ครั้งแรกที่สบตา
“นายครับ ซาน์ส่งรายงานความเรียบร้อยที่อังกฤษเข้าอีเมลนายเรียบร้อยแล้วนะครับ” คิมรายงานเจ้านายตัวเองก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไป ปล่อยให้เจ้านายได้ใช้ความคิดของตัวเองเงียบ ๆ
ภายในห้องทำงานหรู ชายหนุ่มนั่งเอนตัวกับเก้าอี้ หลับตาลงช้า ๆ ยกมือขึ้นนวดขมับเพื่อผ่อนคลายความเครียดของตัวเอง ห้องทำงานที่เงียบสงบไม่สามารถทำให้สมองประมวลผลได้เลยแม้แต่น้อย เหมือนตอนนี้ตัวเองกำลังหมดแพชชั่นในการทำงานยังไงอย่างงั้น
“ไม่ต้องตามมา” กลางดึกของคืนวันนั้น เกิดความเบื่อขึ้นภายในจิตใจของเจย์ เมื่อเขานั่งดื่มอยู่ภายในคอนโดหรู สายตาคมมองลงมายังข้างล่างของคอนโดที่มีรถแล่นอยู่ตลอดไม่ขาดสาย ชีวิตช่างไร้สีสันทำให้ร่างสูงแต่งตัวออกจากคอนโดโดยสั่งห้ามลูกน้อง ห้ามตามเขาออกไปเพราะเขาต้องการความเป็นส่วนตัวจึงไม่อยากให้ใครตามไปและที่นี่ก็ประเทศไทยคงไม่เกิดอันตรายกับเขาเป็นแน่
เจย์ขับรถออกจากคอนโดมุ่งไปยังผับหรูของตัวเองทันที หลังจากที่คิดได้ว่าเขายังมีกิจการแห่งนี้อยู่ ชายหนุ่มไม่ได้บอกใครว่าตัวเองจะเข้าไปผับ เพราะเห็นตัวอย่างจากบริษัทที่ไทยทำให้เขาต้องเข้าไปผับให้เหมือนนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการเท่านั้น
“รับอะไรดีครับ”
“ขอที่แรงที่สุด” ชายหนุ่มเดินเข้ามานั่งที่บาร์เหล้าพร้อมกับสั่งบาร์เทนเดอร์ ผับหรูแห่งนี้มีผู้คนมากมายต่างเข้ามาใช้บริการและยังเป็นกิจการที่ได้รับกำไรสูงมาก สายตาสอดส่องภายในผับหรูก่อนที่จะสะดุดกับชายหนุ่มที่กำลังยืนยิ้มให้กับลูกค้าอยู่ รอยยิ้มที่ไม่อาจละสายตาได้เลยจนคนที่ถูกมองต้องหันมาสบตากับเจ้าของสายตาดุคู่นี้
“เป็นเชี้ยไรวะ” หัวใจที่เต้นแรงไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตมาก่อนแม้กระทั่ง ดารา นางแบบ เขาเจอมาทุกรูปแบบแต่กลับไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แต่ทำไมเขาแค่สบตากับเด็กหนุ่มคนนั้น ใจถึงได้เต้นแรงขนาดนี้วะ คำสบถหยาบคายออกจากปากเจย์อย่างหัวเสียก่อนที่เจ้าตัวจะยกเหล้าขึ้นดื่มครั้งแล้วครั้งเล่า
เมื่อรู้สึกว่าตัวเองเมา เจย์จึงเดินออกจากผับทันที ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่มีอยู่ในร่างกายจำนวนมากทำให้เจ้าตัวเดินโซซัดโซเซออกจากผับ แต่เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเขาเจอกับกลุ่มชายฉะกันจำนวนหนึ่งที่เดินตรงเข้ามาหาเขา ไม่ทันที่พวกนั้นจะพูดพร่ำทำเพลงอะไรและด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ลดประสิทธิภาพการต่อสู้ลงแต่เขาก็ยังสามารถรับมือกับคนพวกนี้ได้
“วันนี้มาคนเดียวซะด้วย” ชายฉะกันที่เฝ้ารอโอกาสนี้มานาน เมื่อได้รับคำสั่งจากเจ้านายให้เฝ้าติดตามผู้ชายคนนี้มาตั้งนานกว่าจะสบโอกาสซึ่งมีไม่บ่อยนักที่คนอย่างเจย์จะไปไหนมาไหนคนเดียวโดยไม่มีลูกน้องคอยติดตาม
“อย่าพูดมาก เข้ามา” เป็นคนที่ไม่ชอบพูดพร่ำเพ้ออะไรอยู่แล้ว เขาเบื่อที่จะต้องยื่นฟังคำพูดไร้สาระของไอ้พวกสวะพวกนี้ ตอนนี้แค่อยากจะกลับไปพักผ่อนที่คอนโดแล้ว
“ปากเก่งนักนะมึง วันนี้มึงได้ตายสมใจแน่ไอ้หน้าอ่อน”
“ถุย!!” เจย์ถุยน้ำลายลงกับพื้นเพราะคำพูดไม่เข้าหูและดูไร้สาระของนักเลงกระจอกพวกนี้
“จัดให้มันหน่อยเว้ย พวกเรา”
สถานการณ์ชุลมุนหน้าผับที่คนภายนอกไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือสักคน แต่ดูเหมือนสถานการณ์ของเจย์ตอนนี้จะเป็นต่ออย่างมาก เพราะความเมาไม่สามารถทำให้ประสิทธิภาพการต่อสู้ของเขาลดลงไปมากนัก เมื่อเขาได้เปรียบทุกอย่างถึงแม้ว่าชายฉะกันจะมีหลายคนแต่ก็ไม่สามารถล้มเขาได้
ปัง!! เสียงปืนที่ยิงเข้าชายโครงของเจย์ทำให้เขาล้มลงแต่หัวเข่ายันกับพื้นเอาไว้ได้ เมื่อเจย์เริ่มเสียเปรียบกลุ่มชายฉะกันพวกนั้น พวกมันกรูเข้ามาทำร้ายเขาทันทีโดยที่ร่างกำยำยังคงต่อสู้ต่อถึงแม้ว่าเลือดจะออกเต็มไปหมด
ร่างกายกำยำโดนรุมกระทืบเลือดกระเด็นแปดเปื้อนพื้น ถ้าเป็นบุคคลทั่วไปคงตายไปนานแล้วแต่เจย์มีความอดทนสูงและร่างกายที่ฝึกมาอย่างหนัก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนยิงแม้ว่าตอนนี้สถานการณ์ของเขาจะเป็นรองแต่เจย์ยังคงปล่อย
“ตำรวจครับ คุณตำรวจ” เสียงตะโกนเรียกตำรวจเสียงดังทำให้กลุ่มชายฉะกันมองหน้ากันและล่าถอยออกไปตั้งหลักก่อน สายตาเจย์มองหาต้นเสียงที่เรียกตำรวจด้วยท่าทีที่หงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนจะปรากฏตัวชายหนุ่มรูปร่างสันทัดวิ่งเข้ามาประคองเขาเอาไว้
“คุณ คุณเป็นอะไรมั้ยครับ” น้ำเสียงร้อนรนเอ่ยถามร่างสูงที่ตัวเองประคองเอาไว้ เลือดที่แปดเปื้อนเต็มเสื้อของเขายังคงไหลออกมาไม่หยุด
“เสือก!!”
“อ้าว” คนที่วิ่งเข้ามาช่วยถึงกลับทำหน้าไม่ถูก เมื่อเจอคำตอบและสายตาตำหนิที่ส่งมาให้แบบนี้ ใบหน้าหล่อแทบจะไม่แสดงถึงความรู้สึกเจ็บปวดออกมาแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกับชายหนุ่มที่เข้ามาช่วยแทบจะกินหัวเขาเลยด้วยซ้ำกับคำพูดที่เขาพูดออกมาก่อนหน้านี้
“งั้นถ้าคุณยังไม่ตาย งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ภามตั้งท่าจะลุกขึ้นเพื่อกลับไปพักผ่อน เมื่อเห็นว่าเจ้าของร่างสูงไม่ได้เจ็บอะไรมากแค่ถูกยิงและโดนกระทืบเท่านั้น
“เดี๋ยว!!”
“อะไรในเมื่อคุณก็ไม่ได้เป็นอะไรมากก็รอรถกู้ชีพมารับไปโรงพยาบาลแล้วกัน ผมจะกลับไปพักผ่อนแล้ว” ใบหน้าบึ้งตึงของภามส่งมาให้เจย์ที่กำลังนั่งกุมแผลที่ตัวเองอยู่ ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อเสียงไซเรนดังขึ้นตรงมาที่หน้าผับ พร้อมกับเจ้าหน้าที่เดินลงจากรถเข้ามาปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้เจย์
“มึงอย่าพึ่งไป”
“รถกู้ชีพก็มาแล้วไง”
“ถ้ามึงเดินออกไป ชีวิตต่อจากนี้มึงจะไม่ได้อยู่สงบอีกเลยกูขอเตือน” ด้วยความง่วงนอนบวกกับความเพลียทำให้ภามเดินออกจากบริเวณนั้นโดยไม่ได้หันไปสนใจหรือให้ความสนใจกับคำพูดของคนเจ็บมากนัก เขาเดินกลับมาที่รถมอเตอร์ไซต์ของตัวเองพร้อมกับขี่กลับไปยังหอพักทันที
“แล้วเราจะได้เห็นดีกัน” ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครกล้าขัดคำสั่งเขาแม้แต่คนเดียว ไม่เคยมีใครกล้าเดินหนีเขาแบบนี้ ยิ่งทำให้คนร่างสูงโมโหจนลืมว่าตัวเองเจ็บอยู่ในขณะนี้ ก่อนที่ภาพทุกอย่างจะมืดดับไปเพราะเจ้าตัวเสียเลือดมากเกินไปและถูกหามตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
## เอาแล้วไงภาม นายไปกระตุกหนวดเสือเข้าให้แล้ว##
