บท
ตั้งค่า

บทที่3

“ฉันรู้ว่าคุณแม่ฉันมีบุญคุณกับเธอมาก! แต่นี่มันก็คือชีวิตฉันเหมือนกัน!! และฉันไม่ต้องการมีลูกกับคนที่ฉันไม่ได้รัก เด็กที่เกิดจากเรื่องแบบนี้เธอว่าจะมีความสุขไหม เธอควรต้องเข้าใจตรงนี้นะ”

“ลินเข้าใจดีค่ะ แต่ว่า…”

“เอาเป็นว่าฉันจะอนุญาตให้เธออยู่ที่นี่ไปจนกว่าเสื้อผ้าที่เปียกฝนทั้งหมดของเธอจะแห้งก็แล้วกัน!” ภีมวัจน์จำต้องตัดบทสรุปก่อนจะลุกขึ้นและเดินหนีมาสงบสติอารมณ์ของตัวเองที่อีกด้านหนึ่งของตัวบ้านเพราะกลัวใจตัวเองว่าจะอดใจไม่อยู่ลากผู้หญิงบ้าที่แค่สวมเสื้อเชิ้ตแต่กลับทำให้เขารู้สึกร้อนวูบได้อย่างไม่น่าเชื่อ เขายอมรับว่าเธอเป็นคนสวยมากคนหนึ่ง สวยมากจนต้องมองตามเชียว

แต่แค่ความสวยอย่างเดียวมันคงไม่พอที่จะทำให้เขายอมหลับนอนเพื่อผลิตทายาทออกมาให้แก่ผู้เป็นแม่ได้ตามที่ท่านร้องขอ ไม่ว่ายังไงเขาก็ทำตามที่ท่านและผู้หญิงที่คนนี้ต้องการไม่ได้จริงๆ

ลลินลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อถูกทิ้งให้นั่งอยู่คนเดียวในห้องรับแขกที่ถูกจัดแต่งด้วยโทนสีขาวสะอาดตา ทุกๆ อย่างภายในบ้านนั้นล้วนแล้วแต่ถูกจัดวางเอาไว้อย่างเป็นที่เป็นทางบ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าของของพวกมันนั้นเป็นคนรักความมีระเบียบมากแค่ไหน ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อว่าตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่ในบ้านของเขา ชายหนุ่มที่ทำให้หัวใจของเด็กสาวผู้เดียวดายมาตั้งแต่เกิดเต้นรัวเร็วได้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ถึงแม้ว่าเขาจะทำเหมือนเธอไม่มีตัวตนเลย

แต่เขาคงจะจำเธอไม่ได้แล้วเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นในสายตาของภีมวัจน์มีแค่แฟนสาวคนสวยของเขาแต่เพียงคนเดียวมาโดยตลอดจนมันไม่เหลือที่ว่างให้กับใครคนไหนได้อีกเลย และเธอก็เชื่อว่าเขายังคงไม่ลืมรักแรกไม่เช่นนั้นคงไม่พาตัวเองหนีมาไกลถึงที่นี่เพื่อรักษาบาดแผลในใจ ละทิ้งครอบครัว ขังตัวเองเอาไว้ในบ้านหลังนี้เพียงลำพัง นั่นเป็นเพราะว่าเขายังคงฝังใจกับเรื่องราวในอดีต และมันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะทำให้เขาลบลืมมันไปได้อีกด้วย!!

ลลินใช้โอกาสที่พอจะมีอยู่คิดหาวิธีทำให้ภีมวัจน์ยอมให้เธออยู่ที่นี่ต่อไปเพื่อทำตามแผนการของคุณหญิงรัชชนกให้เป็นจริงตามความต้องการของท่าน แต่ไม่ว่าจะคิดหาวิธีเท่าไหร่ก็ดูเหมือนว่าเธอจะเจอแค่เพียงทางตันเท่านั้น เพราะเขาคงไม่มีทางยอมเปลี่ยนใจง่ายๆ แน่ และเธอเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปบังคับเขาให้ทำมันซะด้วยสิ

“อีกเดี๋ยวมะลิจะเอาอาหารเย็นมาให้ เธออยู่ว่างๆ ก็ช่วยรับให้ด้วยแล้วกัน ฉันมีธุระต้องไปทำ” เสียงเข้มจากคนที่เดินลงมาจากชั้นบนของตัวบ้านที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวชะงักไปก่อนจะมองเขาครู่

“แล้วเอ่อ…คุณภีมจะกลับมาทานข้าวเย็นไหมคะ”

“คงไม่! เธอทานไปก่อนเลย ฉันอาจกลับดึก ถ้าจะกลับก็ล็อคประตูบ้านแล้วซ่อนกุญแจไว้ที่กระถางต้นไม้หน้าบ้านก็แล้วกัน!” ภีมวัจน์พูดจบก็เดินออกไปจากบ้านทันทีทิ้งไว้แต่ลลินที่ชะเง้อมองตามจนเขาหายลับสายตาไปในที่สุด หญิงสาวลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ใจหนึ่งก็อยากจะถามว่าเขากำลังจะไปไหนแต่อีกใจก็ไม่กล้าด้วยไม่รู้ว่าตัวเองจะมีสิทธิ์มากพอที่จะก้าวขาเข้าไปจุ้นจ้านเรื่องส่วนตัวของเขาได้มากแค่ไหนในเมื่อเขากับเธอไม่ได้เป็นอะไรกัน

“อ้าวพี่ลิน! ไม่ได้ออกไปกับคุณภีมเหรอจ๊ะ” มะลิที่เพิ่งจะเดินมาถึงเอ่ยทักขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่นารินเห็นทีไรรู้สึกดีไปเสียทุกที เด็กผู้หญิงคนนี้ทำให้เธอรู้สึกดีกว่าต้องอยู่กับเจ้าของบ้านตามลำพัง

“ไม่ได้ไปหรอกจ๊ะ ว่าแต่มะลิรู้ไหมว่าป่านนี้แล้วคุณภีมเขาไปไหน พอดีว่าพี่ไม่กล้าถามน่ะ…” ลลินไม่เก็บความสงสัยเอาไว้อีกต่อไปเมื่อคิดว่ามะลิน่าจะพอให้คำตอบกับเธอได้ไม่มากก็น้อยแหละ“ถ้าเวลาอย่างนี้คงจะออกไปเที่ยวผับเหมือนทุกวันแหละจ๊ะพี่ ตั้งแต่คุณภีมแกย้ายมาอยู่ที่นี่หนูก็เห็นแกออกไปดื่มเหล้าแทบทุกวัน จะกลับก็ดึกดื้นนู้นแหละจ๊ะแถมสภาพที่เมาเละเทะเลย ทำอย่างกับคนอกหักไม่มีผิด!” ยิ่งได้ยินหญิงสาวก็ยิ่งรู้สึกเห็นใจภีมวัจน์มากขึ้น นี่ตลอดเวลาที่หนีมาอยู่ที่นี่เขาใช้ชีวิตแบบนี้เองหรอกเหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่มีพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะด้วยสถานะ หน้าตาหรือแม้แต่เงินทองที่ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมดจะใช้ชีวิตประชดรักที่ร้าวรานด้วยการทำตัวไม่เห็นคุณค่าในตัวเองไปแบบนี้ เธอทั้งรู้สึกเห็นใจเขาอยู่ไม่น้อย เขาน่าจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้สิ ไม่น่าขังตัวเองเอาไว้ในความรักที่ไม่สมหวังแบบนี้เลย ชีวิตของคนเราควรต้องเดินต่อไปสิถึงจะถูก

แล้วนี่เธอ…จะช่วยอะไรเขาบ้างไหมนะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel