บท
ตั้งค่า

บทนำ เงารักในรอยทราย (4)

“เท่าที่ข้าฟัง แค่คำเพรียกหาไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอันใด ท่านชีคผู้ยิ่งใหญ่อย่างท่านอาไม่น่าวิตก” ผู้นั่งบนเบาะนุ่มขนาบข้างด้วยสองนางงามอ้าปากรับเม็ดทับทิมสีชมพู ก่อนยกจอกทองเหลืองขึ้นจิบ

“ตรงข้ามกันเลย อาณาจักรในดินแดนอันไกลโพ้นล้วนแล้วแต่มาเยี่ยมเยือนเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับนครแห่งข้ามากมายนัก บุตรของข้าถูกนำไปเป็นตัวประกันคนแล้วคนเล่าจนไร้ทายาทผู้ปกครองนคร

ส่วนบุตรีแห่งข้าหลายนางถูกขอไปเป็นชีคคาจากหลายเผ่าซึ่งแข็งแกร่งด้วยการทหาร เราไม่สามารถแข็งข้อได้ แต่นั่นไม่ทำให้ข้าวิตกเท่ากับการมาเยือนของนครผู้กระหายชัยชนะแห่งสงครามหรอกนะ”

พอหลุดปากออกมาแล้วบรรยากาศในกระโจมจึงเปลี่ยนเป็นความตึงเครียดทันทีเมื่อชีคริยาร์ดยกมือขึ้นเพื่อหยุดการแสดงระบำหน้าท้อง

“ท่านอาคงมิได้หมายถึงการมาของข้าหรอกนะ” ผู้มีเจตนาเช่นนั้นตั้งแต่แรกถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ นัยน์ตาสีเข้มราวสีของน้ำมันดิบเป็นประกายเจิดจรัส

“หามิได้ ข้าหมายถึงการมาเยือนของผู้ปกครองนครแห่งทาสซากีมุสน่าต่างหาก” ชีคฮาซันรีบแก้

แต่คำตอบของผู้ปกครองนครคามิล่ากลับทำให้ดวงตาของผู้กระหายสงครามจรัสแสงขึ้นมาอีกครั้ง ลองนครซากีมุสน่าให้ความสนใจดินแดนปลายก้อยแห่งนี้แล้วล่ะก็ นั่นย่อมหมายความว่า ‘สงครามแย่งดินแดน’ กำลังเปิดฉากขึ้นอีกครั้ง

“คนพวกนั้นมาทำอะไรที่นี่หรือท่านอา?”

“เอ่อ...” จะให้บอกตรง ๆ ได้อย่างไรว่าทางนั้นขอเจริญสัมพันธไมตรี มีหวังนครคามิล่าได้ถูกชีคริยาร์ดตีกระจุยเป็นแน่ เพราะจากการเยี่ยมเยือนทุกครั้งชีคริยาร์ดก็แสดงออกให้เห็นตลอดเวลาว่าปรารถนาจักครอบครองนครเล็ก ๆ แห่งนี้นัก

“ฮึ?” ผู้ทรงอำนาจยกคิ้วหนาขึ้นสูงอย่างรอคอยคำตอบ

“ทางนั้นผ่านทางมาเจอเราเข้า จึงขอเจรจาค้าขายเป็นพันธมิตรรวมทั้งขอซื้อขายแลกเปลี่ยนม้าศึก”

“แล้วท่านอาให้คำตอบคนพวกนั้นเช่นไร?”

แทบยกมือปาดหยาดเหงื่อซึ่งเกาะบนผิวหน้า แต่ชีคฮาซันมีความอดทนอดกลั้นต่อแรงกดดันมากกว่านั้นเมื่อต้องเจรจากับท่านชีคผู้ยิ่งใหญ่อย่างชีคริยาร์ด

“ทางเรามีม้าศึกไม่มากพอ น่าเสียดายที่ต้องปฏิเสธไปเช่นนั้น”

คำตอบของผู้ปกครองนครคามิล่าทำให้ใบหน้าเข้มของชีคริยาร์ดคลายความเคร่งขรึมลงไปบ้าง ก่อนโบกมือให้สัญญาณกับเหล่านางระบำเปิดการแสดงต่อ

กระนั้นในสมองอันชาญฉลาดคงเต็มไปด้วยเรื่องต้องขบคิดมากมาย ลองศัตรูออกสะสมม้าศึกเช่นนี้ นั่นย่อมหมายความว่ากลิ่นอายสงครามคงเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่นานข้างหน้า

“ท่านอาปฏิเสธทางนั้นไปมิหวั่นหรอกรึว่ากองทัพซากีมุสน่าอันน่าสะพรึงกลัวจักแห่มาที่นี่”

การต้อนเหยื่อด้วยวิธีอันสุดแสนฉลาดแยบยลนั้นคือสิ่งที่ชีคริยาร์ดถนัด และมันใช้ได้ผลกับผู้ปกครองนครคามิล่าซึ่งเผยจุดอ่อนออกมาให้เห็นนัก

“ไม่เลยท่านชีค”

คำปฏิเสธนั้นไม่มั่นคงเท่าไหร่ ใช่... ชีคหนุ่มสัมผัสความหวาดเกรงในน้ำเสียงนั่นได้

“นครคามิล่ามิเคยก่อศัตรู เราเป็นมิตรกับคาราวานจากทุกนครที่มาเยี่ยมเยือน อีกอย่างหากผู้เคยค้าขายกับนครแห่งข้าดี ต้องรู้ขีดจำกัดของจำนวนสินค้าที่เรามี จักว่าไปสัปดาห์ที่แล้วคาราวานของท่านแวะมาพักม้าที่นี่

ข้าเห็นผ้าทอมือของนครท่านช่างมีลวดลายวิจิตรงดงามมากนัก จะสะดวกไหมหากข้าจะขอเจรจาแลกเปลี่ยนผ้าทอมือกับพืชผลทางการเกษตรของข้าในครั้งนี้เลย”

คิ้วหนาของชีคริยาร์ดยกขึ้นสูง ก่อนเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มมุมปากที่คู่สนทนาเปลี่ยนเรื่องได้อย่างรวดเร็ว “ด้วยยินดีขอรับท่านอา หึ สมแล้วที่ผู้ครองนครเก่งกาจเรื่องการเจรจาค้าขาย นครแห่งนี้จึงขึ้นชื่อว่าเป็นวาณิชแห่งตะวันออก”

“น้อมรับคำชมขอรับ” ชีคฮาซันยิ้มให้อีกครั้งก่อนลอบพ่นลมหายใจออกมาเมื่อสามารถรอดพ้นจากแรงกดดันของอีกฝ่ายมาได้อย่างหวุดหวิด

แม้นการมาเยือนของผู้ครองนครฟาตินจะไม่ใช่ครั้งแรก แต่การมาเยี่ยมเยือนของชีคริยาร์ด ผู้ขึ้นชื่อว่ากระหายสงครามได้นำความหวาดหวั่นมาสู่ชีคฮาซันตลอด เพราะทุกครั้งที่ชีคริยาร์ดมาเยือน ไม่เพียงต้องต้อนรับให้สมเกียรติผู้ยิ่งใหญ่ด้วยแล้ว ตอนแขกสำคัญนี้เดินทางกลับต้องมอบบรรณาการเพื่อยื้อชะตาของนครคามิล่าออกไปด้วย

แต่ครั้งนี้จักนำบรรณาการจากที่ไหนมอบให้ท่านชีคริยาร์ดล่ะ ? ในเมื่อนครคามิล่าเพิ่งยอมตัดใจยกทองคำก้อนโตให้กับผู้ปกครองคนใหม่ของนครซากีมุสนาผู้เหี้ยมโหดไปเมื่อไม่ถึงสิบราตรีที่แล้วนี้เอง

เฮ้อ... ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้มใจนัก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel