั่งตอนนี้

“ตื่นแล้ว ๆ แม่ไปดูหลานมาผิวขาวอมชมพูปากนิดจมูกหน่อยขี้เหร่มากเลย” วีณารีบลุกจากโซฟาด้วยความยิ้มแย้มตรงมาหาลูกสะใภ้ที่อิดโรย

“ลูกคงได้ขาวเหมือนพ่อค่ะ” อัญญารินทร์เสียงแหบแห้งกลืนน้ำลายลงคอลำบากนึกถึงสามีผิวพรรณขาวเนียนใบหน้าใสคิ้วเข้มเปลือกตาสองชั้นดวงตาจมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากหนากระจับสีชมพูระเรื่อหล่อสะอาดสะอ้านดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าโดยธรรชาติ

“นั่นสิดีเอ็นเอพ่อมาชัด เหมือนตอนธนาเล็ก ๆ เลย”

“เมื่อไหร่ลูกเขยจะมา เมียเจ็บท้องจนคลอดลูกจนป่านนี้ฉันยังไม่เห็นหน้าพ่อเด็ก” เมลินดาแทรกขึ้นนั่งหน้าตึงอยู่บนโซฟาอีกฝั่งของเตียงผู้ป่วย

“ธนาคงติดเคสผ่าตัดค่ะคุณลิน” วีณายิ้มแห้งรีบออกหน้าแทนลูกชาย

“ไม่ยืนขาแข็งหน้ามืดในห้องผ่าตัดไปแล้วเหรอ นี่มันผ่านมาเกือบสิบชั่วโมงแล้วหัดเห็นใจลูกฉันและเกรงใจฉันบ้าง!”

“เดี๋ยววีรีบโทรเช็กให้นะคะ”

“ไม่ต้องโทรหรอกค่ะคุณแม่ ถ้าพี่ธนาติดงานก็ไม่เป็นไร” อัญญารินทร์เอ่ยห้ามแม่สามีที่รีบคว้าโทรศัพท์มาติดต่อหาสามีให้เธอ

“แม่พระเข้าไปเถอะกับผัวแกเนี่ย นับวันยิ่งไม่เห็นหัวเมียขนาดคลอดลูกของมันแท้ ๆ เจ็บแทบปางตายมันยังไม่โผล่หัวมาดูเลย” เมลินดานั่งเขม่นลูกสาวตามใจสามีจนมองไม่เห็นค่าของตัวเองแล้วยังจะทำเป็นเข้าข้าง

“ถ้าเสร็จธุระแล้วธนาต้องมาดูแลหนูแบมแน่นอนค่ะ”

“ไม่ได้เรื่องเป็นถึงอาจารย์หมอซะเปล่า” เมลินดายังเหวี่ยงใส่ตามสไตล์ลูกคนรวยเลี้ยงดูมาอย่างตามใจ อัญญารินทร์เห็นแม่สามีหน้าเจื่อนจึงเปลี่ยนเรื่อง

“หนูขอน้ำดื่มหน่อยนะคะ”

“ได้จ้ะ” วีณารีบกุลีกุจอหยิบเหยือกน้ำมาเทน้ำดื่มใส่แก้วแล้วยื่นส่งให้ลูกสะใภ้ที่กำลังกดรีโมตให้หัวเตียงกระดกขึ้น

“ขอบคุณค่ะ” เธอหยิบแก้วน้ำมาดื่มน้ำบาดคอแหบแห้งนิด ๆ ก่อนจะวางแก้วแล้วเห็นกล่องขนมเค้กชิ้นเล็ก ๆ สองชิ้นวางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง

“นี่ขนมเค้กของใครคะ?”

“อุ้ย ไม่ได้สังเกตเลยคงมีคนเอามาวางตอนที่แม่ไปดูหลานแน่เลย น่ากินด้วยนะ มีชื่อร้านด้วย....เอ่อ เดี๋ยวแม่เอาไปแช่ในตู้เย็นก่อนนะ” วีณารีบคว้าถุงใส่ขนมเค้กมาเปิดออกดูพูดเสียงแจ๋วอยู่ ๆ ก็ชะงักสายตาหลุกหลิกก่อนจะรีบปิดถุงทันที

“ขอดูเค้กหน่อยได้ไหมคะ?”

“เค้กทั่วไปลูก หนูกินข้าวเสร็จแล้วเดี๋ยวแม่จะจัดใส่จานให้”

“หนูขอดูเค้กหน่อยค่ะ” เธอเสียงแข็งสีหน้าเรียบเฉยทำให้แม่สามีกังวลต้องจำใจยื่นถุงขนมเค้กให้กับลูกสะใภ้ อัญญารินทร์หยิบถุงขนมมาเปิดเห็นขนมเค้กดีไซน์น่ารักแล้วอ่านชื่อร้านที่เป็นสติกเกอร์ติดอยู่บนกล่อง

“ploylada café ” เสียงหวานแผ่วเบาเพียงเท่านั้นน้ำตาก็ร่วงหล่นหน้าแดงจมูกแดงขึ้นหอบหายใจแรงทันที

“ก็คงเป็นเจ้าอร่อยไม่น่าจะใช่ของร้านคนรู้จักหรอกเนอะ เดี๋ยวแม่เอาไปเก็บในตู้เย็นนะ” แม่สามีแสยะยิ้มสีหน้าไม่สู้ เมลินดากอดอกเอียงคอมองสงสัย

“รบกวนคุณแม่ช่วยเอาไปทิ้งถังขยะให้หน่อยค่ะ ทิ้งข้างนอกห้องนะคะหนูไม่อยากเห็น” หน้าสวยกล้ำกลืนเกร็งคอขึ้นเอ็นรีบรวบถุงส่งให้แม่สามีรับไว้

“จ้ะ ๆ” วีณารีบรับคำคว้าโทรศัพท์เดินปรี่ออกไปอย่างรีบร้อน เมลินดาเหล่มองลูกสาวที่กำลังนั่งปาดน้ำตา

“พลอยลดาชื่อคุ้น ๆ”

“แฟนเก่าพี่ธนา” เสียงหวานสั่นเครือเสียใจเจ็บปวดและอ่อนล้าเต็มที

“ฮะ! คิดได้ไงซื้อของร้านแฟนเก่ามาฝากเมีย ตลก” แม่แค่นหัวเราะเย้ยที่เธอห้ามแล้วว่าไม่ให้แต่งงานด้วยแต่ไม่ฟังเพราะหลงรักเขานักหนาแล้วดูมันทำไม่ไว้หน้ากันเลยสักนิด อัญญาวรินทร์กลั้นสะอื้นเหล่มองแม่ที่ไม่เคยปลอบโยนก่อนจะปรับเตียงลงนอนแล้วห่มผ้าหนีแม่

“นิ่งไม่โวยวาย”

“จะเงียบหรือโวยวายเขาก็ไม่รักแล้วจะทำให้เหนื่อยทำไมคะแม่” ริมฝีปากบางสั่นระริกมือกำผ้าห่มแน่นสะเทือนอารมณ์แต่ไม่อาจบอกให้ใครเข้าใจได้

“ขี้แพ้ เสียแรงที่แกเกิดมาเป็นลูกฉันจริง ๆ” เมลินดากลอกตาเสียงเหวี่ยงลูกสาวอ่อนแอไม่ได้ดั่งใจจนน่ารำคาญ

ด้านวีณาเดินหน้าง้ำคิ้วขมวดออกมาโยนขนมเค้กทิ้งด้วยความโมโหแล้วโทรหาลูกชายทันที

“ครับแม่”

“อยู่ที่ไหนทำไมไม่มาดูแลหนูแบม?”

“ผมไม่ได้เป็นหมอสูติไปจะช่วยอะไรได้” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเหนื่อยหน่าย

“แต่แกเป็นสามีและพ่อของลูกแค่มาคอยดูแลเมียมันจะตายมั้ย!” วีณาตวาดลั่นโมโหการต่อต้านของลูกจนประสาทจะกิน

“ผมเอาขนมไปเยี่ยมแล้วไง”

“ขนมเค้กจากร้านแฟนเก่าเนี่ยนะ”

“ก็แบมชอบกินขนมเค้ก”

“แต่มันไม่ใช่จากร้านแฟนเก่าไง หัดคิดให้มันเยอะกว่านี้หน่อยได้ไหม!” วีณาบ่นกระปอดกระแปดเอือมระอาแต่ทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้

“ผมคิดได้แค่นี้แหละครับ เพราะถ้าคิดเยอะผมคงไม่แต่งงานกับแบมเพราะแม่อยากได้มรดกของเขาหรอก แค่นี้นะครับผมมีตรวจคนไข้” เสียงทุ้มขุ่นเคืองก่อนจะกดตัดสายแม่ไปดื้อ ๆ วีณากำลังจะอ้าปากบ่นแต่ไม่ทันพยายามโทรกลับลูกก็ไม่ยอมรับสายเลยยืนกระวนกระวายนอกห้องไม่กล้าเข้าไปเผชิญหน้ากับแม่ยายของลูกชาย